พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลน(A)

50 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์เกี่ยวกับบาบิโลนและดินแดนของชาวบาบิโลน[a]ความว่า

“จงป่าวร้องและประกาศในหมู่ประชาชาติ
จงชูธงขึ้นประกาศออกไป
อย่าปิดบังเลย แต่จงกล่าวว่า
‘บาบิโลนจะถูกยึด
เบลจะอับอายขายหน้า
มาร์ดุคจะหวาดหวั่นขวัญผวา
เทวรูปของบาบิโลนจะอัปยศอดสู
และอกสั่นขวัญแขวน’
ชนชาติหนึ่งจากทางเหนือจะมาโจมตีบาบิโลน
ทำให้ดินแดนนั้นถูกทิ้งร้าง
ไม่มีใครอาศัยอยู่
ทั้งคนและสัตว์จะหนีเตลิดไปหมด”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า
“ในเวลานั้น ชนอิสราเอลและยูดาห์
จะร่วมกันแสวงหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเขาด้วยน้ำตานองหน้า
พวกเขาจะถามทาง
และมุ่งหน้ามายังศิโยน
พวกเขาจะเข้ามาผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า
โดยพันธสัญญานิรันดร์
ซึ่งจะไม่ถูกลืมเลือน

“ประชากรของเราเป็นแกะหลงทาง
คนเลี้ยงของพวกเขาได้พาพวกเขาให้หลงเตลิดไป
และเป็นเหตุให้พวกเขาร่อนเร่อยู่บนภูเขา
พวกเขาซัดเซพเนจรไปเหนือภูเขาและเนินเขา
และลืมถิ่นที่พำนักของตน
ผู้ใดพบพวกเขาก็ขย้ำกิน
ศัตรูของพวกเขากล่าวว่า ‘เราไม่ผิด
เพราะพวกเขาทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นทุ่งหญ้าที่แท้จริงของพวกเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นความหวังของบรรพบุรุษของพวกเขา’

“จงหนีจากบาบิโลน
จงออกจากดินแดนของชาวบาบิโลนเถิด
และจงเป็นเหมือนแพะนำฝูง
เพราะเราจะเร่งเร้ากองทัพพันธมิตรของชนชาติใหญ่ๆ จากทางเหนือ
มาสู้รบกับบาบิโลน
พวกเขาจะเข้าประจำที่ต่อสู้กับมัน
บาบิโลนจะถูกยึดโดยคนจากทางเหนือ
ลูกศรของพวกเขาเหมือนนักรบชำนาญศึก
ออกรบคราใดไม่เคยกลับไปมือเปล่า
10 ดังนั้นบาบิโลนจะถูกปล้น
และโจรทุกคนได้ของมากมาย”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

11 “เพราะเจ้าผู้ปล้นกรรมสิทธิ์ของเรา
กระหยิ่มลิงโลด
เพราะเจ้าร่าเริงอย่างวัวสาวย่ำนวดเมล็ดข้าว
และส่งเสียงร้องอย่างม้าตัวผู้
12 มารดาของเจ้าจะอับอายขายหน้ายิ่งนัก
ผู้ให้กำเนิดเจ้าจะอัปยศอดสู
กลายเป็นผู้ต่ำต้อยที่สุดในหมู่ประชาชาติ
เป็นถิ่นกันดาร เป็นทะเลทรายอันแห้งผาก
13 เนื่องด้วยพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า
บาบิโลนจะกลายเป็นถิ่นร้างไม่มีคนอยู่อาศัย
ทุกคนที่ผ่านไปมาจะตะลึงและเย้ยหยัน
เนื่องจากบาดแผลทั้งหมดของมัน

14 “พวกเจ้าผู้โก่งธนู
จงเข้าประจำที่ล้อมรอบบาบิโลน
ระดมยิงมัน! ไม่ต้องออมลูกศร
เพราะมันได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
15 จงโห่ร้องเข้าใส่บาบิโลนทุกด้าน!
มันยอมแพ้ หอคอยต่างๆ พังทลาย
กำแพงพังลง
เพราะนี่เป็นการแก้แค้นขององค์พระผู้เป็นเจ้า
จงแก้แค้นบาบิโลน
จงทำกับบาบิโลนเหมือนที่มันเคยทำแก่ชาติอื่นๆ
16 จงตัดผู้หว่าน
และผู้เก็บเกี่ยวซึ่งถือเคียวออกจากบาบิโลน
ให้ทุกคนกลับไปหาพี่น้องร่วมชาติของตน
ให้ทุกคนหนีไปยังบ้านเกิดเมืองนอน
เพราะดาบของผู้กดขี่ข่มเหง

17 “อิสราเอลเป็นฝูงแกะที่กระจัดกระจาย
ซึ่งสิงโตได้ไล่หนีกระเจิง
รายแรกที่ขย้ำเขา
คือกษัตริย์อัสซีเรีย
ล่าสุดผู้ที่บดขยี้กระดูกของเขา
คือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน”

18 ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า

“เราจะลงโทษกษัตริย์บาบิโลนและดินแดนของเขา
เหมือนที่เราได้ลงโทษกษัตริย์อัสซีเรีย
19 ส่วนอิสราเอล เราจะนำพวกเขากลับคืนสู่ทุ่งหญ้าของเขาเอง
พวกเขาจะกินหญ้าบนภูเขาคารเมลและบาชาน
พวกเขาจะอิ่มเอม
บนภูเขาเอฟราอิมและในกิเลอาด”
20 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า
“ในครั้งนั้น
จะมีการเสาะหาความผิดของอิสราเอล
แต่ไม่พบเลย
และจะมีการเสาะหาบาปทั้งหลายของยูดาห์
แต่ไม่พบเลย
เพราะเราจะอภัยโทษชนหยิบมือที่เหลือซึ่งเราไว้ชีวิต

21 “จงโจมตีดินแดนเมราธาอิม
และผู้คนในเปโขด
ตามล่า ฆ่าทิ้ง และทำลายล้าง[b]ให้หมด”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“จงทำทุกสิ่งตามที่เราสั่งไว้
22 มีเสียงโห่ร้องออกศึกในดินแดน
เสียงหายนะใหญ่หลวง!
23 ค้อนซึ่งทุบโลกทั้งโลก
ก็แหลกลาญป่นปี้
บาบิโลนถูกทิ้งร้างอย่างสิ้นเชิง
ในหมู่ประชาชาติ!
24 บาบิโลนเอ๋ย เราวางกับดักเจ้าไว้
และเจ้าก็ติดกับก่อนจะรู้ตัว
เจ้าถูกจับได้
เพราะเจ้าต่อสู้ขัดขืนองค์พระผู้เป็นเจ้า
25 องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเปิดคลังสรรพาวุธของพระองค์
และนำอาวุธแห่งพระพิโรธออกมา
เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดทรงมีพระราชกิจที่จะกระทำ
ในดินแดนของชาวบาบิโลน
26 จงยกกำลังต่อสู้บาบิโลนจากแดนไกล
จงทำลายยุ้งฉางของมันเสีย
จงกองมันไว้เหมือนกองเมล็ดข้าว
จงทำลายล้างมันอย่างสิ้นเชิง
และอย่าให้มีใครหลงเหลืออยู่
27 จงฆ่าวัวหนุ่มของมันให้หมด
ต้อนพวกมันไปโรงเชือด!
วิบัติแก่พวกเขา! เพราะถึงเวลาของพวกเขาแล้ว
เวลาที่พวกเขาจะถูกลงโทษ
28 จงฟังเสียงผู้ลี้ภัยและผู้อพยพจากบาบิโลน
ที่ป่าวร้องในศิโยน
ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราได้ทรงแก้แค้นอย่างไร
ทรงแก้แค้นให้พระวิหารของพระองค์อย่างไร

29 “จงเรียกพลธนูมาต่อสู้กับบาบิโลน
บรรดาผู้โก่งคันศร
จงมาตั้งค่ายล้อมบาบิโลนไว้
อย่าให้มีใครหนีรอดไปได้
จงตอบแทนมันให้สาสม
จงทำกับมันเหมือนที่มันเคยทำไว้
เพราะบาบิโลนได้ลบหลู่พระยาห์เวห์
องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
30 ฉะนั้นชายหนุ่มของบาบิโลนจะล้มลงกลางถนน
และทหารทุกคนจะถูกทำให้เงียบเสียงในวันนั้น”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
31 “ดูเถิด เราสู้กับเจ้า คนหยิ่งจองหองเอ๋ย”
องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น
“เพราะวันเวลาของเจ้านั้นได้มาถึงแล้ว
เวลาที่เจ้าจะถูกลงโทษ
32 คนหยิ่งจองหองจะสะดุดล้มลง
และจะไม่มีใครช่วยพยุงเขาขึ้นมา
เราจะจุดไฟในเมืองต่างๆ ของบาบิโลน
ไฟนี้จะเผาผลาญทุกคนที่อยู่รอบเมือง”

33 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า

“ชาวอิสราเอลถูกกดขี่ข่มเหง
และชาวยูดาห์ก็เช่นกัน
บรรดาคนที่จับเขาไปเป็นเชลยก็กุมตัวเขาไว้แน่น
ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาไป
34 แต่พระผู้ไถ่ของพวกเขานั้นเข้มแข็ง
พระนามของพระองค์คือ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
พระองค์จะทรงแก้คดีของเขาอย่างแข็งขัน
เพื่อจะทรงนำการพักสงบมาสู่ดินแดนของพวกเขา
และนำความวุ่นวายมายังชาวบาบิโลน”

35 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า
“ให้ดาบฟาดฟันชาวบาบิโลน
ฟาดฟันผู้คนในบาบิโลน
และให้ดาบฟาดฟันขุนนางและปราชญ์ของบาบิโลน!
36 ให้ดาบฟาดฟันผู้เผยพระวจนะเท็จ!
พวกเขาจะกลายเป็นคนโง่เขลา
ให้ดาบฟาดฟันนักรบ!
พวกเขาจะเต็มไปด้วยความอกสั่นขวัญแขวน
37 ให้ดาบฟาดฟันเหล่าม้าและรถม้าศึก
และฟาดฟันคนต่างชาติทั้งปวงในกองทัพของเขา!
พวกเขาจะกลายเป็นเหมือนผู้หญิง
ให้ดาบฟาดฟันทรัพย์สมบัติของบาบิโลน!
สิ่งเหล่านั้นจะถูกปล้นชิง
38 ให้ความแห้งแล้งมาเหนือ[c]ห้วงน้ำทั้งหลายของมัน!
พวกมันจะได้เหือดแห้ง
เพราะดินแดนนั้นเต็มไปด้วยรูปเคารพ
และผู้คนก็คลั่งไคล้ไปกับพระต่างๆ

39 “สัตว์ทะเลทรายและสุนัขจิ้งจอกจะอาศัยอยู่ที่นั่น
และนกเค้าแมวจะอยู่ที่นั่น
จะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่อีก
ตลอดทุกชั่วอายุ
40 ดังที่พระเจ้าได้ล้มล้างเมืองโสโดมและโกโมราห์
พร้อมทั้งเมืองใกล้เคียง”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“ดังนั้นจะไม่มีใครอยู่ที่นั่น
จะไม่มีผู้ใดตั้งถิ่นฐานในเมืองนั้น

41 “ดูเถิด กองทัพจะมาจากทางเหนือ
ชนชาติยิ่งใหญ่และกษัตริย์หลายองค์
กำลังถูกเร่งเร้าจากทุกมุมโลก
42 พวกเขามีทั้งธนูและหอก
โหดเหี้ยมและไร้ความเมตตา
เสียงควบม้าของพวกเขา
เหมือนเสียงทะเลคำราม
พวกเขายกกระบวนทัพมาเพื่อโจมตีเจ้า
ธิดาแห่งบาบิโลน[d]เอ๋ย
43 กษัตริย์บาบิโลนได้ยินรายงานข่าว
พระหัตถ์ก็หมดแรง
ความทุกข์ร้าวรานจู่โจมจับพระทัย
เจ็บปวดรวดร้าวดั่งผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก
44 เราจะขับไล่บาบิโลนออกจากดินแดน
ในชั่วพริบตา
ดุจสิงโตออกมาจากพงไพรแห่งจอร์แดนสู่ทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์
ใครคือผู้ที่เราเลือกสรรแต่งตั้งเพื่อการนี้?
ผู้ใดเสมอเหมือนเราและใครจะท้าทายเราได้?
คนเลี้ยงแกะหน้าไหนจะยืนต้านทานเราได้?”

45 ฉะนั้นจงฟังแผนการที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะจัดการกับบาบิโลน
สิ่งที่พระองค์ทรงดำริไว้สำหรับดินแดนของชาวบาบิโลน
ลูกอ่อนในฝูงจะถูกลากไป
พระองค์จะทรงทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขาจนหมดสิ้น เพราะตัวพวกเขาเอง
46 ทั่วโลกจะสั่นสะท้าน เมื่อได้ยินเสียงบาบิโลนล่มสลาย
เสียงร้องของชาวบาบิโลนจะดังก้องในหมู่ประชาชาติ

Footnotes

  1. 50:1 หรือชาวเคลเดียเช่นเดียวกับข้อ 8,25,35 และ 45
  2. 50:21 คำนี้ในภาษาฮีบรูหมายถึงสิ่งของหรือบุคคลที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วไม่อาจเรียกคืนได้ มักจะต้องทำลายให้หมดสิ้นไป เช่นเดียวกับข้อ 26
  3. 50:38 หรือให้ดาบฟาดฟัน
  4. 50:42 คือ ชาวบาบิโลน

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับบาบิโลน

50 นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์พูดต่อต้านบาบิโลนและต่อต้านแผ่นดินของชาวบาบิโลน พระองค์พูดผ่านมาทางเยเรมียาห์ว่า

“ให้ประกาศเรื่องนี้กับชนชาติต่างๆ
    รายงานให้พวกเขาได้ยิน
ยกธงขึ้นมาและรายงานให้พวกเขาได้ยิน
    อย่าซ่อนเรื่องนี้ไว้ บอกไปเลยว่าบาบิโลนถูกยึดแล้ว
    พระเบลได้รับความอับอายขายหน้า
    พระมาดุกก็หวาดกลัว
รูปเคารพต่างๆของบาบิโลนก็ได้รับความอับอายขายหน้า
    พวกรูปปั้นต่างๆของบาบิโลนก็หวาดกลัว
เพราะชนชาติหนึ่งจากทางเหนือได้ยกทัพมาบุกบาบิโลนแล้ว
    ชนชาตินั้นวางแผนจะทำให้แผ่นดินของเธอรกร้าง
และจะได้ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบาบิโลน
    ทั้งคนและสัตว์ก็หนีไปที่อื่นกันหมด”
พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นและเวลานั้น ลูกหลานของอิสราเอลจะมาที่นี่
    พวกเขาจะมาพร้อมกับลูกหลานของยูดาห์
พวกเขาจะมา และร้องไห้
    แล้วพวกเขาก็จะแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา
พวกเขาจะถามหาทางไปศิโยน
    โดยหันหน้าตรงไปทางนั้น
แต่พวกเขาจะมาและผูกมัดตัวเองกับพระยาห์เวห์
    ในข้อตกลงชั่วนิรันดร์ที่จะไม่มีวันถูกลืมเลย”

“คนของเรากลายเป็นแกะที่หลงทาง
    พวกคนเลี้ยงพวกมันทำให้มันระหกระเหินไป พวกผู้เลี้ยงแกะทำให้พวกมันกระจัดกระจายไปตามภูเขา
พวกมันเดินจากภูเขาไปถึงเนินเขา
    แล้วพวกมันก็ลืมทุ่งหญ้าอันเป็นที่พักพิงของพวกมัน
สัตว์อะไรที่เจอพวกมันเข้าก็กินพวกมัน
ศัตรูที่รังควานพวกมันก็พูดว่า
    ‘พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด’
อันที่จริงพวกเขาได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์
พระยาห์เวห์เป็นทุ่งหญ้าอันแท้จริงของพวกเขา
    พระยาห์เวห์เป็นความหวังของบรรพบุรุษของพวกเขา

หนีไปจากใจกลางเมืองบาบิโลนซะ
    หนีไปจากดินแดนของพวกบาบิโลน
    ออกไปแล้วทำตัวเป็นเหมือนแพะตัวผู้ที่เดินนำหน้าฝูง
เพราะเราจะปลุกเร้ากองทัพอันยิ่งใหญ่ของชนชาติต่างๆทางเหนือมารบกับบาบิโลน
    กองทัพเหล่านั้นจะยกขบวนมาบุกเธอ แล้วบาบิโลนจะถูกยึดที่นั่น
ลูกธนูของพวกเขาเป็นเหมือนนักรบที่เก่งกาจ
    พวกมันจะไม่กลับมามือเปล่า
10 ดังนั้นชาวบาบิโลนจะมีไว้สำหรับให้ปล้นสะดม
    ส่วนคนที่ปล้นเธอก็จะพออกพอใจ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

11 “บาบิโลน ถึงแม้พวกเจ้าจะเฉลิมฉลอง ถึงแม้เจ้าจะชื่นชมยินดี
    เพราะปล้นมรดกของเราไป
ถึงพวกเจ้าจะเต้นระบำเหมือนวัวกระทืบ
    และร้องเหมือนม้าหนุ่มที่แข็งแกร่ง
12 แม่ของเจ้าจะต้องอับอายอย่างมาก
    คนที่คลอดเจ้าออกมาจะต้องอัปยศอดสู
แน่ล่ะ หลังจากชนชาติต่างๆถอนตัวออกไปแล้ว
    ที่นี่ก็จะกลายเป็นป่ารกร้าง แผ่นดินแห้งแล้ง และเป็นทะเลทราย
13 พระยาห์เวห์โกรธ
    ก็เลยไม่มีใครมาอาศัยอยู่ที่นั่น
แต่เธอจะถูกทำลายล้างอย่างสิ้นซาก
    ทุกคนที่ผ่านมาทางบาบิโลนจะตกใจและจะผิวปากเย้ยหยันลอยฟกช้ำของเธอ

14 พวกเจ้าพลธนูเข้าประจำการล้อมรอบบาบิโลนไว้ทุกด้าน
    ยิงไปเลยไม่ต้องประหยัดลูกธนูเอาไว้
    เพราะเธอทำบาปต่อพระยาห์เวห์
15 ร้องตะโกนใส่เธอไปทุกด้าน
    เธอร้องขอความเมตตา
พวกเสาอันมั่นคงของเธอได้หักลงมา
    กำแพงของเธอถูกทำลายลงแล้ว
เพราะนี่เป็นการแก้แค้นของพระยาห์เวห์
    แก้แค้นเอากับเธอ
ให้ทำกับเธอเหมือนที่เธอได้ทำไว้กับคนอื่น
16 กำจัดคนเพาะปลูกและคนใช้เคียวเกี่ยวในช่วงเก็บเกี่ยวออกไปจากบาบิโลน
    ทุกคนจะหนีจากคมดาบของศัตรู
พวกเขาแต่ละคนจะหันหนีกลับไปหาคนของตัวเอง
    และพวกเขาแต่ละคนจะหนีกลับไปยังแผ่นดินของตัวเอง

17 อิสราเอลเป็นฝูงสัตว์ที่กระจัดกระจายไป
    พวกเขาถูกพวกสิงโตไล่กระเจิดกระเจิง
ตัวแรกที่กินอิสราเอลคือกษัตริย์อัสซีเรีย
    และตัวหลังที่กินกระดูกของเขาคือเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน
18 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูด
‘เรากำลังจะลงโทษกษัตริย์ของบาบิโลนและแผ่นดินของเขาเหมือนกับที่เราได้ลงโทษกษัตริย์ของอัสซีเรียไปแล้ว

19 เราจะนำอิสราเอลกลับมายังทุ่งหญ้าของเขา
แล้วเขาจะเล็มหญ้าบนภูเขาคารเมล และในบาชาน
    พวกเขาจะมีหญ้ากินเหลือเฟือ
    ตามแถบเนินเขาของเอฟราอิมและกิเลอาด’”
20 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นและเวลานั้น
    ผู้คนจะค้นหาความผิดบาปของอิสราเอลแต่ก็จะหาไม่พบ
และจะหาความบาปของยูดาห์แต่ก็จะหาไม่พบ
    เพราะเราจะยกโทษให้กับคนที่เราได้ไว้ชีวิต”

21 พระยาห์เวห์พูดว่า
“ให้บุกขึ้นไปทำลายแผ่นดินเมราธาอิมและชาวเมืองเปโขด
    ฆ่าพวกมันให้สิ้นซากอย่าให้เหลือ
    ให้ทำตามที่เราสั่งทุกอย่าง”

22 มีเสียงรบกึกก้อง
    และการทำลายล้างครั้งใหญ่ในแผ่นดิน
23 ค้อนของทั้งโลก
    ถูกตัดทิ้งและแตกหักไป
บาบิโลนกลายเป็นเมืองรกร้าง
    ท่ามกลางชนชาติอื่นๆ
24 บาบิโลน เราได้วางกับดักเจ้าไว้แล้วและเจ้าก็ติดกับ
    แถมเจ้ายังไม่รู้ตัวเสียอีก
เจ้าถูกค้นพบและถูกจับ
    เพราะเจ้าสู้รบกับพระยาห์เวห์
25 พระยาห์เวห์ได้เปิดคลังอาวุธแล้ว
    และพระองค์จะส่งอาวุธแห่งความเกรี้ยวกราดของพระองค์มา
เพราะนั่นคืองานขององค์เจ้าชีวิตพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    ในแผ่นดินของชาวบาบิโลน

26 เดินทางจากสุดแผ่นดินโลกไปที่บาบิโลนสิ
    เปิดยุ้งฉางของเธอเลย
กองเธอไว้เหมือนกองข้าว
    แล้วก็กำจัดเธอให้สิ้นซาก
อย่าให้มีส่วนไหนของเธอหลงเหลือเลย
27 ทำลายพวกวัวตัวผู้ของเธอให้หมด
    นำมันลงมาเพื่อฆ่า
เป็นช่วงเศร้าสำหรับพวกเขาเพราะวันของพวกเขามาถึงแล้ว
    เป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องถูกลงโทษ
28 มีเสียงของคนวิ่งหนีไป เป็นเสียงของพวกบาบิโลนผู้รอดชีวิต
    จะมีการประกาศในศิโยน
เรื่องการแก้แค้นของพระยาห์เวห์
    เป็นการแก้แค้นของพระองค์สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับวิหารของพระองค์

29 “รวบรวมพลธนูไปบาบิโลน
    รวบรวมทุกคนที่ยิงธนูเป็นตั้งค่ายล้อมเธอไว้
อย่าให้มีใครหนีรอดออกมาได้แม้แต่คนเดียว
    ตอบแทนเธอให้สาสมกับการกระทำของเธอ
ทำกับเธอให้สาสมกับที่เธอทำกับคนอื่น
    เพราะเธอได้กบฏต่อพระยาห์เวห์
    กบฏต่อผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
30 ดังนั้น คนที่เก่งกาจทั้งหมดของเธอจะต้องตายอยู่ที่ลานกลางเมืองของเธอนั่นเอง
    และนักรบทุกคนของเธอก็จะถูกฆ่าในวันนั้น”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

31 “เราจะเป็นศัตรูกับเจ้า ไอ้พวกกบฏ”
องค์เจ้าชีวิตพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่าอย่างนั้น
    “เพราะว่าวันของเจ้ามาถึงแล้ว
    เวลาที่เราจะลงโทษเจ้ามาถึงแล้ว
32 ไอ้พวกกบฏจะสะดุดล้มลง
    จะไม่มีใครยกมันขึ้นมาอีก
เราจะจุดไฟเผาเมืองต่างๆของมัน
    แล้วไฟก็จะเผาผลาญพวกนั้นทั้งหมดที่อยู่รอบๆมันด้วย”

33 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า
“ทั้งลูกหลานของอิสราเอลและลูกหลานของยูดาห์ถูกกดขี่
    และพวกที่จับกุมพวกเขาทั้งหมดก็กักขังพวกเขาไว้ พวกมันไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป
34 แต่พระผู้ไถ่ของเขานั้นแข็งแกร่งกว่า
    พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นคือชื่อของพระองค์
พระองค์จะสู้คดีให้พวกเขาอย่างแน่นอน
    พระองค์จะทำให้แผ่นดินบาบิโลนสั่นสะเทือน
และทำให้ชาวบาบิโลนกลัวจนตัวสั่น”

35 พระยาห์เวห์พูดว่า
“มีดาบมาทำลายชาวบาบิโลน
    มีดาบมาทำลายคนที่อาศัยอยู่ในบาบิโลน พวกเจ้านาย และพวกคนฉลาดของเธอ
36 มีดาบมาทำลายพวกหมอดู
    พวกมันจะกลายเป็นไอ้โง่
มีดาบมาทำลายคนแข็งแกร่งของเธอ
    แล้วพวกเขาจะท้อแท้หมดกำลังใจ
37 มีดาบมาทำลายม้าและรถม้าของเธอ
    รวมทั้งกลุ่มต่างๆที่อาศัยอยู่ในบาบิโลน
    แล้วพวกเขาก็จะขี้กลัวเหมือนพวกผู้หญิง
มีดาบมาทำลายคลังทรัพย์สมบัติของเธอ
    แล้วพวกมันก็จะโดนปล้นไป
38 มีดาบมาทำลายแหล่งน้ำต่างๆของเธอ
    แล้วพวกมันก็จะแห้งขอดไป
สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพราะ
    บาบิโลนเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยรูปเคารพ
    ดังนั้นพวกมันจะถูกทำให้เป็นบ้าไปด้วยความน่าสยดสยอง
39 ดังนั้น สัตว์ร้ายต่างๆและพวกหมาไนจะมาอาศัยอยู่ที่นั่น
    นกเค้าแมวก็จะมาอาศัยอยู่
บาบิโลนจะไม่มีคนมาอาศัยอยู่อีกแล้วตลอดไป
    จะไม่มีคนอยู่ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน”
40 พระยาห์เวห์พูดว่า
“บาบิโลนก็จะเหมือนกับเมืองโสโดมและโกโมราห์ตอนที่พระยาห์เวห์ทำลายพวกมันและประชาชนของมัน
    และจะไม่มีมนุษย์คนไหนอพยพเข้าไปอยู่ด้วย

41 ดูสิ ชนกลุ่มหนึ่งกำลังบุกมาจากทางเหนือ
    ชนชาติที่ยิ่งใหญ่ และกษัตริย์ทั้งหลายกำลังถูกปลุกระดมจากแดนไกลสุดขอบโลก
42 พวกเขาจะถือธนูและหอกมา
    พวกเขาโหดเหี้ยมไร้ความเมตตาปรานี
เสียงพวกเขาดังกึกก้องเหมือนทะเล
    เมื่อพวกเขาควบม้ามา
ลูกสาวของบาบิโลน
    พวกเขาตั้งแถวเตรียมรบกับเจ้าแล้ว
43 กษัตริย์ของบาบิโลนได้ยินข่าวว่าพวกนั้นบุกใกล้เข้ามา
    มือไม้ของเขาก็เลยอ่อนปวกเปียก
เขาเจ็บปวดเหมือนหญิงที่กำลังคลอดลูก

44 เราจะเขย่าขวัญเขาเหมือนสิงโตที่ออกมาจากป่าของแม่น้ำจอร์แดน และเข้าไปที่ทุ่งหญ้าที่เขียวเสมอ อยู่ๆเราก็จะขับไล่พวกเขาไปจากเธอ เราอยากแต่งตั้งใคร เราก็จะแต่งตั้งคนนั้นให้ครอบครองเธอ เพราะจะมีใครเหมือนเราบ้าง ใครจะแต่งตั้งเราหรือ จะมีผู้เลี้ยง[a] คนไหนกล้ามายืนขวางหน้าเราหรือ[b] 45 ดังนั้น พวกเจ้า ให้ฟังแผนการของพระยาห์เวห์ที่ได้วางไว้เพื่อทำลายบาบิโลน และเป็นแผนที่พระองค์วางไว้ต่อต้านดินแดนของชาวบาบิโลน แน่นอน พวกศัตรูจะลากพวกแกะรวมทั้งพวกลูกแกะทั้งหลาย แน่นอน พระยาห์เวห์จะทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขา 46 เมื่อมีรายงานว่าบาบิโลนโดนยึดแล้ว แผ่นดินก็สั่นสะท้าน และชนชาติต่างๆก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความขมขื่น”

Footnotes

  1. 50:44 ผู้เลี้ยง ในสมัยนั้นจะเปรียบเทียบกษัตริย์เหมือนผู้เลี้ยงแกะ
  2. 50:44 ข้อนี้เหมือนกับข้อ 49:19