เยเรมีย์ 18-19
Thai New Contemporary Bible
บทเรียนจากช่างปั้นหม้อ
18 พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ว่า 2 “จงลุกขึ้นลงไปที่บ้านช่างปั้นหม้อ เราจะให้เจ้าได้ยินถ้อยคำของเราที่นั่น” 3 ข้าพเจ้าก็ไปที่บ้านช่างปั้นหม้อ เขากำลังทำงานอยู่ที่แป้น 4 แต่ภาชนะที่เขากำลังปั้นอยู่นั้นเสียรูปทรงอยู่ในมือของเขา เขาจึงนวดขยำเป็นก้อนและเริ่มปั้นใหม่ตามที่เขาเห็นว่าดีที่สุด
5 แล้วพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 6 “พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราทำกับเจ้าแบบเดียวกับช่างปั้นหม้อผู้นี้ไม่ได้หรือ?” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เจ้าอยู่ในมือของเราเหมือนดินเหนียวที่อยู่ในมือของช่างปั้น 7 เมื่อใดก็ตามที่เราประกาศเกี่ยวกับชาติไหนหรืออาณาจักรไหนที่เราจะรื้อถอนและทำลาย 8 แล้วหากชาตินั้นซึ่งเราได้เตือนไว้หันกลับจากความชั่วร้ายของตน เราก็จะเปลี่ยนใจไม่ส่งภัยพิบัติมายังพวกเขาตามที่เราได้ตั้งใจไว้แต่แรก 9 และหากเราประกาศเกี่ยวกับชาติไหนหรืออาณาจักรไหนซึ่งเราจะสร้างและก่อตั้งขึ้น 10 แต่แล้วชาตินั้นอาณาจักรนั้นทำสิ่งที่ชั่วในสายตาของเราและไม่ยอมเชื่อฟังเรา เมื่อนั้นเราก็จะเปลี่ยนใจยังไม่อวยพรพวกเขาอย่างที่คิดไว้
11 “ฉะนั้นจงไปเตือนชนยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็มว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราเตรียมนำภัยพิบัติมายังเจ้า และมีแผนการลงโทษเจ้า ฉะนั้นเจ้าแต่ละคนจงหันจากวิถีชั่วของเจ้าและแก้ไขแนวทางกับการกระทำของเจ้า’ 12 แต่พวกเขาจะตอบว่า ‘พูดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก เราจะทำตามแผนการของเราต่อไป เราแต่ละคนจะทำตามทิฐิในใจชั่วของเรา’ ”
13 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“จงถามดูในหมู่ชนชาติต่างๆ
ใครเคยได้ยินเรื่องเช่นนี้บ้าง
อิสราเอลผู้บริสุทธิ์ได้ทำ
สิ่งที่เลวร้ายที่สุด?
14 หิมะเคยหายไปจากภูผาของเลบานอนหรือ?
สายน้ำเย็นจากภูเขาที่ห่างไกลนั้นเคยหยุดไหลหรือ?[a]
15 ถึงกระนั้นประชากรของเราก็ลืมเรา
พวกเขาเผาเครื่องหอมถวายรูปเคารพอันไร้ค่า
ซึ่งทำให้เขาสะดุดล้มในวิถีทางของตน
และในหนทางโบราณ
ทำให้พวกเขาต้องลงไปเดินข้างทาง
บนถนนที่ไม่ได้สร้างขึ้น
16 ดินแดนของเขาจะถูกทิ้งร้าง
เป็นเป้าของการดูหมิ่นตลอดกาล
ผู้คนที่ผ่านไปมาจะตกตะลึง
และส่ายหน้า
17 เราจะเหวี่ยงประชากรของเราให้กระจัดกระจายไปต่อหน้าศัตรูของพวกเขา
เหมือนลมตะวันออกซัดฝุ่นฟุ้งกระจาย
เราจะหันหลังให้พวกเขา
ในเวลาแห่งภัยพิบัติของเขา”
18 พวกเขากล่าวว่า “เรามาวางแผนกำจัดเยเรมีย์กันเถอะ เพราะว่าสิ่งที่ปุโรหิตสอนจากธรรมบัญญัติ คำปรึกษาจากปราชญ์ และถ้อยคำจากผู้เผยพระวจนะจะไม่สูญหายไป ฉะนั้นให้เราโจมตีเขาด้วยลิ้นของเราและอย่าใส่ใจสิ่งที่เขาพูด”
19 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงฟังข้าพระองค์
ฟังถ้อยคำของบรรดาผู้กล่าวหาข้าพระองค์!
20 ควรหรือที่พวกเขาจะตอบแทนความดีด้วยความชั่ว?
ถึงกระนั้นพวกเขาก็ขุดหลุมพรางดักข้าพระองค์
ขอทรงระลึกว่าข้าพระองค์ยืนอยู่ต่อหน้าพระองค์
กราบทูลพระองค์เพื่อพวกเขา
ให้ทรงหันเหพระพิโรธไปจากพวกเขา
21 ด้วยเหตุนี้ ขอให้ลูกๆ ของพวกเขาอดตาย
ขอให้พวกเขาเป็นเหยื่อคมดาบ
ขอให้ภรรยาของพวกเขาเป็นม่ายและถูกพรากลูกไปหมด
ขอให้พวกผู้ชายของเขาถูกสังหาร
ให้คนหนุ่มของพวกเขาถูกฆ่าฟันในสงคราม
22 ขอให้ได้ยินเสียงกรีดร้องจากบ้านเรือนของพวกเขา
เมื่อพระองค์นำกองทหารเข้าจู่โจมพวกเขาอย่างฉับพลัน
เพราะพวกเขาได้ขุดหลุมดักข้าพระองค์
และซุ่มวางกับดักตามทางของข้าพระองค์
23 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่พระองค์ทรงทราบแผนการทุกอย่างที่
เขาคบคิดกันสังหารข้าพระองค์
โปรดอย่าทรงอภัยให้พวกเขา
ขออย่าทรงลบบาปทั้งหลายของเขาไปจากสายพระเนตรของพระองค์
แต่ขอให้พวกเขาถูกโค่นล้มลงต่อหน้าพระองค์
ขอทรงจัดการกับพวกเขาในเวลาแห่งพระพิโรธของพระองค์
19 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงไปซื้อไหดินใบหนึ่งจากช่างปั้น และพาผู้อาวุโสบางคนของเหล่าประชากรและปุโรหิตอาวุโสบางคนไปกับเจ้าด้วย 2 และจงไปที่หุบเขาเบนฮินโนม ใกล้ทางเข้าประตูกองเศษหม้อของตัวเมือง และจงพูดกับเขาตามถ้อยคำที่เราบอกเจ้าที่นั่นว่า 3 ‘กษัตริย์ยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็ม จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะนำภัยพิบัติมาเหนือสถานที่แห่งนี้ ซึ่งทุกคนที่ได้ยินจะถึงกับขนลุกขนพอง 4 เพราะพวกเขาได้ละทิ้งเรา และทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งพระต่างชาติ พวกเขาเผาเครื่องบูชาแก่พระต่างๆ ซึ่งตัวเขาก็ดี บรรพบุรุษของเขาก็ดี บรรดากษัตริย์ยูดาห์ก็ดี ไม่เคยรู้จักมาก่อน และพวกเขาทำให้สถานที่แห่งนี้นองด้วยเลือดของผู้บริสุทธิ์ 5 เขาได้สร้างสถานบูชาบนที่สูงของพระบาอัล เพื่อเผาลูกชายของตนสังเวยพระบาอัล นี่เป็นสิ่งที่เราไม่เคยสั่งหรือพูดถึง และไม่เคยเข้ามาในความคิดของเราเลย 6 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่าดังนั้นจงระวังให้ดี เพราะจะถึงเวลาที่ผู้คนจะไม่เรียกที่แห่งนี้ว่าโทเฟทหรือหุบเขาเบนฮินโนมอีกต่อไป แต่เรียกว่า “หุบเขาแห่งการเข่นฆ่า”
7 “ ‘ในที่แห่งนี้ เราจะทำลาย[b]แผนการต่างๆ ของยูดาห์และเยรูซาเล็ม เราจะทำให้พวกเขาล้มตายด้วยคมดาบต่อหน้าเหล่าศัตรู ในมือของผู้ที่หมายเอาชีวิตของพวกเขา เราจะทิ้งศพของพวกเขาให้เป็นเหยื่อของนกในอากาศและสัตว์ต่างๆ บนแผ่นดินโลก 8 เราจะทำให้กรุงนี้ถูกทิ้งร้างเป็นเป้าของการดูหมิ่น ทุกคนที่ผ่านไปมาจะตกตะลึงและเย้ยหยัน เมื่อได้เห็นความหายนะทั้งหมดของมัน 9 ในขณะที่ถูกบีบคั้นโดยศัตรูผู้หมายเอาชีวิตของพวกเขาซึ่งล้อมเขาไว้ เราจะทำให้พวกเขากินเนื้อลูกชายลูกสาวของตัวเอง และพวกเขาจะกินเนื้อกันเอง’
10 “จากนั้นเจ้าจงทุบไหใบนั้นต่อหน้าคนเหล่านั้นที่มากับเจ้า 11 และบอกพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนี้ว่า เราจะบดขยี้ชนชาตินี้และเมืองนี้ให้แหลกลาญเหมือนที่ไหใบนี้แตกป่นปี้และซ่อมแซมไม่ได้ พวกเขาจะฝังศพผู้ตายที่โทเฟท จนไม่มีที่ว่างเหลืออยู่อีก 12 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า นี่คือสิ่งที่เราจะทำต่อสถานที่แห่งนี้และแก่คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ เราจะทำให้เมืองนี้เป็นเหมือนโทเฟท 13 บ้านเรือนในกรุงเยรูซาเล็มและวังทั้งหลายของกษัตริย์ยูดาห์จะเป็นมลทินเหมือนโทเฟท คือบ้านทั้งหลายที่เผาเครื่องหอมบูชาบนหลังคาถวายแด่พระแห่งดวงดาวและเทเครื่องดื่มบูชาแด่พระอื่นๆ’ ”
14 แล้วเยเรมีย์เดินทางกลับจากโทเฟทที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้ให้ไปกล่าวคำพยากรณ์ เขามายืนอยู่ที่ลานพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและกล่าวแก่ประชากรทั้งปวงว่า 15 “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘จงฟังเถิด! เราจะนำภัยพิบัติทั้งมวลที่เราประกาศมาสู่กรุงนี้และเมืองต่างๆ โดยรอบ ซึ่งเราได้ประกาศกล่าวโทษ เพราะพวกเขาหัวแข็งและไม่ยอมฟังถ้อยคำของเรา’ ”
2 ทิโมธี 3
Thai New Contemporary Bible
ความอธรรมในวาระสุดท้าย
3 แต่จงรู้ไว้ด้วยว่าจะเกิดกลียุคในวาระสุดท้าย 2 ผู้คนจะรักตนเอง รักเงิน ชอบโอ้อวด หยิ่งยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อกตัญญู ไม่บริสุทธิ์ 3 ไม่มีความรัก ไม่ให้อภัย ชอบนินทาว่าร้าย ไม่มีการควบคุมตนเอง โหดร้าย ไม่รักความดี 4 ทรยศหักหลัง หุนหันพลันแล่น ถือดี รักสนุกมากกว่ารักพระเจ้า 5 ยึดถือทางพระเจ้าเพียงเปลือกนอกแต่กลับปฏิเสธฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า อย่าไปคบคนแบบนี้
6 พวกเขาคืบคลานไปตามบ้านต่างๆ จูงจมูกหญิงเบาปัญญาผู้บาปหนาซึ่งโอนเอนไปกับสารพัดตัณหาชั่ว 7 หญิงเหล่านี้ใฝ่เรียนแต่ไม่สามารถรู้ถึงความจริงได้เลย 8 เช่นเดียวกับที่ยันเนสกับยัมเบรส์ต่อต้านโมเสส คนเหล่านี้ก็ต่อต้านความจริง พวกเขาเป็นคนใจทราม ความเชื่อของเขาก็ไม่เป็นที่ยอมรับ 9 แต่เขาจะไปได้ไม่ไกลเพราะความโง่เขลาของคนเหล่านี้จะปรากฏชัดแก่ทุกๆ คนเหมือนในกรณีของสองคนนั้น
เปาโลกำชับทิโมธี
10 แต่ท่านรู้ถึงคำสอนทั้งปวงของข้าพเจ้า วิถีชีวิตของข้าพเจ้า เป้าหมายของข้าพเจ้า ความเชื่อ ความอดทน ความรัก ความเด็ดเดี่ยวมั่นคง 11 การกดขี่ข่มเหง ความทุกข์ยาก ท่านรู้ถึงการถูกข่มเหงนานาประการที่เกิดกับข้าพเจ้าในเมืองอันทิโอก เมืองอิโคนียูม และเมืองลิสตรา ถึงกระนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ 12 อันที่จริงบรรดาผู้ที่ปรารถนาจะดำเนินชีวิตตามทางพระเจ้าในพระเยซูคริสต์จะถูกข่มเหง 13 ขณะที่คนชั่วและคนหลอกลวงจะเสื่อมทรามลง ทั้งล่อลวงคนอื่นและถูกคนอื่นล่อลวง 14 แต่ส่วนท่านจงดำเนินต่อไปในสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้และได้เชื่อมั่น เพราะท่านรู้จักคนเหล่านั้นที่ท่านเรียนรู้จากเขา 15 และรู้ว่าตั้งแต่เด็กมาแล้ว ท่านก็ได้รู้พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสามารถทำให้ท่านมีปัญญาที่จะมาถึงความรอดได้โดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์ 16 พระคัมภีร์ทุกตอน[a]ได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสั่งสอน การว่ากล่าวตักเตือน การแก้ไขข้อบกพร่อง และการฝึกฝนในความชอบธรรม 17 เพื่อเตรียมคนของพระเจ้าให้พรักพร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง
Footnotes
- 3:16 หรือพระคัมภีร์ทั้งหมด
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.