31 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ในครั้งนั้น เราจะเป็นพระเจ้าของอิสราเอลทุกตระกูล และพวกเขาจะเป็นประชากรของเรา”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“ชนชาติที่รอดชีวิตจากคมดาบ
จะได้รับพระคุณในถิ่นกันดาร
เราจะมาเพื่อให้อิสราเอลได้พักสงบ”

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปรากฏแก่พวกเราในอดีต[a]และตรัสว่า

“เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์
เราได้โน้มนำเจ้าเข้ามาหาเราด้วยความรักความเอ็นดู
อิสราเอลพรหมจารีเอ๋ย เราจะสร้างเจ้าขึ้นมาอีก
และเจ้าจะได้รับการสร้างขึ้นใหม่
เจ้าจะหยิบรำมะนาขึ้นมาอีกครั้ง
และออกไปเต้นรำกับผู้ที่รื่นเริงยินดี
เจ้าจะทำไร่องุ่น
บนภูเขาของสะมาเรียอีกครั้ง
กสิกรจะเพาะปลูก
และชื่นชมกับพืชผลที่ได้
จะมีวันหนึ่งซึ่งยามรักษาการณ์ร้องบอก
บนภูเขาของเอฟราอิมว่า
‘มาเถิด ให้พวกเราขึ้นไปยังศิโยน
ไปเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา’ ”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“จงร้องเพลงรื่นเริงยินดีให้ยาโคบ
จงโห่ร้องให้กับผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมู่ประชาชาติ
จงร้องเพลงสรรเสริญให้ได้ยินทั่วกันว่า
‘ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยชนหยิบมือที่เหลือของอิสราเอล
ประชากรของพระองค์’
ดูเถิด เราจะนำพวกเขามาจากดินแดนทางเหนือ
และรวบรวมพวกเขามาจากสุดปลายแผ่นดินโลก
ในหมู่พวกเขามีคนตาบอดและคนง่อย
หญิงมีครรภ์และผู้หญิงที่กำลังจะคลอดลูก
ฝูงชนกลุ่มใหญ่จะกลับมา
พวกเขาจะร้องไห้มา
พวกเขาจะอธิษฐานขณะที่เรานำพวกเขากลับมา
เราจะนำพวกเขาเลียบธารน้ำ
มาตามทางราบเรียบซึ่งพวกเขาจะไม่สะดุดล้ม
เพราะเราเป็นบิดาของอิสราเอล
และเอฟราอิมเป็นลูกชายหัวปีของเรา

10 “ประชาชาติทั้งหลาย จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า
จงประกาศในดินแดนชายฝั่งทะเลอันไกลโพ้นว่า
‘พระองค์ผู้ทรงทำให้ชนอิสราเอลกระจัดกระจายจะทรงรวบรวมพวกเขากลับมา
และจะทรงดูแลพวกเขาเหมือนคนเลี้ยงแกะดูแลฝูงแกะของตน’
11 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงไถ่ยาโคบ
จะทรงไถ่พวกเขาออกจากมือของผู้ที่เข้มแข็งกว่าพวกเขา
12 พวกเขาจะมาและโห่ร้องยินดีบนภูเขาศิโยน
จะชื่นชมยินดีในสิ่งดีงามจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
ทั้งเมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมัน
ลูกอ่อนในฝูงแพะแกะและฝูงสัตว์
ใจของพวกเขาจะเป็นเหมือนสวนที่ได้รับน้ำชุ่มฉ่ำ
และพวกเขาจะไม่ต้องทุกข์โศกอีกต่อไป
13 หญิงสาวจะร่ายรำและยินดี
ผู้ชายทั้งหนุ่มและแก่ก็เช่นกัน
เราจะเปลี่ยนความโศกเศร้าของเขาให้กลายเป็นความยินดี
เราจะให้การปลอบประโลมและความชื่นชมยินดีแก่เขาแทนความทุกข์โศก
14 เราจะให้ปุโรหิตอิ่มเอมด้วยความอุดมสมบูรณ์
ประชากรของเราจะอิ่มด้วยความอุดมสมบูรณ์จากเรา”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

15 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“ได้ยินเสียงหนึ่งในรามาห์
เป็นเสียงคร่ำครวญสะอึกสะอื้น
ราเชลร่ำไห้ถึงลูกๆ ของนาง
และไม่ยอมรับคำปลอบโยนใดๆ
เพราะลูกๆ ของนางจากไปเสียแล้ว”

16 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“หยุดร้องไห้
หยุดหลั่งน้ำตาเสียเถิด
เพราะผลงานของเจ้าจะได้รับรางวัล”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“พวกเขาจะกลับมาจากแดนศัตรู
17 ดังนั้นอนาคตของเจ้ายังมีความหวัง”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“ลูกๆ ของเจ้าจะกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของตนอีก

18 “แน่ทีเดียว เราได้ยินเสียงเอฟราอิมโอดครวญว่า
‘พระองค์ทรงฝึกข้าพระองค์เหมือนฝึกลูกวัวที่ยังไม่เชื่อง
และข้าพระองค์ก็ถูกฝึกฝน
โปรดทรงช่วยให้ข้าพระองค์คืนสู่ปกติสุข แล้วข้าพระองค์จะหวนกลับมา
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์
19 เมื่อข้าพระองค์หลงทางไปแล้ว
ข้าพระองค์ก็สำนึกผิด
เมื่อข้าพระองค์เข้าใจแล้ว
ข้าพระองค์ก็ตีอกชกตัว
ข้าพระองค์อับอายและตกต่ำ
เพราะทนรับความอัปยศอดสูจากบาปที่ทำในวัยหนุ่ม’
20 เอฟราอิมเป็นลูกชายที่รัก
เป็นลูกคนโปรดของเราไม่ใช่หรือ?
แม้เราจะพูดตำหนิเขาเนืองๆ
แต่เราก็ยังคงคิดถึงเขา
ฉะนั้นจิตใจของเราอาลัยหาเขา
เราเอ็นดูสงสารเขายิ่งนัก”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

21 “จงตั้งป้ายริมทางขึ้น
ตั้งป้ายชี้ทางไว้
สังเกตทางหลวง
เส้นทางที่เจ้าดำเนินไป
อิสราเอลพรหมจารีเอ๋ย กลับมาเถิด
จงกลับมายังหัวเมืองต่างๆ ของเจ้า
22 ลูกสาวไม่ซื่อเอ๋ย
เจ้าจะเตร็ดเตร่ไปนานสักเท่าใด?
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสร้างสิ่งใหม่ในโลกคือ
ผู้หญิงคนหนึ่งจะโอบล้อม[b]ผู้ชายไว้”

23 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า “เมื่อเรานำพวกเขากลับมาจากการเป็นเชลย[c] ประชาชนในยูดาห์และหัวเมืองต่างๆ จะกลับมาพูดอย่างแต่ก่อนว่า ‘ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าอวยพรเจ้าเถิด ที่พำนักอันชอบธรรมเอ๋ย ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เอ๋ย’ 24 ผู้คนทั้งชาวนาและผู้ที่โยกย้ายไปกับฝูงสัตว์ของตนจะอาศัยอยู่ร่วมกันในยูดาห์และหัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ 25 เราจะให้คนอ่อนระโหยชุ่มชื่นขึ้นใหม่ และให้คนหมดแรงได้อิ่มเอม”

26 ถึงตอนนี้ข้าพเจ้าก็ตื่นขึ้นมองไปรอบๆ การนอนหลับครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้าชื่นใจ

27 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เวลานั้นจะมาถึง เมื่อเราจะสร้างพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์ โดยให้ทั้งมนุษย์และสัตว์มีลูกหลานมากมาย 28 เช่นเดียวกับที่เราจับตาดูพวกเขาเพื่อถอนรากถอนโคนและรื้อโค่น คว่ำทลาย ล้างผลาญและนำภัยพิบัติมา เราก็จะจับตาดูเขาเพื่อปลูกและสร้างขึ้น” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 29 “เมื่อถึงเวลานั้นผู้คนจะเลิกพูดว่า

“ ‘พ่อกินองุ่นเปรี้ยว
ลูกๆ ก็เข็ดฟัน’

30 เพราะแต่ละคนจะตายเพราะบาปของตนเอง ใครกินองุ่นเปรี้ยว คนนั้นก็เข็ดฟัน”

31 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เวลานั้นจะมาถึง
เมื่อเราจะทำพันธสัญญาใหม่
กับพงศ์พันธุ์อิสราเอล
และกับพงศ์พันธุ์ยูดาห์
32 เป็นพันธสัญญาซึ่งไม่เหมือนพันธสัญญา
ที่เราได้ทำไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา
เมื่อเราจูงมือพวกเขา
นำออกมาจากดินแดนอียิปต์
เพราะพวกเขาละเมิดพันธสัญญาที่ทำไว้กับเรา
ทั้งๆ ที่เราเป็นเจ้านายของ[d]พวกเขา[e]
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
33 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “นี่คือพันธสัญญาที่เราจะทำกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล
หลังจากสมัยนั้น
คือเราจะใส่บทบัญญัติของเราในจิตใจของพวกเขา
จารึกบนหัวใจของพวกเขา
เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา
และพวกเขาจะเป็นประชากรของเรา
34 ผู้คนจะไม่สอนเพื่อนบ้าน
หรือสอนพี่น้องของตนอีกต่อไปว่า ‘จงรู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า’
เพราะพวกเขาทุกคนจะรู้จักเรา
ตั้งแต่ผู้น้อยที่สุดไปจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“เพราะเราจะอภัยความชั่วร้ายของเขา
และจะไม่จดจำบาปทั้งหลายของเขาอีกต่อไป”

35 องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงตั้งดวงอาทิตย์

ให้ส่องแสงยามกลางวัน
ผู้ทรงบัญชาดวงจันทร์และดวงดาว
ให้ส่องแสงยามกลางคืน
ผู้ทรงกวนทะเล
จนคลื่นคำรามกึกก้อง
ทรงพระนามว่า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
36 องค์พระผู้เป็นเจ้า ประกาศว่า
“ตราบใดที่กฎเกณฑ์ธรรมชาติเหล่านี้ยังไม่ลับหายไปต่อหน้าเรา
ตราบนั้นวงศ์วานอิสราเอล
จะยังคงเป็นประชาชาติหนึ่งต่อหน้าเราเสมอ”

37 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“ต่อเมื่อฟ้าสวรรค์เบื้องบนหยั่งถึงได้
และฐานรากของโลกเบื้องล่างถูกค้นพบ
เราจึงจะละทิ้งวงศ์วานอิสราเอล
เพราะทุกสิ่งที่พวกเขาได้ทำ”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

38 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “วันเวลาจะมาถึง เมื่อกรุงนี้จะได้รับการสร้างขึ้นใหม่เพื่อเรา ตั้งแต่หอคอยฮานันเอลถึงประตูมุม 39 สายวัดจะขึงตรงจากที่นั่นจดเนินเขากาเรบ แล้วเลี้ยวไปยังโกอาห์ 40 ทั่วทั้งหุบเขาซึ่งเป็นที่ทิ้งซากศพและเถ้าถ่าน ตลอดจนลาดเขาต่างๆ สู่หุบเขาขิดโรนทางฟากตะวันออก ไปจนถึงมุมประตูม้าจะบริสุทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า กรุงนี้จะไม่ถูกถอนรากถอนโคนหรือล้มล้างอีกต่อไป”

Notas al pie

  1. 31:3 หรือองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงปรากฏแก่พวกเราจากที่ไกล
  2. 31:22 หรือจะเที่ยวเสาะหาหรือจะปกป้อง
  3. 31:23 หรือเมื่อเราให้เขากลับสู่สภาพดีดังเดิม
  4. 31:32 ฉบับ LXX. และ Syr. ว่าและเราได้หันไปจาก
  5. 31:32 ภาษาฮีบรูว่าสามีของพวกเขา

อิสราเอลใหม่

31 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในเวลานั้น เราจะเป็นพระเจ้าของอิสราเอลทุกตระกูล และพวกเขาก็จะเป็นคนของเรา”

พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้
“คนที่รอดชีวิตจากคมดาบจะได้รับเกียรติในทะเลทราย
    อิสราเอลแสวงหาที่หยุดพัก”
พระยาห์เวห์ปรากฏให้เขาเห็นจากที่ไกลๆ

พระองค์พูดว่า “เรารักเจ้าแล้วด้วยความรักที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย
    ดังนั้น เราถึงยังแสดงความรักความเมตตากับเจ้าอยู่
เราจะสร้างเจ้าขึ้นใหม่ เจ้าจะได้ถูกสร้างขึ้นอีกครั้ง
    อิสราเอล หญิงสาวบริสุทธิ์เอ๋ย
เจ้าจะยกกลองรำมะนาขึ้นอีกครั้ง
    แล้วเจ้าก็จะออกไปเต้นรำกับคนที่เฉลิมฉลองกัน
เจ้าจะปลูกพวกสวนองุ่นบนภูเขาสะมาเรียอีกครั้ง
    และคนที่ปลูกก็จะมีความสุขจากผลของมัน
เพราะจะมีวันหนึ่งที่คนเฝ้ายามร้องตะโกนก้องจากภูเขาเอฟราอิมว่า
    ‘ลุกขึ้นเร็ว ขึ้นไปหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราที่ศิโยนกันเถอะ’”

ใช่แล้ว พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
“มาร้องเพลงเฉลิมฉลองให้ยาโคบกัน
    และมาชื่นชมยินดีกับผู้นำของชนชาติต่างๆ
ตะโกนก้อง สรรเสริญ และร้องว่า
    พระยาห์เวห์ได้ช่วยกู้คนของพระองค์แล้ว
    คือคนอิสราเอลที่หลงเหลืออยู่
เราจะนำพวกเขามาจากแผ่นดินทางเหนือ
    และจะรวบรวมพวกเขามาจากสุดปลายโลก
ในพวกของเขาจะมีคนเหล่านี้รวมอยู่ด้วยคือ คนตาบอด คนง่อย
    ผู้หญิงท้อง และผู้หญิงที่กำลังจะคลอดลูก
    พวกเขาจะกลับมาเป็นชนกลุ่มใหญ่
ขณะที่พวกเขากลับมา พวกเขาก็ร้องไห้กัน
    และเราจะปลอบประโลมพวกเขาตอนที่นำพวกเขากลับมา
ในขณะที่พวกเขากำลังอธิษฐานขอให้เราเมตตาปรานี
เราจะทำให้เขาเดินอยู่ริมๆแม่น้ำบนถนนตรง
    ที่พวกเขาจะไม่สะดุดล้ม
เพราะเราจะเป็นพ่อของคนอิสราเอล
    และเอฟราอิมจะเป็นลูกชายหัวปีของเรา

10 ชนชาติทั้งหลาย ให้ฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์
    และให้ประกาศไปถึงดินแดนชายฝั่งที่ห่างไกล
ให้ประกาศว่า ‘พระองค์ผู้ที่ทำให้อิสราเอลกระจัดกระจายไปจะรวบรวมพวกเขา
    และดูแลพวกเขาเหมือนผู้เลี้ยงแกะที่เฝ้าระวังฝูงแกะของตัวเอง’
11 เพราะพระยาห์เวห์ได้จ่ายหนี้แทนยาโคบแล้ว
    และได้ช่วยไถ่เขาให้พ้นเงื้อมมือคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา
12 พวกอิสราเอลจะกลับมาร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานบนที่สูงศิโยน
    และพวกเขาจะส่องสว่างไสว
เพราะความใจดีของพระยาห์เวห์ ส่องสว่างเหนือข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันมะกอก
    และส่องสว่างเหนือพวกลูกแกะและฝูงวัวด้วย
ชีวิตของพวกเขาจะเป็นเหมือนสวนที่มีน้ำผันเข้ามารด
    และพวกเขาจะไม่เป็นลมอีก
13 ในเวลานั้นพวกหญิงสาวจะเต้นรำฉลอง
    กับคนหนุ่มและคนแก่
เราจะเปลี่ยนเสียงร้องไห้ของเขาเป็นเสียงร้องเพลง
    เราจะปลอบโยนพวกเขาให้สุขสบาย
    และเราจะทำให้พวกเขาเฉลิมฉลองกันแทนที่จะร้องไห้กัน
14 เราจะให้พวกนักบวชดื่มจนเหลือเฟือ
    และคนของเราจะพอใจกับข้าวของที่เราให้”
พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น

15 พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้
“มีเสียงดังมาจากรามาห์
    เป็นเสียงร้องไห้และคร่ำครวญอย่างขมขื่น
ราเชลกำลังร้องไห้ให้พวกลูกชายของเธอ
    เธอไม่ยอมให้ใครมาปลอบโยนเรื่องลูกของเธอเลย
    เพราะว่าลูกของเธอหายไปหมดแล้ว”

16 พระยาห์เวห์พูดว่า
“หยุดร้องไห้เถิด
    และหยุดเสียน้ำตาได้แล้ว
เพราะเจ้าจะได้รับรางวัลชดเชยให้กับความพยายามของเจ้า”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
    “และพวกลูกเจ้าจะกลับมาจากแผ่นดินของศัตรู
17 แล้วเจ้าก็จะมีความหวังให้กับอนาคตของเจ้า”
พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น
    “และลูกๆก็จะกลับเข้ามาในเขตแดนของพวกเขาเอง
18 เราได้ยินเสียงร้องไห้ของเอฟราอิมจริงๆ
เขาพูดว่า ‘พระองค์ตีสอนข้าพเจ้า
    และข้าพเจ้าก็ถูกตีสอนเหมือนลูกวัวที่ยังไม่เชื่อง
นำข้าพเจ้ากลับมาเถิดเพื่อข้าพเจ้าจะได้กลับมา
    เพราะพระองค์ พระยาห์เวห์ คือพระเจ้าของข้าพเจ้า
19 เพราะหลังจากที่ข้าพเจ้าหันไปจากพระองค์ ข้าพเจ้าก็สำนึกผิด
    และเมื่อข้าพเจ้าได้รับการสอน ข้าพเจ้าก็ตบต้นขาตัวเองด้วยความละอาย
ข้าพเจ้าละอายและอัปยศอดสู
    เพราะข้าพเจ้าได้แบกสิ่งที่ผิดๆที่น่าละอายที่ข้าพเจ้าได้ทำไปตอนเป็นเด็ก’”

20 พระเจ้าพูดว่า
“เอฟราอิมไม่ใช่ลูกที่รักของเราหรือ
    เขาไม่ใช่ลูกชายคนโปรดของเราหรือ
ถึงเราจะด่าว่าเขาไว้มาก
    แต่เราก็ยังคิดถึงเขาได้เสมอ
ส่วนลึกในเรานั้นมีแต่ความอบอุ่นให้เขา
    เราเมตตาเอ็นดูเขามากจริงๆ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

21 “สร้างเสาป้ายบอกทางให้กับตัวเจ้าเอง
    สร้างป้ายบอกทางให้กับตัวเจ้าเอง
เอาใจจดจ่ออยู่กับทางหลวง
    จดจ่ออยู่กับทางที่เจ้าเดิน
อิสราเอลที่รัก กลับมาเถิด
    กลับมายังเมืองพวกนี้ของเจ้าเถอะ
22 เจ้าเป็นผู้หญิงที่นอกใจสามี
    เราจะต้องรออีกนานแค่ไหน กว่าเจ้าจะกลับมา
แต่เรา ยาห์เวห์ จะทำให้เรื่องแปลกใหม่เกิดขึ้น
    คือผู้หญิงจะเริ่มจีบผู้ชายก่อน”[a]

ยูดาห์จะกลับมารุ่งเรืองอีก

23 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าของอิสราเอลพูดว่า “เมื่อเราพลิกสถานการณ์ให้กับเมืองต่างๆของยูดาห์ พวกเขาจะพูดกันในแผ่นดินและบ้านเมืองของยูดาห์อีกครั้งว่า ‘ขอให้พระยาห์เวห์อวยพรพวกคุณเถิด ทุ่งหญ้าอันชอบธรรม และภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์’”

24 “ผู้คนจะอยู่อาศัยกันที่ยูดาห์และทุกเมืองของมัน จะมีชาวนา และพวกที่เร่ร่อนไปกับฝูงสัตว์อาศัยอยู่ 25 เพราะเราจะทำให้จิตใจที่อ่อนล้ากระปรี้กระเปร่า และเราจะทำให้จิตใจที่อ่อนแอทั้งหลายเข้มแข็ง”

26 ขณะนั้นเองผมก็ตื่นขึ้น และมองไปรอบๆ ผมนอนหลับสบายเหลือเกิน

27 พระยาห์เวห์พูดว่า “วันนั้นใกล้จะมาถึงแล้ว เมื่อเราจะปลูกคนและสัตว์ในเมืองอิสราเอลและยูดาห์ขึ้นใหม่” 28 พระยาห์เวห์พูดว่า “แต่ก่อน เราได้เฝ้าดูอิสราเอลและยูดาห์ เพื่อที่จะถอนรากถอนโคนพวกเขา ดึงพวกเขาลง คว่ำพวกเขาลง และทำลายพวกเขา รวมทั้งทำให้พวกเขาได้รับความทุกข์ทรมาน แต่ตอนนี้ เราจะเฝ้าดูพวกเขาเพื่อที่จะสร้างพวกเขา และปลูกพวกเขาขึ้นใหม่”

29 “ในวันเหล่านั้น ผู้คนจะไม่พูดอย่างนี้อีกแล้ว ที่ว่า

‘พวกพ่อกินองุ่นเปรี้ยว
    แต่กลับเป็นพวกลูกที่เข็ดฟัน’[b]

30 แต่ต่อไปนี้ ต่างคนต่างต้องตายเพราะความผิดบาปของตัวเอง คนไหนกินองุ่นเปรี้ยว คนนั้นก็ต้องเข็ดฟันเอง”

ข้อตกลงใหม่

31 พระยาห์เวห์พูดว่า “วันนั้นจวนจะมาถึงแล้ว เมื่อเราจะทำข้อตกลงใหม่กับครอบครัวของอิสราเอลและครอบครัวของยูดาห์

32 ข้อตกลงนี้จะไม่เหมือนกับข้อตกลงที่เราเคยทำไว้กับบรรพบุรุษของเจ้าในวันที่เราจูงมือพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ มันจะไม่เหมือนกับข้อตกลงของเราที่พวกเขาไม่ได้รักษา ทั้งๆที่เราเป็นสามีของพวกเขา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

33 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในอนาคต ข้อตกลงที่เราจะทำกับครอบครัวของอิสราเอลก็จะเป็นแบบนี้ คือเราจะใส่กฎของเราเข้าไปในตัวพวกเขา และเราจะเขียนไว้ในใจของพวกเขา เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาก็จะเป็นคนของเรา 34 พวกเพื่อนๆและญาติพี่น้องก็จะไม่ต้องสอนกันอีกแล้ว ว่าให้รู้จักพระยาห์เวห์ เพราะพวกเขาทุกคนตั้งแต่คนเล็กที่สุดไปถึงคนใหญ่ที่สุดก็จะรู้จักเรา เราจะยกโทษให้กับความผิดบาปของพวกเขาและจะไม่จดจำบาปของพวกเขาอีกต่อไป” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

พระยาห์เวห์จะไม่มีวันทอดทิ้งอิสราเอล

35 พระยาห์เวห์พูดว่า
“ผู้ที่สั่งดวงอาทิตย์ให้ส่องสว่างในเวลากลางวัน
    ผู้ที่สั่งดวงจันทร์และดวงดาวให้ส่องสว่างในเวลากลางคืน
ผู้ที่ทำให้ทะเลปั่นป่วนจนเกิดคลื่นเสียงดัง
    พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นคือชื่อของพระองค์ผู้นั้น”
36 พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า
“ถึงแม้คำสั่งต่างๆเหล่านี้จะหายไปจากสายตาเรา
    เชื้อสายของอิสราเอลก็ยังจะเป็นชนชาติหนึ่งต่อหน้าเราตลอดไป”
37 พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
“ถ้ามีใครสามารถวัดท้องฟ้าเบื้องบนได้
    และสามารถสำรวจรากฐานใต้โลกได้
เมื่อนั้นเราก็จะปฏิเสธเชื้อสายของอิสราเอลสำหรับทุกอย่างที่เขาได้ทำลงไป”

เยรูซาเล็มใหม่

38 พระยาห์เวห์พูดว่า “วันเหล่านั้นใกล้มาถึงแล้ว คือวันที่เมืองทั้งเมืองตั้งแต่หอคอยฮานันเอลไปจนถึงประตูมุม จะถูกสร้างขึ้นใหม่เพื่อพระยาห์เวห์

39 และเส้นวัดเขตแดนก็จะขยายออกไปไกลถึงภูเขากาเรบและเลี้ยวไปจนถึงโกอาห์อีกครั้งหนึ่ง 40 และหุบเขาทั้งหุบเขา ที่ตอนนี้มีแต่ซากศพและเถ้ากระดูก และท้องทุ่งที่เป็นขั้นบันไดลดหลั่นลงไปไกลถึงลำธารแห้งขิดโรน และไกลไปถึงมุมประตูม้าทางตะวันออก ดินแดนทั้งหมดนี้จะถูกแยกไว้สำหรับพระยาห์เวห์โดยเฉพาะ มันจะไม่มีวันถูกถอนรากถอนโคน และไม่มีวันถูกรื้อถอน”

Notas al pie

  1. 31:22 ผู้หญิงจะเริ่มจีบผู้ชายก่อน ประโยคนี้อาจจะหมายความว่าอิสราเอลจะเปลี่ยนจากนิสัยที่ชอบปฎิเสธความรักของพระเจ้า แล้วจะอยากอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์
  2. 31:29 พวกพ่อกิน … พวกลูกที่เข็ดฟัน หมายถึง พวกลูกๆต้องมารับกรรมที่พวกพ่อๆก่อไว้