อิสราเอลจอมกบฏ

20 ในวันที่สิบเดือนที่ห้าของปีที่เจ็ดผู้อาวุโสของอิสราเอลบางคนมาร้องขอต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและมานั่งอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า

แล้วพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวแก่บรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เจ้ามาถามเราหรือ? เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ยอมให้เจ้ามาถามอะไรเราฉันนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น’

“เจ้าจะพิพากษาพวกเขาหรือ? เจ้าจะพิพากษาพวกเขาหรือ บุตรมนุษย์เอ๋ย? ถ้าเช่นนั้น จงกล่าวโทษเรื่องความประพฤติอันน่าชิงชังของบรรพบุรุษของพวกเขา จงบอกพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในวันที่เราเลือกอิสราเอล เราชูมือขึ้นกล่าวปฏิญาณแก่ลูกหลานของพงศ์พันธุ์ของยาโคบและแสดงตัวแก่พวกเขาในอียิปต์ เราชูมือขึ้นกล่าวกับพวกเขาว่า “เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า” ในวันนั้นเราปฏิญาณต่อพวกเขาว่า เราจะนำพวกเขาออกจากอียิปต์ไปสู่ดินแดนที่เราสรรหาให้พวกเขา เป็นดินแดนที่อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นดินแดนอันงดงามที่สุด และเรากล่าวแก่พวกเขาว่า “เจ้าทุกคน จงกำจัดเทวรูปอันชั่วช้าสามานย์ที่เจ้าหมายพึ่งและอย่าปล่อยตัวให้เป็นมลทินด้วยบรรดารูปเคารพของอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”

“ ‘แต่พวกเขาก็กบฏต่อเราและไม่ยอมฟังเรา เขาไม่ได้กำจัดเทวรูปอันชั่วช้าสามานย์ที่ตนหมายพึ่ง ทั้งไม่ได้ละทิ้งรูปเคารพของอียิปต์ ฉะนั้นเราจึงได้ลั่นวาจาว่าจะระบายโทสะอันรุนแรงลงเหนือพวกเขาในอียิปต์ แต่เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราทำสิ่งที่จะป้องกันไม่ให้นามของเราเป็นที่ลบหลู่ในสายตาของชนชาติทั้งหลายที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วย และที่ได้เห็นเราแสดงตัวแก่อิสราเอลโดยการนำพวกเขาออกมาจากอียิปต์ 10 ฉะนั้นเราจึงนำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ พาเข้าสู่ถิ่นกันดาร 11 เรามอบกฎหมายของเราแก่เขา และให้พวกเขาเรียนรู้บทบัญญัติของเรา ซึ่งผู้ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัติเหล่านั้น 12 และเราได้มอบวันสะบาโตแก่พวกเขา เป็นหมายสำคัญระหว่างเราทั้งสองฝ่าย เพื่อพวกเขาจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์

13 “ ‘ถึงอย่างนั้นชนชาติอิสราเอลก็กบฏต่อเราในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา แต่ละคนทิ้งบทบัญญัติของเรา แม้ว่าผู้ที่ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัตินั้น พวกเขาทำให้สะบาโตของเรามัวหมองที่สุด ฉะนั้นเราจึงลั่นวาจาว่าจะระบายโทสะลงเหนือพวกเขา และทำลายล้างพวกเขาในถิ่นกันดาร 14 แต่เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราจึงปกป้องนามของเราไว้ ไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของชนชาติทั้งหลายซึ่งเห็นเรานำอิสราเอลออกมา 15 และเราชูมือปฏิญาณในถิ่นกันดารว่าจะไม่นำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนซึ่งเรามอบให้ ดินแดนอันงดงามที่สุด อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง 16 เนื่องจากพวกเขาละทิ้งบทบัญญัติของเรา ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง เพราะจิตใจของเขาฝักใฝ่ในรูปเคารพ 17 ถึงกระนั้นเราก็เหลียวแลพวกเขาด้วยความสงสาร ไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา หรือให้พวกเขาถึงจุดจบในถิ่นกันดาร 18 เรากล่าวแก่ลูกหลานของพวกเขาในถิ่นกันดารว่า “อย่าประพฤติตามกฎเกณฑ์ของบรรพบุรุษของเจ้า หรือทำตามบทบัญญัติของพวกเขา หรือทำตัวเป็นมลทินด้วยรูปเคารพทั้งหลายของพวกเขา 19 เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า จงปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และรักษาบทบัญญัติของเราอย่างถี่ถ้วน 20 จงรักษาสะบาโตของเราให้บริสุทธิ์ เพื่อจะเป็นหมายสำคัญระหว่างเรากับเจ้า เพื่อเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”

21 “ ‘แต่ลูกหลานนั้นก็กบฏต่อเรา พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา ไม่ได้ใส่ใจรักษาบทบัญญัติของเรา แม้ว่าผู้ที่ปฏิบัติตามจะดำรงชีวิตอยู่ได้โดยบทบัญญัติเหล่านั้น พวกเขาทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง เราจึงลั่นวาจาไว้ว่าเราจะเทโทสะอันรุนแรงลงบนพวกเขาและระบายความโกรธต่อพวกเขาในถิ่นกันดาร 22 แต่เราก็ยั้งมือไว้เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราจึงปกป้องนามของเราไว้ไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของชนชาติทั้งหลายซึ่งเห็นเรานำอิสราเอลออกมา 23 และเราชูมือปฏิญาณต่อพวกเขาในถิ่นกันดารว่า เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปยังชนชาติและประเทศต่างๆ 24 เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังบทบัญญัติของเรา แต่ได้ละทิ้งกฎหมายของเรา และทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง ทั้งยังมีตากระสันหารูปเคารพทั้งหลายของบรรพบุรุษของพวกเขา 25 เราทิ้งพวกเขาไว้กับกฎเกณฑ์ที่ไม่ดีและกับบทบัญญัติซึ่งไม่ช่วยให้พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้ 26 เราปล่อยให้พวกเขาเป็นมลทินโดยการถวายลูกหัวปีแก่รูปเคารพ[a]เพื่อเราจะทำให้พวกเขาสยดสยอง พวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’

27 “ฉะนั้น บุตรมนุษย์เอ๋ย จงบอกประชากรอิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในเรื่องนี้บรรพบุรุษของพวกเจ้าก็ยังได้หมิ่นประมาทเราโดยการละทิ้งเรา 28 เมื่อเรานำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนที่เราปฏิญาณไว้ว่าจะมอบให้พวกเขา และพวกเขาเห็นภูเขาสูงหรือต้นไม้ใบดก พวกเขาก็ถวายเครื่องบูชาต่างๆ ถวายเครื่องหอมและเทเครื่องดื่มบูชา พวกเขาถวายเครื่องเซ่นสังเวยต่างๆ ยั่วโทสะเรา 29 เราจึงกล่าวแก่พวกเขาดังนี้ว่า สถานบูชาบนที่สูงที่พวกเจ้าไปนั้นคืออะไรกัน?’ ” (เขาจึงเรียกกันว่าบามาห์[b]ตราบจนทุกวันนี้)

การพิพากษาและการกลับสู่สภาพดี

30 “ฉะนั้นจงกล่าวแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เจ้าจะทำตัวเป็นมลทินแบบเดียวกับบรรพบุรุษ และกระสันหาเหล่าเทวรูปอันชั่วช้าสามานย์ของพวกเขาหรือ? 31 เมื่อเจ้าเซ่นสังเวยโดยให้ลูกชายของเจ้าเป็นเครื่องบูชาในกองไฟ[c] เจ้าก็ยังคงปล่อยตัวเป็นมลทินด้วยรูปเคารพตราบจนทุกวันนี้ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราควรยอมให้เจ้ามาถามเราหรือ? พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ยอมให้เจ้ามาถามเราฉันนั้น

32 “ ‘เจ้ากล่าวว่า “เราอยากเป็นเหมือนประชาชาติ เหมือนชนชาติต่างๆ ในโลกที่ปรนนิบัติไม้และหิน” แต่สิ่งที่เจ้าคิดหมายไว้ในใจจะไม่มีวันเป็นไปได้ 33 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะปกครองเจ้าด้วยมืออันทรงพลัง ด้วยแขนที่เหยียดออก และด้วยโทสะที่ระบายลงมาฉันนั้น 34 เราจะนำเจ้ามาจากชาติต่างๆ และรวบรวมเจ้าออกมาจากนานาประเทศที่เจ้าถูกทำให้กระจัดกระจายไปด้วยมืออันทรงพลัง ด้วยแขนที่เหยียดออก และด้วยโทสะที่ระบายลงมา 35 เราจะนำเจ้าเข้าสู่ถิ่นกันดารของชนชาติต่างๆ และเราจะพิพากษาลงโทษเจ้าซึ่งๆ หน้าที่นั่น 36 เราพิพากษาบรรพบุรุษของเจ้าในถิ่นกันดารของอียิปต์อย่างไร เราจะพิพากษาเจ้าอย่างนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 37 เราจะนับเจ้าขณะเจ้าผ่านไปใต้คทาของเรา และจะนำเจ้าเข้าสู่ข้อผูกมัดแห่งพันธสัญญา 38 เราจะชำระและแยกเจ้าออกมาจากบรรดาผู้ที่กบฏและทรยศเรา แม้ว่าเราจะนำคนเหล่านั้นออกมาจากดินแดนที่เขาอาศัยอยู่ แต่เขาจะไม่ได้เข้าในแผ่นดินอิสราเอล เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์

39 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ฝ่ายเจ้าจงไปปรนนิบัติรูปเคารพต่างๆ ของเจ้าเถิด เจ้าทุกคนนี่แหละ! แต่ภายหลังเจ้าจะฟังเราอย่างแน่นอน และไม่ลบหลู่นามอันบริสุทธิ์ของเราด้วยของถวายและรูปเคารพทั้งหลายของเจ้าอีกต่อไป 40 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า พงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดจะปรนนิบัติเราบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา บนภูเขาสูงแห่งอิสราเอล เราจะยอมรับพวกเขาที่นั่น เราประสงค์เครื่องบูชาและของถวายที่คัดมาอย่างดีที่สุด[d]พร้อมทั้งเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ทุกอย่างของเจ้า 41 เราจะรับเจ้าไว้เป็นเครื่องหอมเมื่อเรานำเจ้าออกมาจากประชาชาติต่างๆ และรวบรวมเจ้าออกมาจากนานาประเทศที่เราทำให้เจ้ากระจัดกระจายออกไปนั้น เราจะแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ของเราในหมู่พวกเจ้าต่อหน้าประชาชาติทั้งหลาย 42 เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ เมื่อเรานำเจ้าเข้าสู่ดินแดนอิสราเอล คือดินแดนที่เราได้ชูมือขึ้นปฏิญาณไว้ว่าจะยกให้แก่บรรพบุรุษของเจ้า 43 เจ้าจะหวนระลึกถึงความประพฤติและการกระทำทุกอย่างที่เจ้าทำให้ตัวเองเป็นมลทินที่นั่น และเจ้าจะเกลียดตัวเองเพราะความชั่วร้ายทั้งปวงที่เจ้าได้ทำลงไป 44 วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย เจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ เมื่อเราจัดการกับเจ้าโดยเห็นแก่นามของเรา ไม่ใช่ตามวิถีชั่วร้ายและความประพฤติอันเสื่อมทรามของเจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น’ ”

คำพยากรณ์กล่าวโทษเมืองทางใต้

45 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 46 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงหันหน้าไปยังทิศใต้ กล่าวตำหนิเมืองทางใต้และพยากรณ์กล่าวโทษป่าไม้ของแดนใต้ 47 จงกล่าวแก่ป่าไม้แดนใต้ว่า ‘จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เรากำลังจะจุดไฟเผาเจ้า ซึ่งจะเผาผลาญต้นไม้ทุกต้นของเจ้า ทั้งที่เขียวสดและเหี่ยวแห้ง เปลวไฟลุกจ้าจะไม่ดับ และทุกใบหน้าจากทิศใต้ไปถึงทิศเหนือจะถูกไฟนั้นแผดเผา 48 ทุกๆ คนจะเห็นว่า เราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้จุดไฟนั้น มันจะไม่ดับลง’ ”

49 แล้วข้าพเจ้ากราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต! พวกเขากำลังกล่าวเกี่ยวกับข้าพเจ้าว่า ‘เขาเพียงแต่กำลังกล่าวคำอุปมาไม่ใช่หรือ?’ ”

Footnotes

  1. 20:26 หรือโดยให้ลูกหัวปีทุกคนลุยไฟ
  2. 20:29 แปลว่า ที่สูง
  3. 20:31 หรือให้ลูกชายของเจ้าลุยไฟ
  4. 20:40 หรือและการถวายผลแรกของเจ้า

อิสราเอลกบฏอยู่เรื่อยต่อพระเจ้าที่ดีกับพวกเขา

20 ในวันที่สิบของเดือนที่ห้า ปีที่เจ็ด[a] พวกผู้นำอาวุโสบางคนของอิสราเอลได้มาขอคำปรึกษาจากพระยาห์เวห์ พวกเขามานั่งลงตรงหน้าผม

แล้วคำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดกับพวกผู้นำอาวุโสของอิสราเอลอย่างนี้ว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อขอคำปรึกษากับเราหรือ เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะไม่ตอบคำถามของพวกเจ้า’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น “เจ้าลูกมนุษย์ เจ้าจะดำเนินคดีต่อพวกเขาหรือ เจ้าจะดำเนินคดีต่อพวกเขาหรือ ถ้าอย่างนั้น ชี้ให้เขาเห็นการกระทำอันน่าขยะแขยงของบรรพบุรุษของพวกเขาสิ เจ้าต้องบอกกับพวกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ในวันที่เราได้เลือกอิสราเอล ตอนที่เราได้เปิดเผยตัวเองให้กับพวกเขารู้จักในแผ่นดินอียิปต์นั้น เราได้ยกมือขึ้นสาบานต่อพวกลูกหลานของยาโคบว่า “เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า” ในวันนั้นเราได้สาบานไว้กับพวกเขาว่า เราจะนำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ไปยังแผ่นดินที่เราได้ค้นหามาให้กับพวกเขา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์[b] และสวยงามที่สุดในบรรดาดินแดนทั้งหลาย’”

และเราได้พูดกับพวกเขาว่า “พวกเจ้าทุกคน ให้กำจัดรูปปั้นที่น่าขยะแขยง ที่เจ้าชอบมองเพื่อขอความช่วยเหลือจากมันนั้น อย่าทำตัวของพวกเจ้าให้แปดเปื้อนด้วยรูปเคารพทั้งหลายของอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า” แต่พวกเขากลับกบฏต่อเราและไม่ยอมฟังเรา พวกเขาไม่ยอมโยนพวกรูปปั้นชั่วที่ขยะแขยงทิ้ง ที่พวกเขาจ้องมองเพื่อขอความช่วยเหลือนั้น และไม่ยอมละทิ้งพวกรูปเคารพขี้ๆของอียิปต์ ดังนั้นเราจึงพูดว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขาและแสดงความโกรธใส่พวกเขาในแผ่นดินอียิปต์’ แต่เพื่อไม่ให้เราเสียชื่อ ต่อชนชาติทั้งหลายรอบข้าง ที่ได้เห็นเรานำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราจึงไม่ได้ทำลายพวกเขา 10 เราได้นำชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์ไปที่ทะเลทราย 11 เราได้ให้ข้อบังคับต่างๆของเรากับพวกเขา และให้พวกเขารู้จักกฎต่างๆของเรา เพราะคนเหล่านั้นที่เชื่อฟังกฎพวกนั้น จะมีชีวิตต่อไป 12 เรายังให้วันหยุดพักผ่อนต่างๆกับพวกเขา เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้ระลึกถึงสายสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน พวกเขาจึงรู้ว่าเราคือยาห์เวห์ที่ทำให้พวกเขาเป็นของเราโดยเฉพาะ

13 แต่ประชาชนชาวอิสราเอลได้กบฏต่อเราในทะเลทราย พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา พวกเขาไม่ยอมรับกฎต่างๆของเรา ทั้งๆที่การเชื่อฟังกฎเหล่านั้นทำให้มีชีวิต พวกเขาทำให้พวกวันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป เราจึงบอกว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา และทำลายพวกเขาในทะเลทราย’ 14 แต่เพื่อไม่ให้เราเสียชื่อ ต่อชนชาติทั้งหลายที่ได้เห็นเรานำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราจึงไม่ได้ทำลายพวกเขา 15 ที่ทะเลทรายนั้น เราได้ยกมือขึ้นสาบานกับพวกเขาว่า ‘เราจะไม่นำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราสัญญาว่าจะให้กับพวกเขา ซึ่งเป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามที่สุดในบรรดาแผ่นดินทั้งหมด’

16 เพราะพวกเขาไม่ยอมรับกฎต่างๆของเราและไม่ทำตามข้อบังคับของเรา และยังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย เพราะพวกเขาได้มอบใจของพวกเขาให้กับพวกรูปเคารพทั้งหลายเหล่านั้นไป 17 แต่เราได้มองดูพวกเขาด้วยความสงสารและไม่ได้ทำลายพวกเขาหรือทำให้พวกเขาจบสิ้นไปที่ทะเลทรายนั้น 18 เราได้พูดกับลูกๆของพวกเขาในทะเลทรายว่า ‘อย่าทำตามข้อบังคับต่างๆของพวกพ่อเจ้า อย่ารักษากฎทั้งหลายของพวกเขา อย่าทำตัวของพวกเจ้าให้แปดเปื้อนไปด้วยรูปเคารพของพวกเขา 19 เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า ให้ทำตามข้อบังคับของเรา และให้รักษากฎของเราอย่างเคร่งครัด 20 ให้รักษาพวกวันหยุดพักผ่อนที่เราให้กับเจ้าไว้ให้ศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นสิ่งเตือนใจให้ระลึกถึงสายสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า’

21 แต่ลูกๆพวกนั้นได้กบฏต่อเราอีก พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา พวกเขาไม่ได้รักษากฎของเราอย่างเคร่งครัด ทั้งๆที่การเชื่อฟังกฎเหล่านั้นทำให้มีชีวิต พวกเขายังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ด้วย ดังนั้น เราจึงบอกว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา และแสดงความโกรธใส่พวกเขาในทะเลทราย’ 22 แต่เราได้ยั้งมือไว้ เพื่อไม่ให้เราเสียชื่อต่อชนชาติทั้งหลายที่ได้เห็นเรานำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ 23 ที่ทะเลทรายนั้น เราได้ยกมือขึ้นสาบานกับพวกเขาว่า ‘เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปอยู่ตามชนชาติต่างๆและทำให้พวกเขาแตกกระเจิงไปอยู่ตามประเทศทั้งหลาย’

24 เพราะพวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังกฎต่างๆของเรา พวกเขาไม่ยอมรับข้อบังคับต่างๆของเรา และยังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่พวกรูปเคารพของบรรพบุรุษของพวกเขา 25 ดังนั้นเราจึงให้กฎระเบียบที่ห่วยๆกับพวกเขาและให้กฎที่ไม่สามารถช่วยให้พวกเขามีชีวิตรอดได้ 26 เราทำให้พวกเขาแปดเปื้อนไป ด้วยของถวายของพวกเขาเอง คือการสังเวยลูกชายหัวปี เพื่อเราจะได้ทำลายพวกเขาและให้พวกเขารู้ว่าเราคือยาห์เวห์ 27 ดังนั้น เจ้าลูกมนุษย์ ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘พวกพ่อของเจ้าได้ทรยศเรา ซึ่งเป็นการลบหลู่เรา 28 เราได้นำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราได้สาบานไว้ว่าจะให้กับพวกเขา แต่พอพวกเขาเห็นเนินเขาสูงลูกใดหรือต้นไม้ต้นไหนที่ให้ร่มเงา พวกเขาก็จะถวายเครื่องบูชาของพวกเขาที่นั่น พวกเขาได้ยั่วยุให้เราโกรธ ด้วยการถวายเครื่องบูชาอันมีกลิ่นหอม และเทเครื่องดื่มบูชาให้กับพระปลอมที่นั่น 29 เราจึงถามพวกเขาว่า “ศาลเจ้าอะไรหรือที่พวกเจ้าไปกัน” มันถึงเรียกว่า บามาห์[c] มาจนถึงทุกวันนี้’

30 ดังนั้นให้บอกกับครอบครัวชาวอิสราเอลว่า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า

“เจ้าจะทำตัวไม่บริสุทธิ์ เหมือนกับบรรพบุรุษของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ ที่ไปลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับรูปปั้นที่น่าขยะแขยงของพวกเขานั้น 31 การที่พวกเจ้ายังถวายเครื่องบูชา ด้วยการเอาลูกๆของพวกเจ้าใส่เข้าไปในไฟ พวกเจ้าก็ได้ทำให้ตัวเองแปดเปื้อนด้วยรูปเคารพทั้งหลายของพวกเจ้ามาจนถึงทุกวันนี้ แล้วเจ้ายังมีหน้ามาขอคำปรึกษาจากเราอีกหรือ ครอบครัวอิสราเอลเอ๋ย เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะไม่ตอบคำถามพวกเจ้าแม้แต่ข้อเดียว” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น 32 พวกเจ้าพูดว่า “พวกเราอยากเป็นเหมือนชนเผ่าอื่นๆในโลกนี้ ที่นมัสการพระเจ้าที่เป็นไม้หรือหิน” แต่สิ่งที่พวกเจ้าคิดนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นหรอก

33 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะปกครองพวกเจ้าด้วยมืออันทรงพลัง ด้วยแขนที่ยื่นออกมา และด้วยการเทความเดือดดาลออกมา 34 เราจะนำพวกเจ้ามาจากชนชาติต่างๆและรวบรวมพวกเจ้ามาจากประเทศทั้งหลายที่พวกเจ้าได้กระจัดกระจายกันไปอยู่นั้น ด้วยมืออันทรงพลังและแขนที่ยื่นออกมานี้ 35 เราจะนำพวกเจ้าเข้าไปในทะเลทรายของชาติต่างๆและที่นั่นเราจะเจอกันซึ่งๆหน้า และเราจะตัดสินโทษพวกเจ้า 36 เหมือนกับที่เราได้ตัดสินบรรพบุรุษของพวกเจ้าในทะเลทรายใกล้แผ่นดินอียิปต์” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

37 “เราจะนับพวกเจ้าด้วยการให้เดินลอดไม้เท้าของเราไป[d] และเราจะทำให้เจ้ายินยอมต่อข้อตกลงของเรา 38 เราจะกำจัดพวกที่ชอบลุกฮือขึ้นต่อต้านและกบฏต่อเรา ถึงแม้ว่าเราจะนำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินที่พวกเขากำลังอาศัยอยู่อย่างคนต่างชาตินั้น แต่เราก็จะไม่ให้พวกเขาเข้าสู่แผ่นดินอิสราเอล แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”

39 ส่วนพวกเจ้า ครอบครัวชาวอิสราเอล พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้ว่า “ไปเลย พวกเจ้าแต่ละคนไปนมัสการพวกรูปเคารพของพวกเจ้าตอนนี้เลย และต่อไป ถ้าพวกเจ้าไม่ฟังเรา (จะได้เห็นดีแน่)[e] และพวกเจ้าจะไม่ทำให้ชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของเราต้องเสื่อมเสียอีกต่อไปแล้วด้วยของถวายและรูปเคารพทั้งหลายของพวกเจ้า”

40 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “บนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา ซึ่งเป็นภูเขาสูงของอิสราเอลครอบครัวชาวอิสราเอลทั้งหมดจะนมัสการเราที่นี่ เราจะยอมรับพวกเขา เราจะยอมรับเครื่องบูชาทั้งหลายของพวกเจ้า และของถวายที่เป็นผลผลิตชุดแรกของพวกเจ้า รวมทั้งเครื่องบูชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของพวกเจ้าด้วย 41 เมื่อเรานำพวกเจ้าออกมาจากชนชาติต่างๆและรวบรวมพวกเจ้ามาจากประเทศทั้งหลายที่เราได้ทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายกันไปอยู่นั้น เราจะยอมรับพวกเจ้าเหมือนกลิ่นหอมจากควันของเครื่องบูชาของเจ้า และเราจะแสดงความศักดิ์สิทธิ์ของเราในหมู่พวกเจ้าต่อหน้าสายตาของชนชาติทั้งหลาย 42 แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์ เมื่อเรานำพวกเจ้าเข้าสู่แผ่นดินอิสราเอลซึ่งเป็นแผ่นดินที่เราได้ยกมือสาบานไว้ว่าจะให้กับบรรพบุรุษของพวกเจ้า 43 ที่นั่นพวกเจ้าจะสำนึกผิดถึงการกระทำและวิถีทางที่ชั่วร้ายทั้งหลายของเจ้า ที่ทำให้เจ้าแปดเปื้อน แล้วเจ้าจะละอายใจ 44 ครอบครัวของอิสราเอล พวกเจ้าได้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายมากมาย พวกเจ้าสมควรที่จะถูกทำลาย แต่เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของเรา เราจะไม่ทำอย่างนั้น แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

พระยาห์เวห์จะชักดาบออกมาทำลายยูดาห์ตั้งแต่ใต้ถึงเหนือ

45 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 46 “เจ้าลูกมนุษย์หันหน้าไปทางใต้ และเทศน์ต่อว่าทิศใต้นั้นให้พูดแทนเราต่อต้านป่าแห่งดินแดนทางใต้นั้น 47 ให้พูดกับป่าทางใต้นั้นว่า ‘ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้ว่า เราจะจุดไฟเผาพวกเจ้า และมันจะเผาผลาญต้นไม้ทั้งหมดของเจ้า ทั้งต้นที่ยังเขียวสดอยู่และต้นที่เหี่ยวแห้งแล้ว เปลวไฟจะไม่ดับลงและใบหน้าทุกหน้าตั้งแต่ทางใต้ไปจนถึงทางเหนือจะร้อนผ่าวๆเพราะมัน 48 ทุกคนจะเห็นว่า เรา ยาห์เวห์ เป็นผู้จุดไฟนั้นขึ้น และมันจะไม่ดับลง’”

49 แล้วผมได้พูดว่า “พระยาห์เวห์เจ้าข้า พวกเขากำลังพูดถึงผมว่า

‘เขาเป็นคนชอบเล่าเรื่องเปรียบเทียบอยู่อย่างนั้นแหละ’”

Footnotes

  1. 20:1 เดือนที่ห้า ปีที่เจ็ด ตรงกับเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมของปีที่ 591 ก่อนพระเยซูมาเกิด
  2. 20:6 อุดมสมบูรณ์ หรือแปลตรงๆว่า “แผ่นดินที่มีน้ำนมกับน้ำเชื่อมผลไม้ไหลอยู่”
  3. 20:29 บามาห์ เป็นคำฮีบรู ในที่นี้หมายถึงศาลเจ้า หรือ แปลตรงๆคือ สถานที่สูง คำนี้มีเสียงคล้ายกับคำว่า “ไป” (บา) และ “อะไร” (มาห์)
  4. 20:37 เราจะนับ … ลอดไม้เท้าของเราไป เปรียบเทียบกับแกะที่เดินลอดไม้เท้าแสดงว่าแกะนั้นเป็นของผู้เลี้ยงคนนั้น ดูเพิ่มเติมได้จากหนังสือเลวีนิติ 27:32; มาลาคี 7:14
  5. 20:39 จะได้เห็นดีแน่ ไม่มีคำพูดนี้ในสำเนาต้นฉบับเดิม แต่ใส่เข้าไปเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เพราะพระยาห์เวห์ละไว้ให้เขาคิดเอาเอง