Add parallel Print Page Options

“ถ้าผู้ชายหย่ากับภรรยาของเขา แล้วเธอก็ไปจากเขาและไปแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่
    หญิงคนนั้นจะกลับมาหาสามีคนแรกของเธอได้อีกหรือ
การทำแบบนั้นจะไม่ทำให้แผ่นดินแปดเปื้อนไปหมดหรือ[a]
    แต่ยูดาห์ เจ้าได้สำส่อนกับคู่นอนคนนั้นคนนี้เต็มไปหมด แล้วยังจะมีหน้ากลับมาหาเราอีกหรือ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
“เบิกตาดูเนินเขาโล่งเตียนพวกนั้นสิ
    แล้วลองหาดูสิว่ามีที่ไหนบ้างที่เจ้าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
เจ้านั่งรอพวกนั้นอยู่ข้างทาง
    เหมือนพวกอาหรับในทะเลทราย
    เจ้าทำให้แผ่นดินแปดเปื้อนไปด้วยการสำส่อนทางเพศและความชั่วช้าของเจ้า
ดังนั้นฝนที่ตกชุกก็เลยถูกยับยั้งไป
    และไม่มีฝนในฤดูใบไม้ผลิ
เจ้ามีหน้าผากของผู้หญิงที่สำส่อน
    เจ้ามันไม่มียางอาย
เมื่อตะกี้นี้ เจ้าเพิ่งจะร้องหาเราว่า ‘พระบิดาของฉัน
    พระองค์เป็นเพื่อนกับฉันมาตั้งแต่สาวๆ’
เจ้าพูดว่า ‘พระองค์จะไม่โกรธฉันตลอดไปหรอก
    พระองค์จะไม่โกรธไปตลอดกาลหรอก’
เจ้าพูดอย่างนี้
    แต่เจ้าก็ทำชั่วมากเท่าที่จะมากได้”

อิสราเอลกับยูดาห์ พี่น้องที่ชั่วช้า

ต่อมา พระยาห์เวห์พูดกับผม ในสมัยที่โยสิยาห์เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ พระองค์พูดว่า “เจ้าเห็นสิ่งที่อิสราเอลผู้ไม่สัตย์ซื่อทำไหม นางจะขึ้นไปบนเนินเขาสูงทุกลูกและใต้ต้นไม้เขียวขจีทุกต้น แล้วนางก็จะสำส่อนที่ตรงนั้น เราก็ได้พูดกับตัวเองว่า ‘หลังจากที่นางได้ทำเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว นางก็จะกลับมาหาเราเอง’ แต่นางก็ไม่ได้กลับมา แล้วยูดาห์น้องสาวจอมทรยศของนางก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ นางเห็นเรื่องสำส่อนทุกเรื่องที่อิสราเอลผู้ไม่สัตย์ซื่อได้ทำไป และเห็นว่าเราได้ขับไล่อิสราเอลไป และเราได้หย่ากับนาง แต่ยูดาห์น้องสาวจอมโกงของนางก็ไม่กลัว และนางก็ไปสำส่อนเหมือนกัน อันที่จริง นางเห็นว่าเรื่องสำส่อนของตัวเองนั้นเป็นเรื่องเล็กๆ ดังนั้นนางจึงทำให้แผ่นดินทั้งหมดต้องแปดเปื้อนไป โดยไปล่วงประเวณีกับก้อนหินและต้นไม้[b] 10 และถึงแม้จะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นมา ยูดาห์น้องสาวจอมทรยศของนาง ก็ไม่ได้กลับมาหาเรา ด้วยสิ้นสุดใจของนาง แต่แกล้งทำเท่านั้น” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

11 แล้วพระยาห์เวห์ก็บอกกับผมว่า “อิสราเอลผู้ไม่สัตย์ซื่อก็ยังดีกว่ายูดาห์จอมทรยศ 12 เยเรมียาห์ ให้ไปประกาศคำพูดของเราทางเหนือ พูดว่า

‘อิสราเอลผู้ไม่สัตย์ซื่อ กลับมาเถิด’
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
‘เราไม่หน้านิ่วคิ้วขมวดใส่พวกเจ้าอีกแล้ว
    เพราะเรามีเมตตา
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
เราไม่สามารถโกรธเจ้าได้ตลอดไปหรอก
13 ขอแค่เจ้ายอมรับว่าเจ้าทำบาป
    และยอมรับว่าเจ้าทรยศต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
และยอมรับว่าเจ้าได้ทุ่มตัวให้กับพระต่างชาติมากมายใต้ต้นไม้เขียวขจี
    และเจ้าไม่ได้ฟังเสียงของเรา’”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
14 “กลับมาเถอะ ลูกที่ทรยศต่อเรา”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
    “เพราะเราเป็นนายของเจ้า
เราจะเอาพวกเจ้ามาเมืองละคน ตระกูลละสองคน
    แล้วเราจะนำเจ้าไปที่ศิโยน

15 เราจะให้ผู้เลี้ยงกับเจ้า ที่เราจะเลือกมา และพวกเขาจะเลี้ยงดูเจ้าด้วยความรู้และความเข้าใจ 16 เจ้าจะมีจำนวนมากมาย และเจ้าจะเกิดลูกหลานมากมายบนแผ่นดินในวันนั้น” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ “เมื่อถึงตอนนั้นคนก็จะไม่พูดถึงหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์อีกต่อไป พวกเขาจะไม่คิดถึงมันหรือจดจำมันอีกต่อไป พวกเขาจะไม่คิดถึงมันและจะไม่ทำมันขึ้นมาใหม่อีก 17 ในเวลานั้น ผู้คนจะเรียกเยรูซาเล็มว่า ‘บัลลังก์ของพระยาห์เวห์’ ทุกๆชนชาติจะมารวมตัวกันในวิหารของพระยาห์เวห์ในเมืองเยรูซาเล็ม แล้วพวกเขาก็จะไม่ไปทำตามจิตใจที่ชั่วร้ายดื้อดึงของพวกเขาอีกต่อไป 18 ในวันนั้น ครอบครัวยูดาห์และครอบครัวอิสราเอลจะออกมาจากดินแดนทางเหนือพร้อมๆกัน และไปยังดินแดนที่เราได้มอบให้กับบรรพบุรุษของเจ้าเป็นมรดก

19 และเราได้พูดไว้ว่า
    ‘เราอยากจะทำกับเจ้าเหมือนกับลูกๆของเราเอง
เราจะให้ดินแดนที่น่าชื่นชมยินดีกับเจ้า
    ซึ่งเป็นมรดกที่มีค่าที่สุดในบรรดาชาติทั้งหลายทั้งปวง’
และเราได้พูดกับตัวเองว่าเจ้าจะเรียกเราว่า
    ‘พระบิดาของข้าพระองค์’
และเจ้าจะไม่หันหลังไปจากเรา
20 แต่ชุมชนอิสราเอล เจ้าได้ทรยศต่อเรา
    เหมือนกับภรรยาทรยศต่อคนรักของนาง”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
21 ฟังสิ เสียงมาจากบนเนินเขาโล่งเตียนเหล่านั้น
    มันเป็นเสียงของลูกๆของอิสราเอลที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญและอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
เพราะพวกเขาได้ทำทางของตัวเองให้คดไป
    พวกเขาได้ลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา

22 พระยาห์เวห์พูดว่า “กลับมาเถอะลูกๆที่ทรยศต่อเรา
    เราจะเยียวยารักษาการทรยศของเจ้าเอง”

ผู้คนก็พูดว่า “เราจะมาหาพระองค์
    เพราะพระองค์เป็นพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา
23 พวกเนินเขาต่างๆช่วยอะไรไม่ได้แน่นอน
    เสียงร้องอึกทึกบนภูเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ความรอดของอิสราเอลอยู่ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราอย่างแน่นอน
24 สิ่งที่น่าอับอายนั้นได้กลืนกินสิ่งที่บรรพบุรุษของเราหามาได้ด้วยการทุ่มเททำงานอย่างหนัก
    ตั้งแต่เรายังเป็นหนุ่มสาว
สิ่งเหล่านั้นก็คือฝูงแกะ ฝูงวัว และลูกชายลูกสาวของพวกเขา
25 ขอให้เรานอนลงในความอับอายของตัวเอง
    และปล่อยให้ความอับอายขายหน้าคลุมตัวเราไว้
เพราะว่าเราได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
    ทั้งเราและบรรพบุรุษของเรา
ตั้งแต่เรายังเป็นหนุ่มสาวจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
    เราไม่ได้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราเลย”

Footnotes

  1. 3:1 การทำแบบ … หมดหรือ การกระทำในข้อหนึ่งนี้ ขัดกับกฎของโมเสส ดูได้จากหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ 24:1-4
  2. 3:9 กับก้อนหินและต้นไม้ รูปเคารพส่วนใหญ่ก็ทำมาจากก้อนหินและไม้ เยเรมียาห์กำลังต่อว่าคนที่ไปกราบไหว้พวกพระเจ้าของคนต่างชาติ

พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้

“ถ้าชายผู้หนึ่งหย่าจากภรรยาของเขา
    เมื่อนางไปจากเขา และเป็นภรรยาของชายผู้อื่น
แล้วเขาจะกลับไปหานางอีกไหม
    แผ่นดินนั้นจะไม่หมองหรือ
เจ้าได้แสดงความเป็นหญิงแพศยาที่มีคนรักหลายคน
    แล้วเจ้าจะกลับมาหาเราอย่างนั้นหรือ
จงแหงนหน้าดูที่เนินเขาสูงสิ
    ที่ไหนบ้างที่เจ้าไม่ได้ไปหลับนอนกับใครมา
เจ้าได้นั่งคอยบรรดาคนรักที่ริมถนน
    อย่างกับชาวอาหรับในถิ่นทุรกันดาร
เจ้าได้ทำให้แผ่นดินหมอง
    ด้วยความแพศยาอันร้ายกาจของเจ้า
ฉะนั้น ฝนจึงถูกระงับไว้
    และฝนต้นฤดูจึงไม่ตก
แม้แต่หน้าผากของเจ้าก็บ่งบอกถึงการเป็นหญิงแพศยา
    เจ้ายังไม่รับว่าเป็นสิ่งที่น่าอับอาย
เจ้าเพิ่งร้องเรียกถึงเราในเวลานี้ว่า
    ‘พระบิดาของข้าพเจ้า พระองค์เป็นเพื่อนของข้าพเจ้าตั้งแต่เยาว์วัย
พระองค์จะโกรธตลอดไปหรือ
    พระองค์จะกริ้วไปตลอดกาลหรือ’
ดูเถิด เจ้าพูดอย่างนั้น
    แต่เจ้าได้กระทำสิ่งชั่วร้ายทั้งสิ้นเท่าที่เจ้าจะทำได้”

ความไม่ภักดีของอิสราเอลและยูดาห์

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าในสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์ดังนี้ว่า “เจ้าเห็นแล้วหรือยังว่า อิสราเอลผู้สิ้นความเชื่อได้ทำอะไรบ้าง นางขึ้นไปบนภูเขาสูงทุกลูกและใต้ต้นไม้อันเขียวชอุ่มทุกต้น และทำตัวเป็นหญิงแพศยาอยู่ที่นั่น และเราคิดว่า ‘หลังจากนางได้กระทำสิ่งเหล่านี้แล้ว นางจะกลับมาหาเรา’ แต่นางไม่กลับมา และยูดาห์พี่สาวผู้ไม่ภักดีของนางเห็นการกระทำ ยูดาห์เห็นว่า เราได้ไล่อิสราเอลไปพร้อมกับใบหย่า เพราะนางสิ้นความเชื่อและประพฤติผิดประเวณี ยูดาห์พี่สาวผู้ไม่ภักดีก็ยังไม่เกรงกลัว แต่กลับทำตัวเป็นหญิงแพศยาไปด้วย เพราะอิสราเอลคิดว่าความแพศยาของตนเป็นเรื่องเล็ก นางได้ทำให้แผ่นดินเป็นมลทิน ล่วงประเวณีด้วยการนมัสการหินและต้นไม้ 10 หลังจากนั้นแล้ว ยูดาห์พี่สาวผู้ไม่ภักดีของนางแสร้งกลับมาหาเรา แต่ก็ไม่ได้ทำด้วยใจจริง” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

11 และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลผู้สิ้นความเชื่อแสดงตนว่ามีความชอบธรรมมากกว่ายูดาห์ผู้ไม่ภักดี 12 จงไปประกาศแก่ทางทิศเหนือว่า

‘อิสราเอลผู้สิ้นความเชื่อจงกลับมา’” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้น
    “เราจะไม่ดูเจ้าด้วยความกริ้ว
เพราะเราเปี่ยมด้วยความเมตตา” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้น
    “เราจะไม่กริ้วเจ้าไปตลอดกาล
13 เจ้าจงเพียงยอมรับความผิดของเจ้าว่า
    เจ้าขัดขืนพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า
และเจ้าวิ่งตามเทพเจ้าต่างชาติ
    ที่ใต้ต้นไม้อันเขียวชอุ่มทุกต้น
    และเจ้าไม่ได้เชื่อฟังคำของเรา”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

14 “โอ ลูกๆ ที่สิ้นความเชื่อเอ๋ย จงกลับมา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เพราะเราเป็นนายของเจ้า เราจะเลือกเจ้ามาจากเมืองละ 1 คน และจากครอบครัวละ 2 คน และเราจะพาเจ้าไปยังศิโยน 15 และเราจะมอบบรรดาผู้เลี้ยงดูฝูงแกะที่เชื่อฟังเรา เขาจะสอนเจ้าให้มีความรู้และความเข้าใจ 16 และเมื่อเจ้าทวีจำนวนคนขึ้นในแผ่นดิน พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ในเวลานั้น พวกเขาจะไม่พูดว่า ‘หีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า’ อีกต่อไปแล้ว เจ้าจะไม่นึกถึง หรือจดจำ หรือคิดถึงอีก และจะไม่ถูกสร้างขึ้นอีก 17 ในเวลานั้น เยรูซาเล็มจะได้รับเรียกว่า บัลลังก์ของพระผู้เป็นเจ้า และประชาชาติทั้งปวงจะมารวมเข้าด้วยกันที่นั่น ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า ในเยรูซาเล็ม และพวกเขาจะไม่ดื้อรั้นกระทำตามใจอันชั่วร้ายของตนอีกต่อไป 18 ในเวลานั้น พงศ์พันธุ์ยูดาห์จะมารวมด้วยกันกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล และพวกเขาจะมาด้วยกันจากดินแดนทางเหนือ มายังแผ่นดินที่เรามอบให้แก่บรรพบุรุษของเจ้าเป็นมรดก 19 เราพูดว่า

เราปรารถนายิ่งนักที่จะให้เจ้าอยู่ในฐานะร่วมกับบรรดาบุตรของเรา
    และมอบแผ่นดินอันน่าอยู่
    มรดกที่งามที่สุดในบรรดาประชาชาติ
และเราคิดว่า เจ้าจะเรียกเราว่า ‘บิดาของข้าพเจ้า’
    และจะไม่หยุดติดตามเรา
20 โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย แน่ทีเดียว ภรรยาที่ไม่ภักดีทอดทิ้งสามีนางไปเช่นไร
    เจ้าก็ไม่ภักดีต่อเราเช่นนั้น”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

21 เสียงที่ได้ยินมาจากที่สูงเป็นเสียงร้องไห้
    และอ้อนวอนของพงศ์พันธุ์อิสราเอล
เพราะพวกเขาได้หลงหาย
    และลืมพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเขาแล้ว
22 “โอ ลูกๆ ที่สิ้นความเชื่อเอ๋ย จงกลับมา
    เราจะรักษาเจ้าให้หายจากการสิ้นความเชื่อ”
ดูเถิด ข้าพเจ้าทั้งหลายมาหาพระองค์
    เพราะพระองค์เป็นพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
23 จริงทีเดียว เสียงชุลมุนบนเนินเขาสูง
    และบนภูเขาเป็นสิ่งลวงหลอก
จริงทีเดียว ความรอดของอิสราเอล
    อยู่ในพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา

24 นับตั้งแต่ครั้งโบราณกาล สิ่งอันน่าอับอายได้ทำให้เราต้องสูญเสียทุกสิ่งที่บรรพบุรุษของเราตรากตรำมา ฝูงแพะแกะและโค บุตรชายบุตรหญิงของพวกเขา 25 ให้พวกเรานอนลงกับความอับอายของเราเถิด และให้ความอัปยศปกคลุมพวกเรา เพราะพวกเราและบรรพบุรุษของเราได้ทำบาปต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ตั้งแต่ครั้งโบราณกาลมาจนถึงบัดนี้ และพวกเราไม่ได้เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา