Add parallel Print Page Options

ของชดใช้สำหรับสิ่งที่โกงเขา

(กดว. 5:5-10)

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เมื่อมีคนๆหนึ่งทำผิดและล่วงเกินพระยาห์เวห์ ด้วยการทำบาปต่อไปนี้ คือโกหกเพื่อนบ้านเกี่ยวกับของที่เพื่อนบ้านฝากให้เขาดูแล หรือเกี่ยวกับของที่เอามาวางมัดจำ[a]ที่เขาได้รับ หรือเกี่ยวกับสิ่งที่กู้ยืมมา หรือของที่ไปปล้นหรือโกงเพื่อนบ้านมา หรือเจอของหายแต่โกหกว่าไม่เจอ หรือสาบานว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่ได้ทำลงไปซึ่งเป็นบาป เมื่อคนๆนั้นได้ทำบาป เขามีความผิด เขาต้องคืนสิ่งที่เขาได้ปล้นมา หรือโกงมา หรือของที่คนอื่นฝากให้เขาดูแล หรือของที่เขาเจอ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขาได้สาบานเท็จไว้ เขาต้องชดใช้เต็มมูลค่าของนั้น และต้องเพิ่มไปอีกหนึ่งในห้าของมูลค่าของนั้น เขาต้องชดใช้ให้กับเจ้าของ ในวันที่พิสูจน์ได้ว่าเขาทำผิดจริง

และเขาต้องเอาของถวายชดใช้มาให้กับพระยาห์เวห์ เป็นแกะตัวผู้ที่ไม่มีตำหนิจากฝูง ตามมูลค่าที่ถูกต้องสำหรับเป็นของถวายชดใช้ แล้วเอามาให้กับนักบวช และโดยวิธีนี้นักบวชจะกำจัดบาปเพื่อเขาต่อหน้าพระยาห์เวห์ และเขาจะได้รับการอภัยสำหรับอะไรก็ตามที่เขาทำไปซึ่งทำให้เขามีความผิด”

เครื่องเผาบูชา

(อพย. 29:38-43; กดว. 28:1-8)

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้สั่งอาโรนและพวกลูกๆของเขาว่า ‘นี่คือกฎระเบียบสำหรับเครื่องเผาบูชา เครื่องเผาบูชาจะต้องอยู่บนไฟบนแท่นบูชาตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า และไฟบนแท่นบูชาจะต้องเผาอยู่ตลอดเวลา 10 นักบวชต้องสวมเสื้อคลุมที่เป็นผ้าลินิน และสวมชุดชั้นในที่เป็นผ้าลินินด้วย เครื่องเผาบูชาที่ถูกไฟเผาบนแท่นบูชา จนกลายเป็นขี้เถ้านั้น นักบวชจะต้องโกยเอาขี้เถ้านั้นมาวางไว้ข้างๆแท่นบูชา 11 จากนั้นนักบวชก็ถอดเสื้อผ้าออก แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวอื่นแทน แล้วเอาขี้เถ้านั้นออกไปนอกค่าย ไปไว้ในสถานที่ที่บริสุทธิ์ 12 แต่ไฟบนแท่นบูชาจะต้องเผาต่อไปเรื่อยๆ ระวังให้ดี อย่าให้ไฟนั้นดับ นักบวชจะต้องคอยเติมฟืนลงไปทุกๆเช้า และคอยจัดการเรื่องเครื่องเผาบูชาบนแท่นนี้ และเผาส่วนไขมันของเครื่องสังสรรค์บูชาบนแท่นบูชานี้ 13 ไฟบนแท่นบูชาต้องเผาอยู่ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้มันดับ

เครื่องบูชาจากเมล็ดพืช

14 นี่คือกฎระเบียบสำหรับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช พวกลูกชายของอาโรนต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชต่อหน้าพระยาห์เวห์บนแท่นบูชา 15 นักบวชต้องหยิบแป้งอย่างดี กับน้ำมัน จากเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชมาหนึ่งกำมือ พร้อมกับกำยาน[b] ทั้งหมด แล้วก็เอาส่วนนี้ ซึ่งเป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาทั้งหมด ไปเผาบนแท่นบูชา เป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

16 อาโรนกับพวกลูกชายของเขากินส่วนที่เหลือได้ ต้องกินมันโดยไม่มีเชื้อฟู และต้องกินในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาต้องกินมันในลานของเต็นท์นัดพบ 17 ต้องเอามันไปอบโดยไม่ใส่เชื้อฟู เราให้ส่วนนี้กับพวกเขาเป็นส่วนแบ่งจากพวกของขวัญ มันเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เหมือนกับเครื่องบูชาชำระล้างและเป็นของถวายชดใช้ 18 ชายทุกคนที่เป็นลูกหลานของอาโรนก็กินมันได้ มันเป็นส่วนแบ่งจากพวกของขวัญที่นำมาถวายพระยาห์เวห์ ที่ให้กับลูกหลานของเขาตลอดไป ใครก็ตามที่แตะต้องเครื่องบูชาเหล่านี้ก็จะถูกอุทิศไว้ให้กับพระยาห์เวห์’”

เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชของนักบวช

19 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 20 “นี่คือเครื่องบูชาที่อาโรนและพวกลูกชายของเขา ต้องเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ ในวันที่อาโรนได้รับการเจิม ให้เป็นนักบวชสูงสุด คือแป้งอย่างดีประมาณสองลิตรเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชประจำวัน ถวายครึ่งหนึ่งในตอนเช้าและอีกครึ่งหนึ่งในตอนเย็น 21 ให้เอาแป้งผสมกับน้ำมันให้เข้ากัน แล้วเอาไปเตรียมบนกระทะเหล็ก และถวายเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ที่เป็นชิ้นๆเป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

22 ลูกหลานของอาโรนรุ่นต่อไป ที่ได้รับการเจิมให้มาเป็นนักบวชสูงสุดแทนอาโรน จะต้องเป็นคนเตรียมเครื่องบูชานี้ มันคือส่วนแบ่งของพระยาห์เวห์ตลอดไป มันจะต้องเผาจนหมดเกลี้ยง 23 และเครื่องบูชาทั้งหมดที่นักบวชทำขึ้นมา จะต้องเอาไปเผาให้หมดเกลี้ยง ห้ามเอามากิน”

กฎของเครื่องบูชาชำระล้าง

(ลนต. 4:1-35)

24 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 25 “ให้บอกอาโรนกับลูกๆของเขาว่า ‘นี่เป็นกฎระเบียบสำหรับเครื่องบูชาชำระล้าง คือให้ฆ่าเครื่องบูชาชำระล้างตรงที่เดียวกับที่ฆ่าเครื่องเผาบูชา ต่อหน้าพระยาห์เวห์ มันเป็นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 26 นักบวชที่ถวายเครื่องบูชาชำระล้าง ก็จะต้องกินมัน แต่ต้องกินในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในลานของเต็นท์นัดพบ 27 ใครก็ตามที่แตะต้องเนื้อของเครื่องบูชานี้ จะต้องถูกอุทิศไว้ให้กับพระยาห์เวห์ ถ้าเลือดมันกระเด็นไปถูกเสื้อผ้าของใครเข้า คนๆนั้นจะต้องล้างมันในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 28 และต้องทุบทิ้งหม้อดินทุกใบที่ใช้ต้มเนื้อของเครื่องบูชาชำระล้างนั้น แต่ถ้าใช้หม้อทองสัมฤทธิ์ต้ม ต้องขัดหม้อนั้นและล้างด้วยน้ำ

29 ผู้ชายทุกคนที่เป็นนักบวชจะกินเนื้อของเครื่องบูชาชำระล้างนี้ได้ มันคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 30 แต่ถ้าพวกนักบวชนำเลือดเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพื่อชำระล้างพวกของศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ห้ามกินเครื่องบูชานั้น แต่ให้เอาไปเผาไฟเสีย

Footnotes

  1. 6:2 วางมัดจำ คือค่าประกันหรือของประกัน เป็นเงินที่จ่ายล่วงหน้าบางส่วน เพื่อพิสูจน์ว่าเขาจะกลับมาจัดการกับส่วนที่เหลือแน่
  2. 6:15 กำยาน ต้นไม้ชนิดพิเศษตากแห้ง เมื่อเผาแล้วจะให้ควันที่มีกลิ่นหอมหวาน ใช้เป็นของขวัญให้พระเจ้า

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “ผู้ใดทำบาปและไม่ซื่อตรงต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า โดยหลอกเพื่อนบ้านเกี่ยวกับสิ่งของที่รับฝาก หรืออยู่ในการดูแล หรือถูกขโมย หรือคดโกงเพื่อนบ้าน หรือเก็บของได้และโกหกว่าไม่ได้เอาไป หรือสาบานเท็จ หรือทำบาปใดๆ เมื่อเขาทำบาปและมีความผิด เขาต้องคืนสิ่งที่ขโมย หรือที่ขู่กรรโชกมา หรือของที่เขารับฝากไว้ หรือของที่เขาเก็บได้ หรืออะไรก็ตามที่เขาสาบานเท็จเกี่ยวกับสิ่งนั้น เขาต้องชดใช้ให้เต็มราคา และเพิ่มอีกหนึ่งในห้าของราคานั้นให้กับเจ้าของในวันที่เขาถวายเครื่องบูชาลบความผิด และเพื่อเป็นการลงโทษ เขาต้องนำเครื่องบูชาลบความผิดมาให้ปุโรหิต นั่นคือเขาต้องถวายแกะผู้ที่ไม่มีตำหนิและมีค่าเหมาะสมจากฝูงแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ปุโรหิตจะทำการลบบาปให้เขาต่อหน้า องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยวิธีนี้ แล้วเขาจะได้รับการอภัยสำหรับความผิดเหล่านี้ที่ได้ทำไป”

เครื่องเผาบูชา

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงแจ้งคำสั่งนี้แก่อาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาว่า ‘นี่เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องเผาบูชา ให้ทิ้งเครื่องเผาบูชาไว้ตรงที่เผาตลอดคืนจนรุ่งเช้า และปล่อยให้ไฟบนแท่นบูชาลุกอยู่เช่นนั้น 10 แล้วปุโรหิตจะสวมเครื่องแต่งกายที่ทำจากผ้าลินินพร้อมกับเครื่องแต่งกายชั้นในที่ติดกับตัว และเขาจะกวาดเถ้าของเครื่องเผาบูชากองไว้ข้างแท่น 11 จากนั้นเขาต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วนำเถ้าออกนอกค่ายพักแรมไปยังที่ที่ไม่เป็นมลทินตามระเบียบพิธี 12 ให้ไฟบนแท่นบูชาลุกอยู่ตลอดเวลา อย่าให้ดับ ปุโรหิตจะเติมฟืนทุกเช้า วางเครื่องเผาบูชาประจำวันบนฟืน แล้วเผาไขมันของเครื่องสันติบูชาบนแท่น 13 จงให้ไฟลุกโชนอยู่ที่แท่นตลอดเวลา อย่าให้ดับเลย

เครื่องธัญบูชา

14 “ ‘ต่อไปนี้เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องธัญบูชา บรรดาบุตรชายของอาโรนจะนำเครื่องธัญบูชามาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าหน้าแท่นบูชา 15 ปุโรหิตจะเอาแป้งบดละเอียดหนึ่งกำมือ เคล้าน้ำมันและเครื่องหอมจากเครื่องธัญบูชา แล้วเผาส่วนอนุสรณ์นั้นบนแท่นบูชา เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย 16 อาโรนและบรรดาบุตรชายจะกินส่วนที่เหลือ แต่ต้องกินโดยไม่ใส่เชื้อในที่บริสุทธิ์ นั่นคือที่ลานเต็นท์นัดพบ 17 จะต้องอบแป้งนั้นโดยไม่ใส่เชื้อ เรายกเครื่องบูชาส่วนนี้ซึ่งถวายแก่เราด้วยไฟให้เป็นส่วนของปุโรหิต เป็นของบริสุทธิ์ที่สุดเช่นเดียวกับเครื่องบูชาไถ่บาปและเครื่องบูชาลบความผิด 18 ลูกหลานของอาโรนที่เป็นผู้ชายจะกินของนี้ได้ เป็นส่วนประจำของเขาจากเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าสืบไปทุกชั่วอายุ สิ่งใดก็ตามที่แตะต้องสิ่งเหล่านี้จะบริสุทธิ์[a]’ ”

19 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสอีกว่า 20 “นี่คือเครื่องบูชาที่อาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาจะต้องนำมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าในวันที่เขา[b]ได้รับการเจิมตั้ง คือแป้งละเอียดประมาณ 2 ลิตร[c] เป็นเครื่องธัญบูชาที่ถวายเป็นประจำ ครึ่งหนึ่งถวายตอนเช้า อีกครึ่งหนึ่งถวายตอนเย็น 21 จงทอดแป้งนั้นกับน้ำมันในกระทะ คลุกเคล้าให้เข้ากันอย่างดีและนำเครื่องธัญบูชาที่หัก[d]เป็นชิ้นๆ นี้มาถวาย เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย 22 บุตรชายผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งปุโรหิตที่ได้รับการเจิมตั้งต่อจากอาโรนจะเป็นผู้เตรียมเครื่องถวายนี้ นี่เป็นส่วนที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นประจำและจะต้องเผาให้หมด 23 ธัญบูชาของปุโรหิตทุกอย่างจะต้องเผาให้หมด ห้ามกิน”

เครื่องบูชาไถ่บาป

24 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 25 “จงบอกอาโรนและบรรดาบุตรชายว่า ‘ต่อไปนี้เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องบูชาไถ่บาปคือ จะต้องนำเครื่องบูชาไถ่บาปมาฆ่าต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าในที่สำหรับฆ่าสัตว์เป็นเครื่องเผาบูชา เครื่องบูชาไถ่บาปนี้คือของบริสุทธิ์ที่สุด 26 ปุโรหิตผู้ประกอบพิธีจะกินเครื่องบูชานี้ในที่บริสุทธิ์ คือในลานเต็นท์นัดพบ 27 สิ่งใดก็ตามที่แตะต้องเนื้อนั้นจะบริสุทธิ์ และหากเลือดกระเซ็นไปเปื้อนเสื้อผ้า จะต้องซักในที่บริสุทธิ์ 28 จะต้องทุบหม้อดินเผาซึ่งใช้ต้มเนื้อนั้นทิ้ง หรือหากใช้ภาชนะทองสัมฤทธิ์ต้ม ก็ต้องขัดและล้างน้ำ 29 ผู้ชายทุกคนในครอบครัวปุโรหิตเท่านั้นที่กินเครื่องบูชานี้ได้ เพราะเป็นของบริสุทธิ์ที่สุด 30 อย่ากินเครื่องบูชาไถ่บาปซึ่งเลือดของมันถูกนำเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพื่อทำการลบบาปในวิสุทธิสถาน แต่จะต้องเผาทิ้ง

Footnotes

  1. 6:18 หรือผู้ใดก็ตามที่แตะต้องสิ่งเหล่านี้จะต้องบริสุทธิ์เหมือนกับข้อ 27
  2. 6:20 หรือแต่ละคน
  3. 6:20 ภาษาฮีบรูว่า หนึ่งในสิบเอฟาห์
  4. 6:21 ในภาษาฮีบรูคำนี้มีความหมายไม่ชัดเจน

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ถ้าผู้ใดกระทำบาปและไม่ภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า โดยลวงหลอกเพื่อนร่วมชาติของตนในเรื่องของรับฝากหรือการให้ความปลอดภัย การขโมยหรือเอาเปรียบเพื่อนร่วมชาติ หรือพบสิ่งที่หายไปแล้วยังโกหก อีกทั้งสาบานเท็จ เขาจึงกระทำบาปในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่มนุษย์กระทำ เมื่อผู้ใดกระทำบาปและสำนึกผิด เขาจะต้องคืนสิ่งที่เขาขโมยหรือได้จากการฉ้อโกง หรือสิ่งที่เขาได้รับมอบหมาย หรือพบสิ่งที่หายไป หรือการสาบานในเรื่องโกหก เขาจะต้องจ่ายคืนให้ครบ และยังต้องมอบให้เจ้าของเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งในห้าส่วน ในวันถวายของเพื่อไถ่โทษ ให้เขานำของถวายเพื่อไถ่โทษมาให้ปุโรหิตเพื่อพระผู้เป็นเจ้า คือแกะตัวผู้ไม่มีตำหนิจากฝูง เท่ากับค่าของถวายเพื่อไถ่โทษ และปุโรหิตจะทำพิธีชดใช้บาปให้เขา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และเขาจะได้รับการยกโทษเรื่องที่เขากระทำและมีความผิด”

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงสั่งให้อาโรนและบรรดาบุตรของเขาว่า ‘นี่คือกฎบัญญัติที่เกี่ยวกับสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย ให้วางสัตว์ที่เผาเป็นของถวายบนพื้นเตาที่แท่นบูชาตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า และให้ไฟลุกอยู่ตลอดเวลา 10 ปุโรหิตจะสวมเสื้อผ้าป่านทอทับเสื้อชั้นใน และเขาจะตักขี้เถ้าจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายซึ่งไหม้ไฟที่แท่นบูชา แล้ววางไว้ที่ข้างแท่น 11 จากนั้นให้ปุโรหิตเปลี่ยนเสื้อผ้าป่านเป็นเสื้ออื่นแทน และเอาขี้เถ้าออกไปนอกค่ายยังที่ที่สะอาดของพิธีกรรม 12 ให้ไฟที่แท่นบูชาลุกไหม้อยู่เสมอ อย่าให้ดับ ให้ปุโรหิตเผาไม้ที่นั่นทุกๆ เช้า และให้วางสัตว์ที่เผาเป็นของถวายบนนั้นให้เป็นระเบียบ แล้วเผาไขมันซึ่งเป็นของถวายเพื่อสามัคคีธรรมบนไฟกองนั้น 13 จงให้ไฟที่แท่นบูชาลุกอยู่เสมอ อย่าให้ดับ

เครื่องธัญญบูชา

14 และนี่คือกฎบัญญัติที่เกี่ยวกับเครื่องธัญญบูชา จงให้บรรดาบุตรของอาโรนถวาย ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าที่หน้าแท่นบูชา 15 ให้คนหนึ่งหยิบแป้งสาลีชั้นเยี่ยมหนึ่งกำมือจากเครื่องธัญญบูชาซึ่งมีน้ำมันผสม และกำยานทั้งหมดที่วางไว้บนเครื่องธัญญบูชา และเผาเพื่อเป็นส่วนอนุสรณ์ที่แท่นบูชา ส่งกลิ่นหอมเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า 16 ที่เหลือให้อาโรนและบรรดาบุตรของเขารับประทานได้ แต่ต้องไม่ใช้เชื้อยีสต์ผสม รับประทานในสถานที่ที่บริสุทธิ์ ให้พวกเขารับประทานที่ลานของกระโจมที่นัดหมาย 17 อย่าอบขนมด้วยเชื้อยีสต์ เราให้ของถวายด้วยไฟแก่พวกเขาเพื่อเป็นส่วนแบ่งจากเราคือ เป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุด เช่นเดียวกับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปและของถวายเพื่อไถ่โทษ 18 บรรดาบุตรทุกคนของอาโรนก็รับประทานได้ ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ของทุกชาติพันธุ์ของเจ้าไปตลอดกาล ผู้ใดจับต้องของถวายด้วยไฟเหล่านี้ที่เป็นของพระผู้เป็นเจ้าจะบริสุทธิ์’”

19 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า 20 “ของถวายที่อาโรนและบรรดาบุตรของเขาจะถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าในวันที่เขาได้รับการเจิมคือ แป้งสาลีชั้นเยี่ยมหนึ่งส่วนสิบเอฟาห์เป็นธัญญบูชาประจำวัน ครึ่งหนึ่งในตอนเช้า และอีกครึ่งหนึ่งในตอนเย็น 21 จงผสมด้วยน้ำมันและผสมให้เข้ากัน ทอดบนกระทะก้นแบน และนำมาเมื่อทอดเสร็จเหมือนกับถวายเครื่องธัญญบูชา ส่งกลิ่นหอมเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า 22 ให้บุตรของอาโรนที่ได้รับการเจิมเป็นปุโรหิตคนต่อไปแทนเขาเป็นผู้ถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า ตามกฎเกณฑ์ชั่วนิรันดร์กาล ให้เผาทั้งหมด 23 เครื่องธัญญบูชาที่ปุโรหิตถวายทุกครั้งจะต้องเผาแป้งให้หมด อย่าให้ใครรับประทาน”

เครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป

24 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า 25 “จงบอกอาโรนและบรรดาบุตรของเขาว่า กฎบัญญัติที่เกี่ยวกับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปคือ สัตว์ที่เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุด ต้องฆ่าสัตว์ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าในที่เผาสัตว์เพื่อเป็นของถวาย 26 ปุโรหิตที่ถวายเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปรับประทานสัตว์นั้นได้ และให้เขารับประทานในสถานที่ที่บริสุทธิ์ในลานของกระโจมที่นัดหมาย 27 ผู้ใดจับต้องเนื้อสัตว์ ผู้นั้นจะบริสุทธิ์ และเมื่อเลือดกระเด็นเปื้อนเสื้อผ้า เจ้าจะต้องซักในสถานที่ที่บริสุทธิ์ 28 เจ้าต้องทุบหม้อดินที่ใช้ต้มสัตว์ทิ้ง แต่ถ้าต้มในภาชนะทองสัมฤทธิ์ ก็ต้องขัดถูและล้างน้ำ 29 ชายทุกคนที่เป็นปุโรหิตรับประทานได้ เพราะเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุด 30 แต่ถ้านำเลือดของสัตว์ตัวใดเข้ามาในกระโจมที่นัดหมาย เพื่อใช้ในพิธีชดใช้บาปในวิสุทธิสถาน ก็อย่ารับประทานเนื้อสัตว์ตัวนั้น จงเผาไฟเสีย

And the Lord spake unto Moses, saying,

If a soul sin, and commit a trespass against the Lord, and lie unto his neighbour in that which was delivered him to keep, or in fellowship, or in a thing taken away by violence, or hath deceived his neighbour;

Or have found that which was lost, and lieth concerning it, and sweareth falsely; in any of all these that a man doeth, sinning therein:

Then it shall be, because he hath sinned, and is guilty, that he shall restore that which he took violently away, or the thing which he hath deceitfully gotten, or that which was delivered him to keep, or the lost thing which he found,

Or all that about which he hath sworn falsely; he shall even restore it in the principal, and shall add the fifth part more thereto, and give it unto him to whom it appertaineth, in the day of his trespass offering.

And he shall bring his trespass offering unto the Lord, a ram without blemish out of the flock, with thy estimation, for a trespass offering, unto the priest:

And the priest shall make an atonement for him before the Lord: and it shall be forgiven him for any thing of all that he hath done in trespassing therein.

And the Lord spake unto Moses, saying,

Command Aaron and his sons, saying, This is the law of the burnt offering: It is the burnt offering, because of the burning upon the altar all night unto the morning, and the fire of the altar shall be burning in it.

10 And the priest shall put on his linen garment, and his linen breeches shall he put upon his flesh, and take up the ashes which the fire hath consumed with the burnt offering on the altar, and he shall put them beside the altar.

11 And he shall put off his garments, and put on other garments, and carry forth the ashes without the camp unto a clean place.

12 And the fire upon the altar shall be burning in it; it shall not be put out: and the priest shall burn wood on it every morning, and lay the burnt offering in order upon it; and he shall burn thereon the fat of the peace offerings.

13 The fire shall ever be burning upon the altar; it shall never go out.

14 And this is the law of the meat offering: the sons of Aaron shall offer it before the Lord, before the altar.

15 And he shall take of it his handful, of the flour of the meat offering, and of the oil thereof, and all the frankincense which is upon the meat offering, and shall burn it upon the altar for a sweet savour, even the memorial of it, unto the Lord.

16 And the remainder thereof shall Aaron and his sons eat: with unleavened bread shall it be eaten in the holy place; in the court of the tabernacle of the congregation they shall eat it.

17 It shall not be baken with leaven. I have given it unto them for their portion of my offerings made by fire; it is most holy, as is the sin offering, and as the trespass offering.

18 All the males among the children of Aaron shall eat of it. It shall be a statute for ever in your generations concerning the offerings of the Lord made by fire: every one that toucheth them shall be holy.

19 And the Lord spake unto Moses, saying,

20 This is the offering of Aaron and of his sons, which they shall offer unto the Lord in the day when he is anointed; the tenth part of an ephah of fine flour for a meat offering perpetual, half of it in the morning, and half thereof at night.

21 In a pan it shall be made with oil; and when it is baken, thou shalt bring it in: and the baken pieces of the meat offering shalt thou offer for a sweet savour unto the Lord.

22 And the priest of his sons that is anointed in his stead shall offer it: it is a statute for ever unto the Lord; it shall be wholly burnt.

23 For every meat offering for the priest shall be wholly burnt: it shall not be eaten.

24 And the Lord spake unto Moses, saying,

25 Speak unto Aaron and to his sons, saying, This is the law of the sin offering: In the place where the burnt offering is killed shall the sin offering be killed before the Lord: it is most holy.

26 The priest that offereth it for sin shall eat it: in the holy place shall it be eaten, in the court of the tabernacle of the congregation.

27 Whatsoever shall touch the flesh thereof shall be holy: and when there is sprinkled of the blood thereof upon any garment, thou shalt wash that whereon it was sprinkled in the holy place.

28 But the earthen vessel wherein it is sodden shall be broken: and if it be sodden in a brasen pot, it shall be both scoured, and rinsed in water.

29 All the males among the priests shall eat thereof: it is most holy.

30 And no sin offering, whereof any of the blood is brought into the tabernacle of the congregation to reconcile withal in the holy place, shall be eaten: it shall be burnt in the fire.