Add parallel Print Page Options

บทเรียนของเยเรมียาห์ที่วิหาร

(ยรม. 7:1-15)

26 ในช่วงต้นรัชกาลของกษัตริย์เยโฮยาคิมลูกชายกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ มีข้อความนี้มาจากพระยาห์เวห์

นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด “เยเรมียาห์ ให้เจ้าไปยืนอยู่ในลานของวิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพูดต่อว่าประชาชนจากเมืองทั้งหลายของยูดาห์ที่กำลังมานมัสการที่วิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพูดกับพวกเขาตามที่เราสั่ง ให้เจ้าพูดกับพวกเขาทุกคำห้ามตกแม้แต่คำเดียว

บางทีพวกเขาอาจจะฟัง แล้วแต่ละคนก็หันหลังให้กับวิถีชีวิตบาปๆของพวกเขาก็ได้ ถ้าพวกเขาทำอย่างนั้น เราก็จะเปลี่ยนใจจากเรื่องความหายนะที่เราได้วางแผนจะให้เกิดขึ้นกับพวกเขา เพราะการกระทำที่ชั่วช้าต่างๆของพวกเขา

แล้วเจ้าก็ควรพูดกับพวกเขาว่า พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า ‘ถ้าพวกเจ้าไม่ยอมฟังเรา และไม่ยอมเดินตามกฎของเราที่เราได้ให้ไว้ต่อหน้าเจ้า

และไม่ยอมฟังถ้อยคำต่างๆของผู้พูดแทนพระเจ้าผู้รับใช้ของเรา ที่เราได้ส่งมาให้เจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเจ้าไม่ยอมฟังเขา

เราก็จะทำให้วิหารนี้เป็นเหมือนชิโลห์ และให้ชนชาติต่างๆทั่วโลกใช้ชื่อของเมืองนี้เป็นคำสาปแช่ง’”

พวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้า และประชาชนทั้งหลายก็ได้ยินเยเรมียาห์พูดถ้อยคำต่างๆเหล่านี้ ในวิหารของพระยาห์เวห์

เมื่อเยเรมียาห์พูดทุกอย่างที่พระยาห์เวห์สั่งให้เขาพูดกับประชาชนเสร็จแล้ว พวกนักบวช พวกผู้พูดแทนพระเจ้า และประชาชนทุกคนก็รุมกันเข้ามาจับตัวเขาพร้อมกับพูดว่า “แกตายแน่ๆ ทำไมแกถึงอ้างชื่อพระยาห์เวห์มาพูดว่า วิหารนี้จะต้องเป็นเหมือนชิโลห์ และคนที่อยู่ในเมืองนี้จะต้องถูกทำลาย”

แล้วทุกคนก็เข้าไปรุมล้อมเยเรมียาห์ในวิหารของพระยาห์เวห์

10 พวกเจ้านายแห่งยูดาห์ได้ยินถ้อยคำนี้เหมือนกัน พวกเขาก็เลยออกจากวังมาที่วิหารของพระยาห์เวห์ แล้วก็ไปนั่งอยู่ตรงทางเข้าประตูบานใหม่ที่วิหารของพระองค์

11 แล้วพวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าก็พูดกับพวกเจ้านายและทุกคนที่อยู่ที่นั่นว่า “ไอ้หมอนี่น่าจะถูกตัดสินประหารชีวิต เพราะมันได้พูดให้ร้ายบ้านเมืองนี้เหมือนที่เราเคยได้ยินมาแล้ว”

12 แล้วเยเรมียาห์ก็พูดกับเจ้านายและชาวบ้านทุกคนว่า “พระยาห์เวห์ส่งให้ผมมาพูดสิ่งทั้งหมดนี้ที่เกี่ยวกับบ้านนี้และเมืองนี้ตามที่พวกคุณได้ยิน

13 ตอนนี้ขอให้พวกคุณแก้ไขวิถีทางและการกระทำต่างๆของพวกคุณ และให้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกคุณ บางทีพระองค์อาจจะเปลี่ยนใจไม่ทำร้ายพวกคุณตามที่พระองค์ได้วางแผนไว้

14 แต่ตอนนี้ผมอยู่ในเงื้อมมือคุณแล้ว จะทำยังไงกับผมก็ได้แล้วแต่จะเห็นสมควร

15 แต่ให้รู้ไว้ว่า ถ้าพวกคุณคิดจะฆ่าผม พวกคุณกำลังทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งตกอยู่บนตัวคุณเอง บ้านเมืองนี้ และประชาชนของเมืองนี้ด้วย เพราะพระยาห์เวห์ส่งผมมาจริงๆ เพื่อพูดคำเหล่านี้ทุกคำให้พวกคุณฟัง”

16 แล้วพวกเจ้านายและชาวบ้านทั้งหลายก็บอกกับพวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าว่า “อย่าตัดสินประหารคนคนนี้เลย เพราะว่าเขาพูดกับเราในนามของพระยาห์เวห์”

17 ผู้ชายบางคนและผู้อาวุโสบางคนของแผ่นดิน ก็ลุกขึ้นยืนและพูดกับคนทั้งกลุ่มที่ออกันอยู่ว่า

18 “มีคาห์แห่งโมเรเชทเคยพูดแทนพระเจ้าในสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ ท่านได้พูดกับคนทุกคนในยูดาห์ว่า

‘พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้ว่า
    เมืองศิโยนจะถูกไถเหมือนไถนา
และเมืองเยรูซาเล็มจะกลายเป็นซากปรักหักพัง
    ภูเขาที่เป็นที่ตั้งของวิหารก็จะถูกถอนรากถอนโคน’[a]

19 แล้วกษัตริย์เฮเซคียาห์และชาวเมืองยูดาห์ทั้งหมดได้ฆ่าท่านหรือเปล่า ก็เปล่า แต่กษัตริย์กลับเกรงกลัวพระยาห์เวห์แล้วอ้อนวอนพระองค์ให้เมตตา แล้วพระยาห์เวห์ก็เปลี่ยนใจไม่นำภัยพิบัติมาถึงพวกเขาทั้งๆที่พระองค์เคยพูดไว้ว่าจะลงโทษพวกเขา แต่ตอนนี้เรากำลังจะนำความหายนะอันใหญ่หลวงมาสู่ตัวเอง”

20 (ยังมีชายอีกคนหนึ่งชื่ออุรียาห์ลูกชายของเชไมอาห์จากคิริยาทเยอาริม มาพูดแทนพระยาห์เวห์ เขาพูดให้ร้ายเมืองนี้และแผ่นดินนี้เหมือนที่เยเรมียาห์พูดนั่นแหละ 21 แล้วกษัตริย์เยโฮยาคิม พวกเจ้านาย และทหารทุกคนของพระองค์ได้ยินคำพูดของเขา กษัตริย์ก็เลยคิดฆ่าเขา แต่อุรียาห์ได้ยินเสียก่อน ก็เลยกลัวและหนีไปอียิปต์ 22 กษัตริย์เยโฮยาคิมก็ส่งเอลนาธันลูกชายของอัคโบร์ และคนอีกจำนวนหนึ่งไปอียิปต์ 23 แล้วพวกเขาก็นำอุรียาห์กลับมาจากอียิปต์ พวกนั้นนำเขาไปให้กษัตริย์เยโฮยาคิม พระองค์ก็ฆ่าเขาแล้วโยนศพเขาทิ้งในสุสานของสามัญชน

24 แต่อาหิคัมลูกชายของชาฟานป้องกันไม่ให้เยเรมียาห์ถูกชาวบ้านฆ่าตาย)

Footnotes

  1. 26:18 มีคาห์พูดอย่างนี้ประมาณเจ็ดร้อยปีก่อนพระเยซูมาเกิด ดูเพิ่มเติมได้จาก หนังสือมีคาห์ 3:12

เยเรมีย์ถูกขู่ให้ถึงแก่ความตาย

26 ในเริ่มรัชสมัยของเยโฮยาคิมบุตรของโยสิยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “จงยืนที่ลานพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และพูดกับประชาชนจากทุกเมืองแห่งยูดาห์ที่มานมัสการในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ให้พวกเขาฟังทุกคำที่เราบัญชาเจ้าให้พูด อย่าเว้นแม้แต่คำเดียว พวกเขาอาจจะฟังและหันจากวิถีทางอันชั่วร้าย เราจะได้เปลี่ยนใจเรื่องความวิบัติที่เราตั้งใจจะให้เกิดขึ้นกับพวกเขา เพราะการกระทำอันชั่วร้ายของพวกเขา เจ้าจงพูดกับพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ ‘ถ้าพวกเจ้าไม่ฟัง ที่เราให้ดำเนินชีวิตตามกฎบัญญัติของเราซึ่งตั้งไว้ให้เจ้าแล้ว และให้เจ้าฟังคำของบรรดาผู้รับใช้ผู้เป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า เราส่งพวกเขามายังพวกเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเจ้าก็ไม่ฟัง ฉะนั้นเราจะทำให้ตำหนักนี้เป็นอย่างชิโลห์[a] และเราจะทำให้เมืองนี้เป็นคำสาปแช่งแก่ประชาชาติทั้งปวงของแผ่นดินโลก’”

บรรดาปุโรหิต ผู้เผยคำกล่าว และประชาชนทั้งปวงได้ยินเยเรมีย์พูดในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเยเรมีย์พูดทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชาท่านให้พูดกับประชาชนทั้งปวงแล้ว บรรดาปุโรหิต ผู้เผยคำกล่าว และประชาชนทั้งปวง ต่างก็คว้าตัวท่านไว้พลางพูดว่า “ท่านจะต้องตาย ทำไมท่านจึงเผยความในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า ด้วยการพูดว่า พระตำหนักนี้จะเป็นเหมือนอย่างชิโลห์ และเมืองนี้จะถูกทิ้งเป็นที่ร้าง ไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่” และประชาชนทั้งปวงก็รุมล้อมเยเรมีย์ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า

10 ครั้นบรรดาผู้นำของยูดาห์ทราบเรื่องก็ขึ้นมาจากวังของกษัตริย์ มายังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และนั่งประจำที่ของตนที่ทางเข้าประตูใหม่ของพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 11 และบรรดาปุโรหิตและบรรดาผู้เผยคำกล่าวก็พูดกับบรรดาผู้นำและประชาชนทั้งปวงว่า “ชายผู้นี้สมควรจะรับโทษถึงตาย เพราะเขาเผยความกล่าวโทษเมืองนี้ ตามที่พวกท่านได้ยินด้วยหูของท่านเองแล้ว”

12 เยเรมีย์จึงพูดกับบรรดาผู้นำและประชาชนทั้งปวงว่า “พระผู้เป็นเจ้าใช้ให้ข้าพเจ้ามาเผยความตามทุกคำพูดที่พวกท่านได้ยินแล้ว เป็นการกล่าวโทษพระตำหนักนี้และเมืองนี้ 13 ฉะนั้น บัดนี้จงเปลี่ยนวิถีทางและการกระทำของพวกท่าน และเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และพระผู้เป็นเจ้าจะเปลี่ยนใจเรื่องความวิบัติที่พระองค์ได้ลั่นวาจากล่าวโทษพวกท่าน 14 แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ดูเถิด ข้าพเจ้าอยู่ในอำนาจของพวกท่าน ท่านกระทำต่อข้าพเจ้าตามที่เห็นว่าดีและถูกต้องเถิด 15 ท่านจงทราบได้เลยว่า ถ้าพวกท่านฆ่าข้าพเจ้า ทั้งตัวท่านและเมืองนี้ และบรรดาผู้อยู่อาศัยจะมีความผิดฐานฆ่าคนไร้ความผิด ด้วยว่าพระผู้เป็นเจ้าใช้ให้ข้าพเจ้ามาหาพวกท่านเพื่อพูดทุกสิ่งให้พวกท่านฟัง”

เยเรมีย์รอดชีวิต

16 ครั้นแล้ว บรรดาผู้นำและประชาชนทั้งปวงก็พูดกับบรรดาปุโรหิตและบรรดาผู้เผยคำกล่าวว่า “ชายผู้นี้ไม่สมควรได้รับโทษถึงตาย เพราะเขาได้พูดกับพวกเราในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา” 17 บรรดาผู้ใหญ่บางคนในที่นั้นจึงลุกขึ้นพูดกับประชาชนที่ประชุมร่วมกันว่า 18 “มีคาห์แห่งโมเรเชทได้เผยความในสมัยของเฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ ท่านได้พูดกับชาวยูดาห์ทั้งปวงว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวว่า

ศิโยนจะถูกไถเหมือนเป็นไร่นา
    เยรูซาเล็มจะกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
    และภูเขาของพระตำหนักจะเป็นดงไม้ทึบ’[b]

19 เฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์และชาวยูดาห์ทั้งปวงฆ่าท่านหรือ กษัตริย์เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า และพยายามทำให้พระผู้เป็นเจ้าพอใจมิใช่หรือ และพระผู้เป็นเจ้าได้เปลี่ยนใจเรื่องความวิบัติที่พระองค์ได้ลั่นวาจากล่าวโทษพวกเขามิใช่หรือ แต่พวกเรากำลังนำความวิบัติมาสู่พวกเราเอง”

20 มีชายอีกผู้หนึ่งที่เผยความในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า คืออุรียาห์บุตรของเชไมยาห์จากคีริยาทเยอาริม เขาเผยความกล่าวโทษเมืองนี้และแผ่นดินนี้ด้วยคำพูดที่เหมือนกับของเยเรมีย์ 21 เมื่อกษัตริย์เยโฮยาคิมพร้อมด้วยบรรดานักรบและผู้นำทั้งปวงของท่านได้ยินคำพูดดังกล่าว กษัตริย์จึงต้องการจะฆ่าเขา แต่เมื่ออุรียาห์ทราบเรื่อง เขาก็กลัว จึงได้หนีไปยังอียิปต์ 22 กษัตริย์เยโฮยาคิมจึงให้เอลนาธานบุตรของอัคโบร์กับผู้ชายบางคนไปกับเขาด้วย 23 ชายเหล่านั้นจับตัวอุรียาห์มาจากอียิปต์ และนำเขามาให้กษัตริย์เยโฮยาคิม และท่านก็ได้ใช้ดาบฆ่าเขา และโยนร่างเขาลงในที่ฝังศพของชาวบ้าน

24 แต่อาหิคาม[c]บุตรของชาฟานช่วยเหลือเยเรมีย์ ท่านจึงไม่ตกอยู่ในอำนาจของประชาชนที่ต้องการจะฆ่า