กิจการ 5
Thai New Testament: Easy-to-Read Version
อานาเนียกับสัปฟีรา
5 มีชายคนหนึ่งชื่ออานาเนียกับภรรยาชื่อสัปฟีรา ได้ขายที่ดินของตนผืนหนึ่ง 2 แต่เขาแอบเก็บเงินเอาไว้บางส่วน และภรรยาของเขาก็เห็นด้วย จากนั้นเขาจึงนำเงินส่วนที่เหลือมาให้กับพวกศิษย์เอก 3 เปโตรต่อว่าอานาเนียว่า “ทำไมคุณถึงยอมให้ซาตานครอบงำจิตใจคุณจนโกหกต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ และเก็บเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการขายที่ดินเอาไว้เอง 4 ที่ดินผืนนั้นก็เป็นของคุณอยู่แล้วก่อนที่คุณจะขายไม่ใช่หรือ และหลังจากที่ขายแล้ว เงินนั้นก็ยังอยู่ในอำนาจของคุณไม่ใช่หรือ แล้วทำไมคุณถึงคิดทำอย่างนี้ คุณกำลังโกหกพระเจ้า ไม่ได้โกหกพวกเราหรอก” 5 เมื่ออานาเนียได้ยินอย่างนี้ก็ล้มลงขาดใจตาย คนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็ตกใจกลัวยิ่งนัก 6 ชายหนุ่มหลายคนมาห่อศพของอานาเนียแล้วหามออกไปฝัง 7 หลังจากนั้นอีกประมาณสามชั่วโมง ภรรยาของอานาเนียซึ่งยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็เดินเข้ามา 8 เปโตรถามเธอว่า “บอกหน่อยว่า คุณขายที่ดินได้เงินเท่านี้หรือ” สัปฟีราตอบว่า “ใช่แล้วค่ะ”
9 แล้วเปโตรก็ต่อว่าเธอว่า “ทำไมคุณสองคนถึงได้สมคบกันลองดีกับพระวิญญาณขององค์เจ้าชีวิต ดูนั่นสิ คนพวกนั้นที่ไปฝังศพสามีคุณ ได้มาอยู่ที่หน้าประตูแล้ว และพวกเขาจะหามศพของคุณออกไปด้วยเหมือนกัน” 10 สัปฟีราก็ล้มลงตรงเท้าของเปโตร แล้วขาดใจตายทันที เมื่อชายหนุ่มพวกนั้นเดินเข้ามา ก็เห็นว่าเธอตายแล้ว พวกเขาจึงหามศพของเธอออกไปฝังไว้ข้างๆสามีของเธอ 11 ทั้งหมู่ประชุมของพระเจ้า และทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ ต่างก็เกิดความเกรงกลัวยิ่งนัก
ศิษย์เอกทำการอัศจรรย์
12 พวกศิษย์เอกได้ทำการอัศจรรย์ และปาฏิหาริย์หลายอย่างในหมู่ประชาชน และพวกคนที่เชื่อก็มาประชุมกันที่ระเบียงซาโลมอนอยู่เรื่อยๆ 13 คนอื่นๆไม่กล้าที่จะไปรวมกลุ่มกับพวกเขา แต่ก็เคารพนับถือพวกเขามาก 14 พระเจ้าได้เพิ่มจำนวนคนที่เชื่อมากขึ้นเรื่อยๆทั้งชายและหญิง ให้มาเป็นคนขององค์เจ้าชีวิต 15 ดังนั้นประชาชนต่างก็นำคนเจ็บป่วยมาวางบนแคร่หรือเสื่อแล้วนำไปไว้ข้างถนน เพื่อว่าเวลาที่เปโตรเดินผ่านไป อย่างน้อยเงาของท่านอาจจะได้ทอดลงมาบนตัวของพวกเขาบ้าง 16 มีฝูงชนที่มาจากชานเมืองรอบๆเมืองเยรูซาเล็มด้วย พวกเขาต่างก็พาคนป่วยและคนที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากผีร้ายเข้าสิงมา ซึ่งพวกนี้ก็ได้รับการรักษาให้หายทุกคน
ผู้นำชาวยิวขัดขวางพวกศิษย์เอก
17 หัวหน้านักบวชสูงสุดและพรรคพวกของเขาทุกคน ซึ่งเป็นกลุ่มสะดูสี ก็โกรธแค้น และอิจฉา 18 พวกเขาจึงจับกุมพวกศิษย์เอกไปขังไว้ในคุก 19 แต่ในคืนนั้นเอง ทูตสวรรค์ขององค์เจ้าชีวิตได้มาเปิดประตูคุก แล้วพาพวกศิษย์เอกออกไป ทูตสวรรค์สั่งว่า 20 “ให้ไปยืนอยู่ในวิหาร พูดกับประชาชนถึงเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับชีวิตใหม่นี้” 21 เมื่อพวกศิษย์เอกได้ยินอย่างนั้น พอรุ่งเช้าพวกเขาก็เข้าไปในวิหาร และเริ่มสั่งสอนประชาชน เมื่อหัวหน้านักบวชสูงสุดและพรรคพวกของเขามาถึงวิหาร ก็เรียกประชุมสมาชิกสภา รวมทั้งสมาชิกผู้นำอาวุโสของอิสราเอลทั้งหมด และใช้เจ้าหน้าที่ไปคุมตัวพวกศิษย์เอกออกมาจากคุก 22 แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงคุก กลับไม่พบพวกศิษย์เอกอยู่ในนั้น พวกเขากลับมารายงานว่า 23 “พวกเราเห็นคุกปิดใส่กุญแจแน่นหนา และยามก็ยังเฝ้าอยู่ที่ประตู แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ไม่เห็นมีใครอยู่ในนั้นเลย” 24 เมื่อหัวหน้ายามที่เฝ้าวิหาร และพวกหัวหน้านักบวชได้ยิน ก็งุนงงและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น 25 จากนั้นมีคนเข้ามารายงานว่า “พวกคนที่ท่านจับไปขังไว้ในคุกนั้น ตอนนี้กำลังยืนสั่งสอนประชาชนอยู่ในวิหาร” 26 จากนั้นหัวหน้ายามกับเจ้าหน้าที่ก็ออกไปนำตัวพวกศิษย์เอกกลับมา แต่ไม่ได้ใช้กำลังบังคับ เพราะกลัวประชาชนจะเอาหินขว้างพวกเขา
27 พวกเขานำตัวพวกศิษย์เอกเข้ามายืนอยู่ต่อหน้าสภา แล้วหัวหน้านักบวชสูงสุดก็ถามพวกเขาว่า 28 “พวกเราสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดแล้วไม่ให้พูดถึงเยซูเวลาที่สั่งสอน แต่พวกแกก็ยังเผยแพร่คำสอนนี้ไปทั่วเมืองเยรูซาเล็ม แล้วยังโทษพวกเราว่าทำให้มันต้องตายอีกด้วย”
29 เปโตรและพวกศิษย์เอกคนอื่นๆก็ตอบว่า “พวกเราต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่าเชื่อฟังมนุษย์ 30 พระเจ้าของบรรพบุรุษเราทำให้พระเยซู คนที่ท่านได้ตรึงที่ไม้กางเขนนั้นฟื้นขึ้นมาอีก 31 พระเจ้าได้ยกพระเยซูไว้ให้อยู่ที่ด้านขวาของพระองค์ ในฐานะเจ้าฟ้าชายและผู้ช่วยให้รอด เพื่อที่ชนชาติอิสราเอลจะได้กลับตัวกลับใจเสียใหม่ และได้รับการยกโทษจากความผิดบาปของเขาผ่านทางพระเยซู 32 พวกเราเป็นพยานในเรื่องนี้ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่พระเจ้ามอบให้กับทุกคนที่เชื่อฟังพระองค์ก็เป็นพยานด้วยเหมือนกัน”
33 เมื่อพวกสมาชิกในสภาได้ยินอย่างนั้น ก็โกรธแค้นมาก และต้องการฆ่าศิษย์เอกพวกนี้ 34 แต่มีสมาชิกสภาคนหนึ่ง เป็นฟาริสี ชื่อกามาลิเอล และเป็นครูสอนกฎปฏิบัติ เป็นคนที่ประชาชนทุกคนให้ความเคารพนับถือ ได้ลุกขึ้นยืนและสั่งให้พาพวกศิษย์เอกออกไปข้างนอกสักครู่หนึ่ง 35 แล้วเขาก็พูดว่า “ชาวอิสราเอลทั้งหลาย ระวังให้ดีในสิ่งที่คุณจะทำกับชายพวกนี้ 36 จำได้ไหม ตอนที่มีคนชื่อธุดาสโผล่มา แล้วอ้างว่าตนเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ มีคนติดตามเขาประมาณสี่ร้อยคน เมื่อเขาถูกฆ่า พวกศิษย์ของเขาก็กระจัดกระจายไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น 37 หลังจากธุดาสแล้วก็มียูดาสชาวกาลิลีโผล่มาอีก ในช่วงเวลาที่ทำสำมะโนครัว[a] เขาได้ชักจูงผู้คนให้ติดตามเขาไป แต่เขาก็ถูกฆ่าตายด้วย แล้วพวกศิษย์ของเขาก็กระจัดกระจายกันไป 38 ในครั้งนี้ก็เหมือนกัน ผมขอบอกให้พวกคุณอยู่ห่างจากคนพวกนี้ อย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย เพราะถ้าแผนการหรืองานนี้ของพวกเขามาจากมนุษย์ มันก็จะล้มเหลวไปเอง 39 แต่ถ้าแผนการนี้มาจากพระเจ้าแล้วละก็ คุณไม่มีทางหยุดยั้งได้หรอก และคุณก็จะพบว่าตัวเองกำลังต่อสู้อยู่กับพระเจ้า” พวกเขาก็ยอมฟังคำแนะนำของกามาลิเอล
40 พวกเขาจึงเรียกพวกศิษย์เอกเข้ามาแล้วเฆี่ยนตี สั่งไม่ให้พูดเรื่องของพระเยซูอีก แล้วจึงปล่อยตัวไป 41 พวกศิษย์เอกออกจากสภามาด้วยความชื่นชมยินดี เพราะถือว่าการที่พวกเขาได้รับความอับอายจากการพูดเรื่องของพระเยซูนั้น เป็นเรื่องที่พระเจ้าให้เกียรติ 42 และพวกศิษย์เอกก็ไม่เคยหยุดสั่งสอนและประกาศข่าวดีว่าพระเยซูคือกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ในวิหารและตามบ้านเรือนของผู้คนทุกๆวัน
Footnotes
- 5:37 สำมะโนครัว การนับจำนวนประชากรและสิ่งของทั้งหมด ที่พวกเขาเป็นเจ้าของ
กิจการของอัครทูต 5
Thai New Contemporary Bible
อานาเนียกับสัปฟีรา
5 มีชายคนหนึ่งชื่ออานาเนียกับสัปฟีราภรรยาของเขาก็ได้ขายที่ดินผืนหนึ่งด้วย 2 เขาได้เก็บเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อตนเองซึ่งภรรยาของเขาก็รู้ดีแต่นำเงินที่เหลือมาวางแทบเท้าของอัครทูต
3 แล้วเปโตรจึงกล่าวว่า “อานาเนียเอ๋ย เหตุใดซาตานจึงครอบงำใจของท่าน จนท่านมุสาต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์และเก็บเงินค่าที่ดินส่วนหนึ่งไว้เพื่อตัวท่านเอง? 4 ก่อนที่จะขายที่ดินนี้เป็นของท่านไม่ใช่หรือ? เมื่อขายแล้วเงินก็อยู่ในอำนาจของท่านไม่ใช่หรือ? อะไรหนอทำให้ท่านคิดทำเช่นนี้? ท่านไม่ได้มุสาต่อมนุษย์แต่มุสาต่อพระเจ้า”
5 เมื่ออานาเนียได้ยินเช่นนี้ก็ล้มลงสิ้นชีวิต คนทั้งปวงที่ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเกรงกลัวยิ่งนัก 6 แล้วพวกคนหนุ่มจึงออกมาห่อศพเขาและนำออกไปฝัง
7 หลังจากนั้นราวสามชั่วโมงภรรยาของเขาก็เข้ามาโดยที่ยังไม่ทราบสิ่งที่เกิดขึ้น 8 เปโตรถามนางว่า “จงบอกเราเถิด ท่านกับอานาเนียขายที่ดินได้เงินเท่านี้หรือ?”
นางตอบว่า “ใช่ ได้เท่านี้เจ้าค่ะ”
9 เปโตรจึงกล่าวกับนางว่า “เหตุใดท่านจึงเห็นพ้องกันที่จะลองดีกับพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้า? ดูเถิด! เท้าของบรรดาผู้ฝังศพสามีของท่านก็อยู่ที่ประตูและพวกเขาจะหามท่านออกไปด้วย”
10 ทันใดนั้นเองนางก็ล้มลงสิ้นชีพแทบเท้าเปโตร เมื่อเห็นว่านางตายแล้วพวกคนหนุ่มก็เข้ามาหามศพออกไปฝังข้างสามีของนาง 11 ทั่วทั้งคริสตจักรและคนทั้งปวงที่ได้ยินเหตุการณ์เหล่านี้พากันเกรงกลัวยิ่งนัก
อัครทูตรักษาคนเป็นอันมาก
12 อัครทูตทำหมายสำคัญและปาฏิหาริย์หลายอย่างท่ามกลางประชาชน และผู้เชื่อทั้งปวงมักมาชุมนุมกันที่เฉลียงของโซโลมอน 13 คนอื่นๆ ไม่มีใครกล้ามาร่วมกับพวกเขาแม้ว่าพวกเขาเป็นที่เคารพของประชาชนยิ่งนัก 14 อย่างไรก็ตามมีชายหญิงมากมายเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าและมาร่วมกับพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 15 ผลก็คือประชาชนหามคนเจ็บป่วยมาที่ถนน ให้นอนบนที่นอนหรือแคร่ เพื่ออย่างน้อยเมื่อเปโตรเดินผ่าน เงาของเขาจะได้พาดลงบนคนป่วยบ้าง 16 มีฝูงชนจากเมืองต่างๆ รอบกรุงเยรูซาเล็มมาชุมนุมกัน พาคนป่วยและคนที่ถูกวิญญาณชั่ว[a]ทรมานมาด้วยและพวกเขาทั้งหมดก็ได้รับการรักษาให้หาย
อัครทูตถูกข่มเหง
17 ฝ่ายมหาปุโรหิตและพวกพ้องซึ่งอยู่ในกลุ่มสะดูสีก็อิจฉายิ่งนัก 18 พวกเขาจับเหล่าอัครทูตขังในคุกสาธารณะ 19 แต่ในเวลากลางคืนทูตองค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าเปิดประตูต่างๆ ในคุกแล้วพาพวกเขาออกมา 20 และบอกว่า “จงไปยืนในลานพระวิหารและบอกเรื่องชีวิตใหม่นี้อย่างครบถ้วนให้แก่ประชาชน”
21 พอรุ่งเช้าอัครทูตจึงเข้าไปยังลานพระวิหารตามที่ได้รับการบอกกล่าวมาและเริ่มสั่งสอนประชาชน
เมื่อมหาปุโรหิตกับพวกพ้องมาถึงก็เรียกประชุมสภาแซนเฮดริน คือกลุ่มผู้อาวุโสทั้งหมดของอิสราเอลและให้คนไปที่คุกเพื่อนำตัวอัครทูตออกมา 22 แต่เมื่อพวกเจ้าหน้าที่ไปถึงคุกก็ไม่พบอัครทูตจึงกลับมารายงานว่า 23 “พวกข้าพเจ้าเห็นคุกปิดไว้แน่นหนาและยามก็ยืนเฝ้าที่ประตูแต่พอเปิดออกกลับไม่มีใครสักคนอยู่ข้างใน” 24 หัวหน้ายามพระวิหารกับพวกหัวหน้าปุโรหิตฟังแล้วก็งุนงงและฉงนสนเท่ห์ว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
25 แล้วมีคนหนึ่งมาบอกว่า “ดูเถิด! พวกนั้นที่ท่านขังไว้ในคุกกำลังยืนสอนประชาชนอยู่ในลานพระวิหาร” 26 หัวหน้ายามพระวิหารกับเจ้าหน้าที่จึงไปนำตัวอัครทูตมา พวกเขาไม่กล้าใช้กำลังเพราะกลัวถูกประชาชนเอาหินขว้าง
27 พวกเขาคุมตัวเหล่าอัครทูตมายืนอยู่ต่อหน้าสภาแซนเฮดรินเพื่อให้มหาปุโรหิตไต่สวน พวกเขาซักว่า 28 “เราสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้พวกเจ้าสอนในนามนี้ แต่เจ้าก็แพร่คำสอนของเจ้าไปทั่วทั้งกรุงเยรูซาเล็มตั้งใจทำให้เรามีความผิดเนื่องด้วยความตายของชายผู้นี้”
29 เปโตรกับอัครทูตอื่นๆ ตอบว่า “พวกข้าพเจ้าต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์! 30 พระเยซูซึ่งพวกท่านประหารโดยแขวนไว้ที่ต้นไม้นั้นพระเจ้าของบรรพบุรุษของเราได้ทรงให้เป็นขึ้นจากตาย 31 พระเจ้าทรงเชิดชูพระเยซูให้อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ในฐานะองค์เจ้านายและพระผู้ช่วยให้รอด เพื่อพระองค์จะให้อิสราเอลกลับใจใหม่และได้รับการอภัยโทษบาป 32 ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นพยานในเรื่องเหล่านี้ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระเจ้าประทานแก่บรรดาผู้ที่เชื่อฟังพระองค์นั้นก็ทรงเป็นพยานด้วย”
33 เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ก็โกรธจัดและต้องการจะฆ่าพวกอัครทูต 34 แต่ฟาริสีคนหนึ่งชื่อกามาลิเอล เป็นธรรมาจารย์ที่คนทั้งปวงนับถือ ได้ยืนขึ้นในสภาแซนเฮดริน แล้วสั่งให้นำตัวพวกอัครทูตออกไปข้างนอกชั่วครู่ 35 จากนั้นเขาจึงกล่าวกับคนเหล่านั้นว่า “ชนอิสราเอลเอ๋ย จงพิจารณาสิ่งที่ท่านตั้งใจจะทำกับคนเหล่านี้ให้ดี 36 เมื่อไม่นานมานี้ธุดาสปรากฏตัวขึ้นแอบอ้างเป็นคนสำคัญและมีราวสี่ร้อยคนเข้าพวกด้วย พอเขาถูกฆ่าพรรคพวกของเขาก็กระจัดกระจายสลายตัวไปหมด 37 หลังจากนั้นยูดาสชาวกาลิลีปรากฏขึ้นมาในช่วงจดทะเบียนสำมะโนประชากรและนำกลุ่มประชาชนก่อการจลาจล เขาเองถูกฆ่าตายเช่นกัน พรรคพวกของเขาก็แตกฉานซ่านเซ็นไป 38 ฉะนั้นในกรณีนี้ข้าพเจ้าขอแนะนำท่านทั้งหลายว่าอย่าไปทำอะไรคนพวกนี้เลย! ปล่อยเขาไปเถิด! เพราะถ้าเป้าหมายหรือกิจการของพวกเขาเกิดจากมนุษย์ก็จะเลิกล้มไปเอง 39 แต่ถ้ามาจากพระเจ้า พวกท่านก็ไม่อาจหยุดยั้งคนเหล่านี้ได้ จะกลายเป็นว่าท่านเองนั่นแหละที่ต่อสู้กับพระเจ้า”
40 เขาทั้งหลายฟังแล้วก็คล้อยตามจึงเรียกตัวเหล่าอัครทูตเข้ามา ให้โบยตีพวกเขา และสั่งไม่ให้กล่าวในพระนามของพระเยซู จากนั้นก็ปล่อยตัวพวกเขาไป
41 พวกอัครทูตออกจากสภาแซนเฮดรินด้วยความชื่นชมยินดีเพราะเห็นว่าพวกเขาได้รับเกียรติให้ทนรับความอับอายเพื่อพระนามนั้น 42 ทุกๆ วันในลานพระวิหารและตามบ้านต่างๆ เขาทั้งหลายไม่เคยหยุดสั่งสอนและประกาศข่าวประเสริฐว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์[b]
使徒行傳 5
Chinese Contemporary Bible (Traditional)
欺騙聖靈
5 一個名叫亞拿尼亞的人與妻子撒非喇也把田產賣了。 2 他私自留下一部分錢,然後把其餘的拿去交給使徒,這件事他妻子也知道。 3 彼得說:「亞拿尼亞,你為什麼讓撒旦充滿你的心,欺騙聖靈,私自留下一些賣地的錢呢? 4 田產沒有賣的時候屬於你,即使賣了,賣地的錢也由你支配。你怎麼做出這種事呢?你不是欺騙人,你是欺騙上帝!」 5 亞拿尼亞聽見這話,當場倒地而死。聽見這件事的人都非常懼怕。 6 有幾個青年上前把他的屍體裹起來,抬出去埋葬了。
7 大約過了三個小時,亞拿尼亞的妻子也進來了,她還不知道發生了什麼事。 8 彼得問她:「你們賣田地的錢就這麼多嗎?」她說:「是的,就這麼多。」
9 彼得說:「你們二人怎麼串通起來試探主的靈呢?埋葬你丈夫的人就到門口了,他們也要把你抬出去。」 10 撒非喇立刻倒在彼得腳前死了。那些青年進來看見她已經死了,便把她抬出去葬在她丈夫的旁邊。 11 整個教會和聽見這件事的人都非常懼怕。
神蹟奇事
12 主藉著使徒們在百姓中行了許多神蹟奇事,大家同心合意地在所羅門廊那裡聚會。 13 其他人不敢接近他們,不過百姓都很敬重他們。 14 信主的人數不斷增加,男女都有。 15 人們甚至把病人抬到街上,放在床上或墊子上,希望彼得路過時的影子可以落在病人身上。 16 還有大群的人從耶路撒冷附近的城鎮帶著病人和被污鬼攪擾的人趕來,他們都得了醫治。
使徒受迫害
17 大祭司和他的同黨撒都該人看見這情形,妒火中燒, 18 便把使徒拘捕,關在監裡。 19 當天晚上,有一位主的天使把獄門打開,領他們出來, 20 說:「你們到聖殿去,把這生命之道傳給百姓。」 21 使徒遵從命令,在黎明的時候來到聖殿開始教導眾人。
大祭司和他的同黨召集了所有公會[a]的人和以色列的眾長老,然後派人去監獄把使徒押來受審。 22 差役來到監獄時,發現使徒已經不見了,就回去稟告,說: 23 「我們看見牢門緊鎖,守衛都站在門外,但打開門一看,裡面卻空無一人!」
24 聖殿護衛長和祭司長聽後,都很困擾,不知道是怎麼回事。 25 這時有人來報告說:「你們關押在牢裡的人正在聖殿裡教導人!」 26 聖殿護衛長和差役再去把使徒抓回來。這次他們不敢動粗,生怕百姓會用石頭打他們。
27 使徒被帶來後站在公會前,大祭司盤問他們,說: 28 「我們不是嚴禁你們奉耶穌的名去教導百姓嗎?你們竟然在耶路撒冷各處傳道,還想把殺那人的血債歸到我們身上!」
29 彼得和其他使徒申辯說:「我們要服從的是上帝,而非人。 30 你們釘死在十字架上的耶穌,我們祖先的上帝已經使祂復活了。 31 上帝把祂提升到自己的右邊,立祂為君王和救主,好賜給以色列人悔改的機會,使他們的罪得到赦免。 32 我們就是這些事的見證人,上帝賜給順服祂之人的聖靈也同樣做見證。」
33 他們聽了,怒氣衝天,打算殺掉使徒。 34 公會中有一位名叫迦瑪列的法利賽人,是個德高望重的律法教師。他站起來,叫人把使徒暫且押到外面, 35 然後說:「以色列人啊,你們應當慎重處置這些人。 36 不久前,有個名叫杜達的人起來自立山頭,吸引了差不多四百個跟隨者,但他被殺之後,那些跟隨者就各奔東西,銷聲匿跡了。 37 後來,又有個加利利人猶大在戶口登記期間鼓動百姓跟隨他造反。他被殺之後,那些跟隨者也煙消雲散了。 38 所以,像現在這種情形,我勸大家還是不要管他們,隨他們去吧。他們的計劃和行為如果是出於人意,終必失敗; 39 但如果是出於上帝,你們不但無法阻止他們,恐怕反而是在抵擋上帝!」
40 公會採納了他的意見,於是把使徒召回來打了一頓,再次警告他們不可奉耶穌的名傳道,才放了他們。 41 使徒離開公會後,為自己有資格為主的名受辱而歡喜。 42 他們每天在聖殿裡和各家各戶教導人,傳揚耶穌是基督。
Footnotes
- 5·21 公會是猶太人的最高立法與司法機關。
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.