ดาวิดทรงนับไพร่พล(A)

21 ซาตานลุกขึ้นเล่นงานอิสราเอล และดลใจให้ดาวิดทำสำมะโนไพร่พลอิสราเอล ดาวิดจึงตรัสกับโยอาบและเหล่าแม่ทัพนายกองว่า “จงไปนับไพร่พลอิสราเอลจากเมืองเบเออร์เชบาจดเมืองดานแล้วกลับมารายงาน เพื่อเราจะรู้ว่ามีคนอยู่เท่าไร”

โยอาบทูลทัดทานว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มพูนกำลังพลของพระองค์ร้อยเท่า ทั้งหมดก็เป็นคนของฝ่าพระบาทไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงทรงประสงค์ให้ทำเช่นนี้? ควรหรือที่จะนำความผิดมาสู่อิสราเอล?”

แต่คำบัญชาของกษัตริย์ย่อมมีอำนาจเหนือโยอาบ โยอาบจึงเดินทางไปทั่วดินแดนอิสราเอลแล้วกลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม โยอาบทูลรายงานดาวิดว่าจำนวนคนที่ออกรบได้ทั่วทั้งอิสราเอลมี 1,100,000 คน และ 470,000 คนในยูดาห์

แต่โยอาบไม่ได้รวมจำนวนคนเลวีและเบนยามิน เพราะเขารู้สึกว่าคำบัญชานี้น่ารังเกียจ คำบัญชานี้ก็เป็นสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระเจ้าด้วย ดังนั้นพระองค์จึงทรงลงโทษอิสราเอล

ดาวิดกราบทูลพระเจ้าว่า “สิ่งที่ข้าพระองค์ทำนั้นบาปมาก บัดนี้ขอทรงโปรดยกโทษความผิดของผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าพระองค์ได้ทำสิ่งที่โง่เขลามาก”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับกาดผู้ทำนายของดาวิดว่า 10 “จงไปบอกดาวิดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า เรามีข้อเสนอสามประการ ให้เจ้าเลือกอย่างหนึ่งแล้วเราจะจัดการกับเจ้าตามนั้น’ ”

11 กาดจึงเข้าเฝ้าและทูลดาวิดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า ‘จงเลือกเอา 12 ระหว่างการกันดารอาหารสามปี หรือถูกดาบของศัตรูของเจ้าล้างผลาญสามเดือน[a] หรือถูกลงโทษด้วยดาบขององค์พระผู้เป็นเจ้าสามวันคือ โรคระบาดร้ายแรงซึ่งทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะนำหายนะมาสู่อิสราเอลทุกหย่อมหญ้า’ ดังนั้นขอทรงแจ้งคำตอบเพื่อข้าพระบาทจะนำไปทูลพระองค์ผู้ทรงใช้ข้าพระบาทมา”

13 ดาวิดตรัสตอบกาดว่า “เราลำบากใจมาก แต่ขอตกอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าดีกว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของมนุษย์ เพราะพระเมตตาคุณของพระองค์ใหญ่หลวงนัก”

14 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เกิดโรคระบาดในอิสราเอล เป็นผลให้มีคนล้มตายเจ็ดหมื่นคน 15 ในช่วงโรคระบาด พระเจ้าทรงใช้ทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาทำลายล้างกรุงเยรูซาเล็ม แต่ขณะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรแล้วทรงทุกข์พระทัยเนื่องด้วยภัยพิบัตินั้น จึงตรัสแก่ทูตผู้ทำลายว่า “พอแล้ว! ยั้งมือเถิด” ขณะนั้นทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังยืนอยู่ที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์[b]ชาวเยบุส

16 เมื่อดาวิดทอดพระเนตรเห็นทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ายืนอยู่ระหว่างฟ้าสวรรค์กับแผ่นดินโลก และถือดาบอยู่เหนือกรุงเยรูซาเล็ม ดาวิดกับบรรดาผู้อาวุโสซึ่งสวมผ้ากระสอบอยู่จึงหมอบกราบซบหน้าลงกับพื้น

17 ดาวิดกราบทูลพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์ไม่ใช่หรือที่สั่งให้นับจำนวนไพร่พล ข้าพระองค์คือผู้ที่ทำผิดทำบาป ประชากรเหล่านี้เป็นแต่เพียงฝูงแกะ พวกเขาทำผิดอันใดเล่า? ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงลงโทษข้าพระองค์กับครอบครัวเท่านั้นเถิด แต่อย่าให้ภัยพิบัตินี้ยังคงอยู่กับประชากรของพระองค์เลย”

18 ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงสั่งกาดให้ไปแจ้งดาวิดให้ขึ้นไปสร้างแท่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์ชาวเยบุส 19 ดาวิดจึงไปปฏิบัติตามพระดำรัสซึ่งกาดได้กล่าวไว้ในพระนามของพระยาห์เวห์

20 ขณะอาราวนาห์กำลังนวดข้าวสาลีอยู่ เขาเหลียวมาเห็นทูตสวรรค์ บุตรชายสี่คนของเขาที่อยู่ด้วยก็วิ่งหนีไปซ่อนตัว 21 แล้วอาราวนาห์เห็นดาวิดเดินเข้ามาหา จึงวิ่งจากลานนวดข้าวมากราบซบหน้าลงถึงดินต่อหน้าดาวิด

22 ดาวิดตรัสกับอาราวนาห์ว่า “เราขอซื้อลานนวดข้าวแห่งนี้จากเจ้าเต็มราคา แล้วเราจะสร้างแท่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะได้ทรงระงับโรคระบาดครั้งนี้”

23 อาราวนาห์ทูลดาวิดว่า “ข้าแต่องค์กษัตริย์ ขอฝ่าพระบาททรงรับไปเถิด จะใช้ทำสิ่งใดก็ตามแต่จะโปรด ขอทรงรับวัวไปเป็นเครื่องเผาบูชา เลื่อนนวดข้าวสามารถใช้เป็นฟืน และข้าวสาลีสำหรับเป็นเครื่องธัญบูชา ข้าพระบาทขอถวายทั้งหมดนี้”

24 แต่กษัตริย์ดาวิดตรัสตอบอาราวนาห์ว่า “เรายืนยันที่จะซื้อเต็มราคา เราไม่อาจรับสิ่งที่เป็นของเจ้าไปถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า หรือจะถวายเครื่องเผาบูชาโดยไม่ลงทุนอะไรเลย”

25 ดาวิดจึงทรงจ่ายทองคำหนักประมาณ 7 กิโลกรัม[c] ให้แก่อาราวนาห์เป็นค่าที่ดิน 26 แล้วดาวิดสร้างแท่นบูชาขึ้นที่นั่นถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และถวายเครื่องเผาบูชากับเครื่องสันติบูชาด้วย ดาวิดร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบโดยให้ไฟจากฟ้าสวรรค์มาเผาเครื่องบูชาบนแท่นนั้น

27 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้ทูตองค์นั้นเก็บดาบเข้าฝัก 28 เมื่อดาวิดเห็นว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบคำวิงวอนที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์ชาวเยบุส ก็ทรงถวายเครื่องบูชาที่นั่นอีก 29 พลับพลาขององค์พระผู้เป็นเจ้าและแท่นบูชาซึ่งโมเสสได้สร้างขึ้นในถิ่นกันดารยังคงอยู่บนสถานบูชาบนที่สูงในกิเบโอน 30 แต่ดาวิดไม่สามารถเสด็จไปทูลถามพระเจ้าที่นั่น เพราะกลัวดาบของทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้า

Footnotes

  1. 21:12 ฉบับ LXX. และ Vulg. ว่าเตลิดหนีจากการไล่ล่าฆ่าฟันของศัตรูสามเดือน(ดู2ซมอ.24:13)
  2. 21:15 ภาษาฮีบรูว่าโอรนันเป็นอีกรูปหนึ่งของอาราวนาห์เช่นเดียวกับข้อ 18-28
  3. 21:25 ภาษาฮีบรูว่า600 เชเขล

ดาวิดบาปเพราะนับชาวอิสราเอล

(2 ซมอ. 24:1-25)

21 ซาตานได้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับอิสราเอล และยุให้ดาวิดนับประชาชนชาวอิสราเอล ดาวิดได้พูดกับโยอาบและพวกแม่ทัพว่า “ให้ไปนับประชาชนชาวอิสราเอลตั้งแต่เบเออร์เชบาไปจนถึงดาน แล้วกลับมารายงานเรา เราจะได้รู้จำนวนของพวกเขา”

แต่โยอาบพูดว่า “ขอให้พระยาห์เวห์เพิ่มจำนวนของประชาชนของพระองค์ขึ้นอีกร้อยเท่าจากที่พวกเขาเป็นอยู่ขณะนี้เถิด ท่านกษัตริย์ คนอิสราเอลทั้งหมดล้วนเป็นคนรับใช้ของท่านมิใช่หรือ ทำไมท่านถึงต้องการทำอย่างนี้ด้วย ทำไมถึงให้สิ่งนี้ต้องกลายเป็นความบาปของชนชาติอิสราเอลด้วยเล่า”

แต่กษัตริย์ยังคงยืนกรานคำสั่งที่ให้กับโยอาบไป ดังนั้นโยอาบจึงได้ออกเดินทางไปทั่วทั้งแผ่นดินอิสราเอล แล้วจึงกลับมาเมืองเยรูซาเล็ม โยอาบได้เสนอรายงานการนับประชาชนให้กับดาวิด ชาวอิสราเอลทั้งหมดมีผู้ชายหนึ่งล้านหนึ่งแสนคนที่สามารถใช้ดาบได้ และผู้ชายชาวยูดาห์ที่ใช้ดาบได้มีจำนวนสี่แสนเจ็ดหมื่นคน โยอาบไม่ได้นับชาวเลวีและชาวเบนยามินรวมไปด้วย เพราะเขาไม่ชอบคำสั่งนี้ของกษัตริย์ พระเจ้าก็ไม่พอใจคำสั่งนี้ด้วย ดังนั้นพระองค์จึงลงโทษชาวอิสราเอล

ดาวิดพูดกับพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าได้ทำบาปอย่างใหญ่หลวงที่ได้ทำสิ่งนี้ลงไป แต่ตอนนี้ขอโปรดเอาความผิดของข้าพเจ้าผู้รับใช้พระองค์ไปด้วยเถิด เพราะข้าพเจ้าได้ทำตัวโง่เขลาไป”

พระยาห์เวห์ได้พูดกับกาด ผู้ที่เห็นนิมิตของดาวิดว่า 10 “ให้ไปบอกกับดาวิดว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่า เรามีสามทางให้เจ้าเลือก เลือกมาทางหนึ่ง แล้วเราจะทำกับเจ้าตามนั้น’”

11 ดังนั้น กาดจึงไปพบดาวิดและได้พูดกับเขาว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด เลือกมาอย่างหนึ่ง 12 คือ อดอยากสามปี หรือ วิ่งหนีศัตรูที่เอาดาบไล่ล่าเจ้าสามเดือน หรือสามวันของดาบของพระยาห์เวห์ ซึ่งก็คือโรคระบาดร้ายแรงในแผ่นดินนี้ พร้อมกับทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ที่จะลงมาทำลายล้างประชาชนที่อยู่ทั่วทั้งเขตแดนของชนชาติอิสราเอล ตอนนี้ ให้ท่านคิดดูว่าจะให้ข้าพเจ้านำคำตอบอันไหนไปให้กับผู้ที่ส่งข้าพเจ้ามา”

13 ดาวิดจึงตอบกาดไปว่า “เรากลุ้มใจมาก เราขอตกอยู่ในกำมือของพระยาห์เวห์ เพราะความเมตตาของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่นัก แต่ขออย่าให้เราตกไปอยู่ในกำมือของพวกมนุษย์เลย”

14 ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงได้ส่งโรคระบาดร้ายแรงมาสู่ชนชาติอิสราเอลทำให้มีคนตายเจ็ดหมื่นคน 15 และพระเจ้าก็ได้ส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาที่เยรูซาเล็มเพื่อทำลายมัน แต่เมื่อทูตสวรรค์ได้เริ่มต้นการทำลาย พระยาห์เวห์มองดูแล้วก็เปลี่ยนใจไม่ทำลายล้างเยรูซาเล็ม พระองค์พูดกับทูตสวรรค์ที่กำลังทำลายเยรูซาเล็มอยู่นั้นว่า “พอเถิด รามือของท่านเถิด” ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์กำลังยืนอยู่ที่ลานนวดข้าวของโอรนันชาวเยบุส[a]

16 ดาวิดมองขึ้นไปและได้เห็นทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ยืนอยู่ระหว่างสวรรค์กับพื้นโลก มือของท่านชักดาบออกมาและชี้ไปที่เมืองเยรูซาเล็ม แล้วดาวิดกับพวกผู้ใหญ่ที่แต่งกายด้วยผ้ากระสอบ[b] ก็ก้มหน้าลงถึงพื้นดิน 17 ดาวิดพูดกับพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนสั่งให้นับประชาชนพวกนี้เอง ข้าพเจ้าเป็นคนที่ได้ทำบาป และได้ทำความผิดลงไป แต่พวกลูกแกะพวกนี้ได้ทำอะไรผิดเล่า ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดลงโทษข้าพเจ้ากับครอบครัวของข้าพเจ้าเถิด อย่าไปลงโทษประชาชนของพระองค์ด้วยโรคระบาดร้ายแรงอย่างนี้เลย”

18 (ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ได้บอกกับกาดให้ไปบอกกับดาวิดให้ไปตั้งแท่นบูชาให้แก่พระยาห์เวห์บนลานนวดข้าวของโอรนันชาวเยบุส 19 ดังนั้น ดาวิดจึงได้ขึ้นไปทำตามคำพูดของกาดซึ่งเขาได้พูดไว้ในนามของพระยาห์เวห์)

20 โอรนันกำลังนวดข้าวสาลีอยู่ เขาได้หันมาเห็นทูตสวรรค์องค์นั้น พวกลูกชายทั้งสี่คนของเขาซึ่งอยู่กับเขาต่างก็วิ่งไปแอบ 21 เมื่อดาวิดมาหาเขา โอรนันเห็นดาวิด เขาก็เดินออกมาจากลานนวดข้าว ก้มลงกราบดาวิดจนหน้าจดพื้น

22 ดาวิดพูดกับโอรนันว่า “ขายลานนวดข้าวแห่งนี้ให้กับเราเถิด ขายให้กับเราเต็มราคาเลย เราจะได้สร้างแท่นบูชาให้แก่พระยาห์เวห์ขึ้นที่นี่ เพื่อที่ว่าโรคระบาดร้ายแรงจะได้หายไปจากประชาชน”

23 แล้วโอรนันก็ตอบดาวิดไปว่า “รับมันไปเถิด ขอให้กษัตริย์ผู้เป็นนายของข้าพเจ้าทำในสิ่งที่ท่านเห็นว่าดีเถิด ข้าพเจ้ายังจะให้วัวผู้อีกหลายตัวเป็นเครื่องเผาบูชา ให้เลื่อนนวดข้าวเป็นฟืน และให้ข้าวสาลีเพื่อเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ข้าพเจ้าขอมอบทั้งหมดนี้ให้”

24 แต่กษัตริย์ดาวิดได้พูดกับโอรนันว่า “อย่าเลย เราจะขอซื้อของเหล่านี้เต็มราคา เพราะเราจะไม่เอาของๆท่านมาถวายบูชาพระยาห์เวห์ และเราจะไม่ยอมบูชาเครื่องเผาบูชาที่เราได้มาฟรีๆ”

25 ดังนั้น ดาวิดจึงจ่ายโอรนันไปด้วยทองคำหนักเจ็ดกิโลกรัม[c] เป็นค่าสถานที่ 26 แล้วดาวิดก็ได้สร้างแท่นบูชาขึ้นแท่นหนึ่งที่นั่นให้กับพระยาห์เวห์ และได้บูชาเครื่องเผาบูชากับเครื่องบูชาอื่นๆเพื่อคืนดีกับพระเจ้า ดาวิดได้เรียกพระยาห์เวห์ และพระองค์ก็ได้ตอบเขาด้วยไฟจากสวรรค์ที่ลงมาบนแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชานั้น 27 แล้วพระยาห์เวห์ได้สั่งทูตสวรรค์องค์นั้นให้เก็บดาบของท่านเข้าฝัก

28 ในเวลานั้น ดาวิดเห็นว่าพระยาห์เวห์ตอบรับเขาแล้วที่ลานนวดข้าวของโอรนันชาวเยบุส หลังจากที่เขาได้ถวายเครื่องบูชาให้กับพระองค์ที่นั่น 29 (ขณะนั้น เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ที่โมเสสได้สร้างขึ้นในทะเลทราย และแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชาอยู่ในสถานที่สูงที่กิเบโอน 30 แต่ดาวิดไม่สามารถไปอยู่ต่อหน้าแท่นนั้นเพื่อขอคำปรึกษาจากพระเจ้าได้ เพราะเขาเกรงกลัวดาบของทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์)

Footnotes

  1. 21:15 ชาวเยบุส ชนชาติหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มก่อนที่ชาวอิสราเอลจะเข้ายึดเมือง คำว่า “เยบุส” เป็นชื่อเก่าของเมืองเยรูซาเล็ม
  2. 21:16 ผ้ากระสอบ คือ ผ้าเนื้อหยาบ ทำจากขนสัตว์ ใช้สวมใส่เพื่อแสดงความโศกเศร้า
  3. 21:25 เจ็ดกิโลกรัม หรือแปลตรงๆได้ว่า หกร้อยเชเขล

21 ซาตานลุกขึ้นต่อต้านอิสราเอล และทำให้ดาวิดเกิดต้องการนับจำนวนชาวอิสราเอลขึ้นมา ดังนั้นดาวิดจึงกล่าวกับโยอาบและบรรดาผู้บัญชากองทัพว่า “จงไปนับจำนวนนักรบชาวอิสราเอล ตั้งแต่เมืองเบเออร์เช-บาถึงเมืองดาน และมารายงานกับเรา เราจะได้รู้ว่ามีจำนวนกี่คน” แต่โยอาบตอบกษัตริย์ว่า “ขอให้พระผู้เป็นเจ้าเพิ่มทหารมากขึ้นเป็นร้อยเท่าเถิด เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ พวกเขาทุกคนเป็นผู้รับใช้ของเจ้านายข้าพเจ้ามิใช่หรือ แล้วเหตุใดเจ้านายข้าพเจ้าจึงปรารถนาเช่นนี้ เหตุใดท่านจึงเป็นเหตุให้อิสราเอลทำบาป” แต่คำบัญชาของกษัตริย์เหนือกว่าโยอาบ ดังนั้นโยอาบจึงจากไป เขาไปทั่วอิสราเอลและกลับมายังเยรูซาเล็ม และโยอาบเรียนดาวิดว่า เขารวมจำนวนนักรบได้ตามนี้คือ ในอิสราเอลมีผู้ที่รู้จักใช้ดาบ 1,100,000 คน และในยูดาห์มี 470,000 คน แต่เขาไม่ได้รวมจำนวนเผ่าเลวีและเบนยามิน เพราะคำสั่งของกษัตริย์เป็นที่น่ารังเกียจต่อเขา

แต่พระเจ้าไม่พอใจที่มีการนับจำนวนคนในครั้งนี้ พระองค์จึงลงโทษอิสราเอล ดาวิดพูดกับพระเจ้าว่า “สิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำนับว่าเป็นบาปมหันต์ แต่บัดนี้ โปรดกำจัดบาปของผู้รับใช้ของพระองค์เถิด เพราะว่าข้าพเจ้าได้กระทำไปด้วยความโง่เขลา” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวผ่านกาด ซึ่งเป็นผู้รู้ของดาวิดว่า 10 “จงไปบอกดาวิดว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า ‘เราเสนอ 3 สิ่งแก่เจ้า จงเลือก 1 สิ่ง แล้วเราจะกระทำต่อเจ้า’” 11 ดังนั้นกาดจึงมาหาดาวิดและเรียนท่านว่า “พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า ‘แล้วแต่เจ้าจะเลือก 12 จะให้เกิดทุพภิกขภัยเป็นเวลา 3 ปี หรือว่าเจ้าจะต้องหลบหนีศัตรูที่ใช้ดาบล่าเจ้าไปเป็นเวลา 3 เดือน หรือไม่ก็รับโทษจากดาบของพระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลา 3 วัน ให้เกิดโรคระบาดในแผ่นดิน พร้อมทั้งให้ทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าทำลายทั่วอาณาจักรของอิสราเอล’ ขอให้ท่านตัดสินใจว่าจะเป็นคำตอบข้อใดที่ข้าพเจ้าจะนำกลับไปยังพระองค์ที่ส่งข้าพเจ้ามา” 13 ดาวิดกล่าวกับกาดว่า “เราเศร้าใจยิ่งนัก ขอให้เราอยู่ในมือของพระผู้เป็นเจ้าเถิด เพราะพระองค์มีความเมตตายิ่งนัก และอย่าให้ข้าพเจ้าตกอยู่ในมือของมนุษย์”

14 ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าจึงให้เกิดโรคระบาดในอิสราเอล และพลเมืองจำนวน 70,000 คนล้มตาย 15 และพระเจ้าใช้ทูตสวรรค์ไปยังเยรูซาเล็มเพื่อทำลายเมือง แต่ขณะที่ทูตสวรรค์กำลังจะทำลายเมืองให้สิ้นไป พระผู้เป็นเจ้าเห็น และพระองค์เสียใจเพราะความวิบัติ จึงกล่าวกับทูตสวรรค์ที่กำลังทำลายพลเมืองว่า “พอแล้ว ยั้งมือของเจ้าไว้” และทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้ากำลังยืนอยู่ที่ข้างลานนวดข้าวของโอร์นันชาวเยบุส 16 ดาวิดเงยหน้าขึ้นดู และเห็นทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้ายืนอยู่ระหว่างแผ่นดินโลกและสวรรค์ มือถือดาบที่ชักออกและยื่นไปยังเยรูซาเล็ม แล้วดาวิดกับบรรดาผู้อาวุโสที่สวมผ้ากระสอบก็หมอบราบลงกับพื้น 17 และดาวิดพูดกับพระเจ้าว่า “เป็นคำสั่งของข้าพเจ้ามิใช่หรือที่ให้นับจำนวนนักรบ ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ได้กระทำบาป และข้าพเจ้าได้กระทำด้วยความเลวร้าย แต่ว่าลูกแกะเหล่านี้ พวกเขากระทำอะไรเล่า โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ขอพระองค์กระทำต่อข้าพเจ้าและพงศ์พันธุ์ของข้าพเจ้าเถิด แต่อย่าให้เกิดภัยพิบัติกับชนชาติของพระองค์เลย”

ดาวิดสร้างแท่นบูชา

18 ทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าสั่งกาดให้ไปเรียนดาวิดว่า ดาวิดควรขึ้นไปสร้างแท่นบูชาที่ลานนวดข้าวของโอร์นัน[a]ชาวเยบุสให้แด่พระผู้เป็นเจ้า 19 ดังนั้นดาวิดจึงขึ้นไป ตามที่กาดมาเรียนท่าน ตามคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า 20 ฝ่ายโอร์นันกำลังนวดข้าวสาลี ก็หันมาเห็นทูตสวรรค์ บุตร 4 คนที่อยู่ด้วยกับเขาก็ไปซ่อนตัว 21 เมื่อดาวิดเข้ามาใกล้โอร์นัน โอร์นันมองดูก็เห็นดาวิด เขาจึงเดินออกไปจากลานนวดข้าว และแสดงความเคารพแก่ดาวิด และก้มหน้าลงที่พื้น 22 ดาวิดกล่าวกับโอร์นันว่า “ให้ลานนวดข้าวแก่เราเถิด เพื่อสร้างแท่นบูชาให้แด่พระผู้เป็นเจ้า ขายให้เราเต็มราคา เผื่อว่าภัยพิบัติในหมู่คนจะได้ยุติลง” 23 โอร์นันตอบดาวิดว่า “โปรดรับไปเถิด แล้วแต่เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์จะกระทำสิ่งที่ท่านเห็นดีเถิด ดูเถิด ข้าพเจ้ามอบโคสำหรับเผาเป็นของถวาย คราดเลื่อนเป็นฟืน และข้าวสาลีเป็นเครื่องธัญญบูชา ข้าพเจ้าขอมอบให้ทั้งหมด” 24 แต่กษัตริย์ดาวิดกล่าวกับโอร์นันว่า “ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเราจะซื้อในราคาเต็ม เราจะไม่รับสิ่งที่เป็นของท่านไปมอบแด่พระผู้เป็นเจ้า หรือมอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายที่ได้มาโดยไม่เสียสิ่งใดเลย” 25 ดังนั้นดาวิดจึงจ่ายโอร์นันเป็นทองคำหนัก 600 เชเขล[b]สำหรับลานนวดข้าว 26 และดาวิดก็ได้สร้างแท่นบูชาแด่พระผู้เป็นเจ้า ณ ที่นั่น และได้มอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวายและของถวายเพื่อสามัคคีธรรม และร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า และพระผู้เป็นเจ้าได้ตอบคำร้องขอด้วยเปลวไฟจากสวรรค์ลงสู่แท่นบูชาที่ใช้เผาสัตว์เพื่อเป็นของถวาย[c] 27 แล้วพระผู้เป็นเจ้าก็บัญชาทูตสวรรค์ ท่านจึงเก็บดาบไว้ในฝัก

28 ในครั้งนั้น เมื่อดาวิดเห็นว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ตอบตามคำร้องของท่านแล้วที่ลานนวดข้าวของโอร์นันชาวเยบุส ท่านก็มอบเครื่องสักการะที่นั่น 29 เพราะว่ากระโจมที่พำนักของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งโมเสสได้สร้างขึ้นในถิ่นทุรกันดาร และแท่นบูชาที่ใช้เผาสัตว์เพื่อเป็นของถวายในเวลานั้นอยู่ที่สถานบูชาบนภูเขาสูงในกิเบโอน 30 แต่ดาวิดไม่สามารถไปถามพระเจ้าที่นั่นได้ เพราะว่าท่านกลัวดาบของทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า

Footnotes

  1. 21:18 โอร์นันเป็นคนเดียวกันกับอาราวนาห์ในฉบับ 2 ซามูเอล 24:18
  2. 21:25 1 เชเขล หนักประมาณ 11.4 กรัม
  3. 21:26 2 ซามูเอล 24:1-25