马太福音 26
Chinese Contemporary Bible (Simplified)
谋害耶稣
26 耶稣讲完了这番话后,对门徒说: 2 “你们知道,两天后就是逾越节,到时人子会被出卖,被钉在十字架上。” 3 那时,祭司长和民间的长老正聚集在大祭司该亚法的府里, 4 策划逮捕、杀害耶稣。 5 但他们认为在节日期间不宜下手,因为可能会在百姓中引起骚乱。
耶稣受膏
6 当耶稣在伯大尼患过麻风病的西门家里时, 7 有个女子趁着祂坐席的时候,把一瓶珍贵的香膏倒在祂头上。
8 门徒看见后,生气地说:“真浪费, 9 这瓶香膏值不少钱,用来周济穷人多好!”
10 耶稣看出他们的心思,便说:“何必为难这女子?她在我身上做的是一件美事。 11 因为你们身边总会有穷人,可是你们身边不会总有我。 12 她把香膏浇在我身上是为我的安葬做准备。 13 我实在告诉你们,无论福音传到世界哪个角落,人们都会传扬这女人的事迹,纪念她。”
犹大出卖耶稣
14 后来,十二门徒中的加略人犹大去见祭司长,说: 15 “如果我把耶稣交给你们,你们肯出多少钱?”他们就给了他三十块银子。 16 从那时起,犹大就寻找机会出卖耶稣。
最后的晚餐
17 除酵节的第一天,门徒来问耶稣说:“我们该在什么地方为你准备逾越节的晚餐呢?”
18 耶稣说:“你们进城去,到某人那里对他说,‘老师说祂的时候到了,祂要与门徒在你家中过逾越节。’” 19 门徒照耶稣的吩咐准备了逾越节的晚餐。
20 傍晚,耶稣和十二个门徒吃晚餐。 21 席间,耶稣说:“我实在告诉你们,你们中间有一个人要出卖我。”
22 他们都非常忧愁,相继追问耶稣,说:“主啊,肯定不是我吧?”
23 祂说:“那和我一同在盘子里蘸饼吃的就是要出卖我的人。 24 人子一定会受害,正如圣经上有关祂的记载,但出卖人子的人有祸了,他还不如不生在这世上!”
25 出卖耶稣的犹大问祂:“老师,是我吗?”
耶稣说:“你自己说了。”
26 他们吃的时候,耶稣拿起饼来,祝谢后掰开分给门徒,说:“拿去吃吧,这是我的身体。”
27 接着又拿起杯来,祝谢后递给门徒,说:“你们都喝吧, 28 这是我为万人所流的立约之血,为了使罪得到赦免。 29 我告诉你们,从今天起,一直到我在我父的国与你们共饮新酒的那一天之前,我不会再喝这葡萄酒。” 30 他们唱完诗歌,就出门去了橄榄山。
预言彼得不认主
31 耶稣对门徒说:“今天晚上,你们都要离弃我。因为圣经上说,‘我要击打牧人,羊群将四散。’ 32 但我复活后,要先你们一步去加利利。”
33 彼得说:“即使所有的人都离弃你,我也永远不会离弃你!”
34 耶稣说:“我实在告诉你,今夜鸡叫以前,你会三次不认我。”
35 彼得说:“就算要我跟你一起死,我也不会不认你!”其余的门徒也都这样说。
在客西马尼祷告
36 耶稣和门徒到了一个叫客西马尼的地方,祂对门徒说:“你们坐在这里,我到那边去祷告。” 37 祂带了彼得和西庇太的两个儿子一起去。祂心里非常忧伤痛苦, 38 就对他们说:“我心里非常忧伤,几乎要死,你们留在这里跟我一起警醒。”
39 祂稍往前走,俯伏在地上祷告:“我父啊!如果可以,求你撤去此杯。然而,愿你的旨意成就,而非我的意愿。”
40 耶稣回到三个门徒那里,见他们都睡着了,就对彼得说:“难道你们不能跟我一同警醒一时吗? 41 你们要警醒祷告,免得陷入诱惑。你们的心灵虽然愿意,肉体却很软弱。”
42 祂第二次去祷告说:“我父啊!如果我非喝此杯不可,愿你的旨意成就。” 43 祂回来时见他们又睡着了,因为他们困得眼皮发沉。 44 耶稣再次离开他们,第三次去祷告,说的是同样的话。
45 然后,祂回到门徒那里,对他们说:“你们还在睡觉,还在休息吗?看啊!时候到了,人子要被出卖,交在罪人手里了。 46 起来,我们走吧。看,出卖我的人已经来了!”
耶稣被捕
47 耶稣还在说话的时候,十二门徒中的犹大来了,随行的还有祭司长和民间长老派来的一大群拿着刀棍的人。 48 出卖耶稣的犹大预先和他们定了暗号,说:“我亲吻谁,谁就是耶稣,你们把祂抓起来。” 49 犹大随即走到耶稣跟前,说:“老师,你好。”然后亲吻耶稣。
50 耶稣对他说:“朋友,你要做的事,快动手吧。”于是那些人上前,下手捉拿耶稣。 51 耶稣的跟随者中有人伸手拔出佩刀朝大祭司的奴仆砍去,削掉了他一只耳朵。
52 耶稣对他说:“收刀入鞘吧!因为动刀的必死在刀下。 53 难道你不知道,我可以请求我父马上派十二营以上的天使来保护我吗? 54 我若这样做,圣经上有关这事必如此发生的话又怎能应验呢?”
55 那时,耶稣对众人说:“你们像对付强盗一样拿着刀棍来抓我吗?我天天在圣殿里教导人,你们并没有来抓我。 56 不过这一切事的发生,是要应验先知书上的话。”那时,门徒都丢下祂逃走了。
大祭司审问耶稣
57 捉拿耶稣的人把祂押到大祭司该亚法那里。律法教师和长老已聚集在那里。 58 彼得远远地跟着耶稣,一直跟到大祭司的院子里。他坐在卫兵当中,想知道事情的结果。
59 祭司长和全公会的人正在寻找假证据来控告耶稣,好定祂死罪。 60 虽然有很多假证人诬告祂,但都找不到真凭实据。最后有两个人上前高声说:
61 “这个人曾经说过,‘我能拆毁圣殿,三天内把它重建起来。’”
62 大祭司站起来质问耶稣:“你不回答吗?这些人作证控告你的是什么呢?” 63 耶稣还是沉默不语。
大祭司又对祂说:“我奉永活上帝的名命令你起誓告诉我们,你是不是上帝的儿子基督?”
64 耶稣说:“如你所言。但我告诉你们,将来你们要看见人子坐在大能者的右边,驾着天上的云降临。”
65 大祭司撕裂衣服,说:“祂亵渎了上帝!我们还需要什么证人呢?你们现在亲耳听见了祂说亵渎的话, 66 你们看怎么办?”
他们回应说:“祂该死!”
67 他们就吐唾沫在祂脸上,挥拳打祂。还有人一边打祂耳光,一边说: 68 “基督啊!给我们说预言吧,是谁在打你?”
彼得三次不认主
69 当时,彼得还坐在外面的院子里,有一个婢女走过来对他说:“你也是跟那个加利利人耶稣一伙的。”
70 彼得却当众否认:“我不知道你在说什么。”
71 正当他走到门口要离开时,另一个婢女看见他,就对旁边的人说:“这个人是跟拿撒勒人耶稣一伙的!”
72 彼得再次否认,并发誓说:“我不认识那个人。” 73 过了一会儿,旁边站着的人过来对彼得说:“你肯定也是他们一伙的,听你的口音就知道了。”
74 彼得又赌咒又发誓,说:“我不认识那个人!”就在这时候,鸡叫了。 75 彼得想起耶稣说的话:“在鸡叫以前,你会三次不认我。”他就跑出去,失声痛哭。
มัทธิว 26
Thai New Testament: Easy-to-Read Version
ผู้นำชาวยิววางแผนฆ่าพระเยซู
(มก. 14:1-2; ลก. 22:1-2; ยน. 11:45-53)
26 เมื่อพระเยซูพูดเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว พระองค์บอกกับพวกศิษย์ว่า 2 “พวกคุณก็รู้แล้วว่า อีกสองวันจะถึงเทศกาลวันปลดปล่อย และบุตรมนุษย์จะถูกส่งมอบไปให้ศัตรูเพื่อเอาไปตรึงที่กางเขน”
3 พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโสมาประชุมกันที่บ้านของคายาฟาสนักบวชสูงสุด 4 พวกเขาวางแผนจับตัวพระเยซูไปฆ่า 5 แต่พวกเขาตกลงกันว่า “อย่าเพิ่งทำในช่วงเทศกาล เพราะประชาชนจะก่อการจลาจลขึ้น”
หญิงคนหนึ่งชโลมน้ำหอมบนศีรษะพระเยซู
(มก. 14:3-9; ยน. 12:1-8)
6 ในเมืองเบธานี ขณะที่พระเยซูอยู่ที่บ้านของซีโมนที่เคยเป็นโรคผิวหนังร้ายแรง 7 มีผู้หญิงคนหนึ่งถือขวดใส่น้ำหอมราคาแพงมากมาหาพระองค์ เธอชโลมน้ำหอมลงบนศีรษะของพระองค์ ขณะที่พระองค์กำลังกินอาหารอยู่
8 เมื่อพวกศิษย์เห็นอย่างนั้นก็โกรธ ต่างพูดกันว่า “ทำไมถึงทำให้เสียของอย่างนี้ 9 มันคงขายได้เงินมากทีเดียว แล้วก็เอาเงินนั้นไปแจกจ่ายให้กับคนจน”
10 เมื่อพระเยซูได้ยิน จึงห้ามพวกศิษย์ว่า “ไปวุ่นวายกับเธอทำไม เธอได้ทำสิ่งที่ดีงามให้กับเรา 11 พวกคุณจะมีคนจนอยู่ด้วยเสมอ[a] แต่เราจะไม่อยู่กับพวกคุณเสมอไป 12 ที่เธอเทน้ำหอมลงบนตัวเรานั้น ก็เพื่อเตรียมเราไว้สำหรับการฝังศพ 13 เราจะบอกให้รู้ว่า ไม่ว่าข่าวดีนี้จะประกาศออกไปที่ไหนๆในโลกนี้ ก็จะมีคนพูดถึงเรื่องที่เธอทำให้กับเรานี้เสมอ เพื่อเป็นการระลึกถึงเธอ”
ยูดาสกลายเป็นศัตรูของพระเยซู
(มก. 14:10-11; ลก. 22:3-6)
14 ยูดาส อิสคาริโอท ศิษย์เอกคนหนึ่งในสิบสองคนของพระเยซู ได้ไปพบพวกหัวหน้านักบวช 15 เขาถามว่า “ถ้าผมส่งตัวพระเยซูให้ จะจ่ายให้ผมเท่าไหร่” แล้วพวกเขาก็ให้เงินยูดาสสามสิบเหรียญ 16 ตั้งแต่นั้นมา ยูดาสก็คอยจ้องหาโอกาสที่จะส่งพระเยซูให้กับพวกเขา
พระเยซูกินอาหารมื้อพิเศษในเทศกาลวันปลดปล่อย
(มก. 14:12-21; ลก. 22:7-14, 21-23; ยน. 13:21-30)
17 วันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ พวกศิษย์ได้เข้ามาถามพระเยซูว่า “อาจารย์จะให้พวกเราเตรียมอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยให้อาจารย์ที่ไหนครับ”
18 พระเยซูตอบว่า “ให้เข้าไปในเมืองหาชายคนหนึ่ง แล้วบอกเขาว่า ‘อาจารย์บอกว่า เวลาของเราใกล้มาถึงแล้ว เราจะเลี้ยงฉลองเทศกาลวันปลดปล่อยกับพวกศิษย์ของเราที่บ้านของคุณ’” 19 พวกศิษย์ทำตามที่พระเยซูบอก และจัดเตรียมอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยที่นั่น
20 เมื่อถึงตอนเย็น พระเยซูเอนตัวอยู่ที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับศิษย์ทั้งสิบสองคน 21 ขณะที่กำลังกินกันอยู่นั้น พระเยซูได้พูดขึ้นว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คนหนึ่งในพวกคุณจะหักหลังเรา”
22 พวกศิษย์ตระหนกตกใจมาก ต่างถามพระองค์ว่า “คงไม่ใช่ผมนะ อาจารย์”
23 พระเยซูตอบว่า “คนที่เอามือจิ้มลงในชามเดียวกับเราจะเป็นคนที่หักหลังเรา 24 บุตรมนุษย์จะต้องตาย เหมือนกับที่พระคัมภีร์ได้เขียนไว้แล้ว แต่คนที่หักหลังบุตรมนุษย์นี้น่าละอายจริงๆ ถ้าเขาไม่ได้เกิดมา ก็คงจะดีกว่า”
25 พอยูดาสคนที่จะหักหลังพระองค์ถามว่า “คงไม่ใช่ผมนะ อาจารย์” พระองค์จึงตอบว่า “คุณนั่นแหละ”
ขนมปังและเหล้าองุ่น
(มก. 14:22-26; ลก. 22:15-20; 1 คร. 11:23-25)
26 ขณะที่กำลังกินกันอยู่นั้น พระเยซูหยิบขนมปังมา ขอบคุณพระเจ้า จากนั้นหักขนมปังให้พวกศิษย์และพูดว่า “รับไปกินสิ นี่คือร่างกายของเรา”
27 แล้วพระองค์หยิบถ้วยขึ้นมา ขอบคุณพระเจ้า ส่งไปให้พวกเขาและพูดว่า “ให้ทุกคนดื่มจากถ้วยนี้ 28 เพราะนี่คือเลือดของเรา พระเจ้าได้ทำสัญญาขึ้นมาด้วยเลือดนี้ มันได้หลั่งไหลออกมาเพื่อยกโทษให้กับความบาปของคนทั้งหลาย 29 เราจะบอกให้รู้ว่า เราจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นนี้อีก จนกว่าจะถึงวันนั้นที่เราจะได้ดื่มเหล้าองุ่นใหม่ด้วยกันกับพวกคุณในอาณาจักรของพระบิดาเรา”
30 เมื่อพวกเขาได้ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าแล้ว ก็ออกไปที่ภูเขามะกอกเทศ
พระเยซูทำนายว่าพวกศิษย์จะทิ้งพระองค์
(มก. 14:27-31; ลก. 22:31-34; ยน. 13:36-38)
31 พระเยซูบอกพวกศิษย์ว่า “คืนนี้พวกคุณจะทิ้งเราไปกันหมดทุกคน เหมือนกับที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
‘เราจะฆ่าคนเลี้ยงแกะ
และแกะฝูงนั้นจะกระเจิดกระเจิงไป’(A)
32 แต่เมื่อเราฟื้นขึ้นมา เราจะล่วงหน้าพวกคุณไปที่แคว้นกาลิลีก่อน”
33 เปโตรตอบว่า “ถึงแม้คนอื่นๆจะทิ้งอาจารย์ไปหมด แต่ผมจะไม่มีวันทำอย่างนั้น”
34 พระเยซูจึงตอบเปโตรว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คืนนี้ก่อนไก่ขัน คุณจะพูดว่าไม่รู้จักเราถึงสามครั้ง”
35 แต่เปโตรยืนยันว่า “ถึงผมจะต้องตายกับอาจารย์ ผมก็ไม่มีวันพูดว่าไม่รู้จักอาจารย์” และพวกศิษย์ทั้งหมดก็พูดอย่างเดียวกัน
พระเยซูอธิษฐานตามลำพัง
(มก. 14:32-42; ลก. 22:39-46)
36 จากนั้นพระเยซูก็พาศิษย์ไปที่สวนแห่งหนึ่งเรียกว่า เกทเสมนี และบอกพวกศิษย์ว่า “นั่งคอยอยู่ที่นี่นะ เราจะไปอธิษฐานทางโน้น” 37 พระองค์พาเปโตรกับลูกทั้งสองคนของเศเบดีไปด้วย พระองค์รู้สึกโศกเศร้าและเป็นทุกข์มาก 38 พระองค์จึงบอกพวกเขาว่า “เราทุกข์ใจมากจนแทบจะตายอยู่แล้ว ให้ตื่นและเฝ้าระวังอยู่กับเราหน่อย”
39 พระองค์เดินห่างออกไปนิดหนึ่ง ก้มหน้าซบลงกับพื้นดิน แล้วอธิษฐานว่า “พระบิดา ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ถ้วย[b] แห่งความทุกข์ยากนี้ผ่านพ้นไปจากลูกด้วยเถิด แต่ขอให้เป็นไปตามความต้องการของพระองค์ไม่ใช่ของลูก” 40 แล้วพระองค์ก็เดินกลับมาเห็นพวกศิษย์หลับอยู่ พระองค์จึงพูดกับเปโตรว่า “พวกคุณตื่นอยู่เป็นเพื่อนเราสักชั่วโมงไม่ได้เลยหรือ 41 ให้เฝ้าระวังและอธิษฐาน เพื่อจะได้ไม่แพ้ต่อการยั่วยวน ถึงแม้จิตใจอยากจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ร่างกายยังอ่อนแออยู่”
42 พระองค์เดินกลับไป และอธิษฐานเป็นครั้งที่สองว่า “พระบิดา ถ้าถ้วยแห่งความทุกข์ยากนี้ผ่านพ้นลูกไปไม่ได้ นอกจากลูกจะต้องดื่มมัน ก็ขอให้เป็นไปตามความต้องการของพระองค์เถิด” 43 จากนั้นพระองค์ก็เดินกลับมา ก็พบว่าพวกศิษย์ยังหลับอยู่ เพราะเปลือกตาเขาหนักอึ้งจนลืมไม่ขึ้น 44 พระองค์จึงเดินไปจากพวกเขา และอธิษฐานเหมือนเดิมอีกเป็นครั้งที่สาม 45 พระองค์เดินกลับมาที่พวกศิษย์อีก และพูดว่า “ยังนอนหลับพักผ่อนกันอยู่อีกหรือ ชั่วโมงที่บุตรมนุษย์จะถูกหักหลังให้ไปอยู่ในมือของพวกคนบาปนั้นมาถึงแล้ว 46 ลุกขึ้นไปกันเถอะ นั่นไงคนที่หักหลังเรามาถึงแล้ว”
พระเยซูถูกจับ
(มก. 14:43-50; ลก. 22:47-53; ยน. 18:3-12)
47 พระองค์พูดยังไม่ทันขาดคำ ยูดาสศิษย์คนหนึ่งในสิบสองคนของพระองค์ก็มาถึง พร้อมกับคนกลุ่มใหญ่ที่ถือทั้งดาบและไม้กระบอง คนพวกนี้ถูกส่งมาจากพวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโส 48 ยูดาสได้ตกลงกับพวกนั้นไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่า “คนที่ผมจูบคือคนๆนั้น เข้าไปจับกุมได้เลย” 49 ยูดาสก็ตรงเข้าไปหาพระเยซูทันที พร้อมกับพูดว่า “สวัสดีครับ อาจารย์” และจูบพระองค์
50 พระเยซูจึงพูดกับเขาว่า “เพื่อนเอ๋ย มาทำอะไรก็รีบทำไปเลย” แล้วคนเหล่านั้น ก็เข้ามาจับตัวพระองค์และคุมตัวไว้ 51 ศิษย์คนหนึ่งที่อยู่กับพระเยซูจึงชักดาบออกมาแล้วก็ฟันถูกหูทาสคนหนึ่งของหัวหน้านักบวชสูงสุดขาดไป
52 พระเยซูพูดกับเขาว่า “เก็บดาบใส่ฝักเสีย เพราะคนที่ใช้ดาบจะตายเพราะดาบ 53 คุณคิดว่า เราจะขอความช่วยเหลือจากพระบิดาเราไม่ได้หรือ พระองค์จะส่งทูตสวรรค์มาให้กับเรามากกว่าสิบสองกอง[c] ได้ทันที 54 แต่ถ้าเราทำอย่างนั้น มันก็จะไม่เป็นไปตามที่พระคัมภีร์เขียนไว้”
55 แล้วพระเยซูก็พูดกับคนกลุ่มใหญ่นั้นว่า “เห็นเราเป็นโจรหรือยังไง ถึงได้ถือดาบและไม้กระบองมาจับเรา ตอนที่เรานั่งสอนอยู่ในวิหารทุกวัน กลับไม่มาจับ 56 แต่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น ก็เพื่อจะได้เป็นจริงตามที่พวกผู้พูดแทนพระเจ้าได้เขียนไว้” แล้วพวกศิษย์ของพระองค์ได้ทิ้งพระองค์และหนีไป
พระเยซูอยู่ต่อหน้าผู้นำชาวยิว
(มก. 14:53-65; ลก. 22:54-55, 63-71; ยน. 18:13-14, 19-24)
57 พวกนั้นจับพระเยซูไปที่บ้านของคายาฟาสหัวหน้านักบวชสูงสุด ที่พวกครูสอนกฎปฏิบัติและพวกผู้นำอาวุโสได้ประชุมกันอยู่ 58 เปโตรตามพระองค์มาห่างๆจนถึงลานบ้านของหัวหน้านักบวชสูงสุด แล้วเขาเข้าไปนั่งอยู่ในลานบ้านกับพวกผู้คุม เพื่อดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
59 พวกหัวหน้านักบวชและสมาชิกสภาแซนฮีดรินทั้งหมดพยายามหาพยานเท็จมาปรักปรำพระเยซู เพื่อจะได้ฆ่าพระองค์ 60 แต่ก็หาไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าจะมีพยานเท็จมาปรักปรำพระองค์หลายคน พวกเขาก็ไม่สามารถหาหลักฐานที่ดีพอที่จะตัดสินฆ่าพระองค์ได้ 61 ในที่สุดก็มีสองคนให้การว่า “ชายคนนี้เคยพูดว่า ‘เราสามารถทำลายวิหารของพระเจ้า และสร้างขึ้นมาใหม่ภายในสามวัน’”
62 หัวหน้านักบวชสูงสุดจึงยืนขึ้น ถามพระเยซูว่า “แกจะไม่แก้ตัวในสิ่งที่เขากล่าวหาแกหรือ” 63 แต่พระเยซูยังนิ่งเงียบ หัวหน้านักบวชสูงสุด จึงพูดกับพระองค์ว่า “เราขอสั่งแกในนามของพระเจ้าที่มีชีวิตอยู่ บอกพวกเรามาสิว่า แกคือพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าหรือเปล่า”
64 พระองค์จึงตอบเขาว่า “ท่านพูดถูกแล้ว แต่เราจะบอกให้รู้ว่า ในอนาคตท่านจะได้เห็นบุตรมนุษย์นั่งอยู่ทางขวาของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ และเสด็จมาบนเมฆในท้องฟ้า”
65 แล้วหัวหน้านักบวชสูงสุด ก็ฉีกทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองและพูดว่า “มันพูดหมิ่นประมาทพระเจ้าชัดๆ เรายังต้องการพยานอะไรอีก เห็นไหม พวกคุณก็ได้ยินคำหมิ่นประมาทแล้ว 66 พวกคุณคิดว่าอย่างไร” พวกเขาตอบว่า “มันมีความผิด มันสมควรตาย”
67 พวกเขาถ่มน้ำลายรดหน้าพระองค์ และชกต่อยพระองค์ บางคนก็ตบหน้าพระองค์ 68 และพูดว่า “ทายมาสิ ไอ้คริสต์ ใครตบหน้าแก”
เปโตรไม่ยอมรับว่ารู้จักพระเยซู
(มก. 14:66-72; ลก. 22:56-62; ยน. 18:15-18, 25-27)
69 ในขณะเดียวกัน เปโตรกำลังนั่งอยู่ข้างนอกที่ลานบ้าน และสาวใช้คนหนึ่งเข้ามาทักเขาว่า “แกก็อยู่กับเยซูคนกาลิลีด้วยนี่นา”
70 แต่เปโตรพูดต่อหน้าทุกคนว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร”
71 แล้วเขาก็เดินออกไปที่ประตูบ้าน สาวใช้อีกคนที่เห็นเขาก็บอกกับทุกคนที่อยู่ตรงนั้นว่า “คนนี้อยู่กับเยซูชาวนาซาเร็ธด้วย”
72 เปโตรปฏิเสธว่า “สาบานได้เลย ผมไม่เคยรู้จักชายคนนั้น”
73 อีกสักครู่หนึ่ง คนที่ยืนอยู่ที่นั่นก็เดินเข้ามาหาเปโตร และพูดว่า “แกเป็นหนึ่งในพวกนั้นแน่ๆ สำเนียงของแกมันฟ้องอยู่ชัดๆ”
74 เปโตรขอให้ตัวเองถูกสาปแช่งถ้าโกหก แล้วเขาสาบานว่า “ผมไม่รู้จักชายคนนี้” ทันใดนั้นไก่ก็ขัน 75 เปโตรจึงนึกขึ้นได้ถึงคำพูดที่พระเยซูเคยบอกกับเขาว่า “ก่อนไก่ขัน คุณจะพูดว่าไม่รู้จักเราสามครั้ง” เปโตรออกไปข้างนอก แล้วร้องไห้อย่างขมขื่น
Footnotes
- 26:11 คนจน … เสมอ ดูได้จากหนังสือ เฉลยธรรมบัญญัติ 15:11
- 26:39 ถ้วย พระเยซูกำลังพูดถึงสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นกับพระองค์ ซึ่งเป็นการยากที่จะยอมรับสิ่งเหล่านี้ เปรียบเหมือนกับการดื่มอะไรสักอย่างที่มีรสชาติที่แย่มาก
- 26:53 สิบสองกอง มีทหารประมาณหกพันคน
Chinese Contemporary Bible Copyright © 1979, 2005, 2007, 2011 by Biblica® Used by permission. All rights reserved worldwide.
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International