อัสซีเรียเป็นเครื่องมือขององค์พระผู้เป็นเจ้า

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงเอาหนังสือม้วนแผ่นใหญ่มาและใช้ปากกาเขียนลงไปว่า ‘มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส’[a] และเราจะเรียกปุโรหิตอุรียาห์กับเศคาริยาห์บุตรเยเบเรคิยาห์ให้เป็นพยานที่เชื่อถือได้ของเรา”

แล้วข้าพเจ้าก็เข้าหาผู้เผยพระวจนะหญิง นางจึงตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงตั้งชื่อเขาว่ามาเฮอร์ชาลาลหัชบัส ก่อนที่เด็กคนนั้นจะรู้จักเรียก ‘พ่อ’ หรือ ‘แม่’ กษัตริย์อัสซีเรียจะริบทรัพย์สมบัติของดามัสกัสและสะมาเรียไป”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า

“เนื่องจากชนชาตินี้ได้ปฏิเสธ
น้ำแห่งชิโลอาห์ซึ่งไหลเอื่อยๆ
ไปชื่นชมเรซีน
และบุตรของเรมาลิยาห์
ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะใช้กระแสน้ำอันหลากเชี่ยวของยูเฟรติส
มาท่วมมิดพวกเขา
คือกษัตริย์อัสซีเรียกับกองทัพมหึมา
กระแสน้ำนั้นจะท่วมมิดทุกช่องทาง
และล้นทุกตลิ่ง
และกวาดเข้ามาในยูดาห์
ไหลวนเหนือดินแดนนั้น ไหลหลากท่วมถึงคอ
โอ อิมมานูเอล[b]เอ๋ย!
ท่วมมิดยูดาห์จนสุดเขตแดน”

ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย โห่ร้องออกศึกไปเถิด และจงถูกบดขยี้!
ดินแดนไกลโพ้นทั้งปวง จงฟัง
เตรียมทำศึกเถิด และจงถูกบดขยี้!
เตรียมทำศึกเถิด และจงถูกบดขยี้!
10 วางแผนกลยุทธ์ไปเถิด แต่มันจะกลับตาลปัตร
ดำเนินตามแผนเถิด แต่จะไปไม่รอด
เพราะพระเจ้าทรงอยู่กับเรา[c]

จงยำเกรงพระเจ้า

11 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเตือนข้าพเจ้าอย่างเข้มงวดไม่ให้ดำเนินตามวิถีทางของชนชาตินี้พระองค์ตรัสว่า

12 “ทุกสิ่งที่ชนชาติเหล่านี้เรียกว่าการคบคิดทรยศ
เจ้าอย่าเรียกว่าการคบคิดทรยศ[d]
อย่ากลัวสิ่งที่พวกเขากลัว
อย่าหวาดหวั่น
13 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์คือผู้ที่เจ้าจะต้องถือว่าบริสุทธิ์
พระองค์คือผู้ที่เจ้าจะต้องยำเกรง
พระองค์คือผู้ที่เจ้าจะต้องขยาดกลัว
14 พระองค์จะทรงเป็นสถานนมัสการ
แต่สำหรับวงศ์วานทั้งคู่ของอิสราเอล
พระองค์จะทรงเป็นก้อนหินซึ่งทำให้ผู้คนสะดุด
และเป็นศิลาที่ทำให้พวกเขาล้มลง
และพระองค์จะเป็นกับดัก
และเป็นบ่วงแร้วสำหรับชาวเยรูซาเล็ม
15 พวกเขาหลายคนจะสะดุด
พวกเขาจะล้มลงและแตกสลาย
พวกเขาจะติดกับและถูกจับไป”

16 จงมัดคำพยานเข้าไว้ด้วยกัน
และประทับตราบทบัญญัติในหมู่สาวกของข้าพเจ้า
17 ข้าพเจ้าจะรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้า
ผู้ทรงซ่อนพระพักตร์จากวงศ์วานของยาโคบ
ข้าพเจ้าจะไว้วางใจในพระองค์

18 ข้าพเจ้าและบุตรทั้งหลายที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว เราคือหมายสำคัญและสัญลักษณ์ในอิสราเอลจากพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ผู้ประทับบนภูเขาศิโยน

19 เมื่อคนบอกให้ท่านไปปรึกษาคนทรงเจ้าเข้าผีซึ่งกระซิบกระซาบบ่นพึมพำ ประชาชาติไม่ควรทูลถามพระเจ้าของตนหรือ? เหตุใดไปหารือกับคนตายเพื่อคนเป็น? 20 จงไปค้นดูบทบัญญัติและคำพยาน! หากพวกเขาไม่ได้พูดตามนี้ พวกเขาก็ไม่ได้มีแสงสว่างแห่งรุ่งอรุณอยู่เลย 21 พวกเขาจะซัดเซพเนจรไปอย่างทุกข์ลำเค็ญและหิวโหย เมื่อกันดารอาหารเขาจะเดือดดาลคลุ้มคลั่ง เงยหน้าขึ้นฟ้า แช่งด่ากษัตริย์และพระเจ้าของตน 22 แล้วพวกเขาจะมองไปยังแผ่นดินโลก และพบแต่ความทุกข์ลำเค็ญ ความมืดมน ความกลัดกลุ้ม และเขาจะถูกผลักเข้าสู่ความมืดมิด

Footnotes

  1. 8:1 แปลว่ารีบไปยังของที่ปล้นมาได้เช่นเดียวกับข้อ 3
  2. 8:8 แปลว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเรา
  3. 8:10 ภาษาฮีบรูว่าอิมมานูเอล
  4. 8:12 หรือทุกครั้งที่ชนชาติเหล่านี้เรียกหาสนธิสัญญา / อย่าเรียกหาสนธิสัญญา

อัสซีเรียบุกรุก

และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ “จงเอาแผ่นไม้ขนาดใหญ่มา และเขียนลงเป็นคำสามัญว่า ‘เป็นของมาเฮร์ชาลาลหัชบัส’[a] และเราจะใช้พยานที่เชื่อถือได้คือ อุรียาห์ปุโรหิต และเศคาริยาห์บุตรของเยเบเรคียาห์ เพื่อยืนยันให้เรา”

และข้าพเจ้าไปหาผู้เผยคำกล่าวหญิง ผู้ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ “จงตั้งชื่อเขาว่า มาเฮร์ชาลาลหัชบัส เพราะว่าก่อนที่เด็กน้อยจะรู้จักร้องคำว่า ‘พ่อของฉัน’ หรือ ‘แม่ของฉัน’ ความมั่งมีของดามัสกัสและสิ่งที่ริบได้จากสะมาเรีย ก็จะถูกขนไปให้กษัตริย์แห่งอัสซีเรีย”

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าอีกว่า “เป็นเพราะประชาชนกลุ่มนี้ไม่ยอมรับสายน้ำของชิโลอาห์ที่ไหลเอื่อยๆ แต่กลับไปยินดีกับเรซีนและบุตรชายของเรมาลิยาห์ ฉะนั้น ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้ากำลังนำกระแสน้ำของแม่น้ำยูเฟรติสขึ้นมาปะทะ ซึ่งมีพลังและจำนวนมหาศาล นั่นคือกษัตริย์แห่งอัสซีเรียผู้เปี่ยมด้วยบารมี ระดับน้ำจะสูงขึ้นท่วมช่องแคบ และไหลท่วมริมฝั่งน้ำทั้งหมด และน้ำจะไหลเข้าไปในยูดาห์ มันจะไหลท่วมและเลยต่อไป จะสูงจนถึงคอ และปีกที่กางแผ่ออกจะคลุมความกว้างของแผ่นดินของเจ้า โอ อิมมานูเอล”

บรรดาชนชาติเอ๋ย จงตะโกนร้องเสียงดังลั่น และถูกโจมตีจนพ่ายแพ้
    แผ่นดินทั้งปวงที่อยู่ห่างไกล จงเงี่ยหูของท่าน
จงเตรียมอาวุธของท่าน และถูกโจมตีจนพ่ายแพ้
    จงเตรียมอาวุธของท่าน และถูกโจมตีจนพ่ายแพ้
10 จงร่วมกันวางแผน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    จงสั่งการ แต่จะไม่ได้ผล
    เพราะพระเจ้าสถิตกับเรา

พระผู้เป็นเจ้าเตือนอิสยาห์

11 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้า พร้อมด้วยมืออันมั่นคงซึ่งสถิตกับข้าพเจ้า และเตือนข้าพเจ้าไม่ให้เดินในวิถีทางของชนชาตินี้ว่า 12 “สิ่งที่ชนชาตินี้พูดกันว่าเป็นแผนการร้าย เจ้าก็อย่าเชื่อว่าเป็นแผนการร้าย อย่ากลัวสิ่งที่พวกเขากลัว และอย่าหวาดหวั่น 13 แต่เจ้าจงให้เกียรติพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาว่าพระองค์บริสุทธิ์ จงเกรงกลัวพระองค์ และจงครั่นคร้ามในพระองค์ 14 และพระองค์จะเป็นที่พำนักและศิลาก้อนหนึ่งที่ทำให้คนล้มลง และเป็นหินที่ทำให้พงศ์พันธุ์ทั้งสองของอิสราเอลสะดุด เป็นกับดักและบ่วงแร้วสำหรับบรรดาผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็ม 15 และหลายคนจะสะดุดบนหินนั้น พวกเขาจะล้มและย่อยยับ พวกเขาจะติดบ่วงแร้ว และถูกจับตัวไป”

16 จงเก็บคำพยาน และผนึกกฎบัญญัติไว้ในหมู่ผู้ติดตามของข้าพเจ้า 17 ข้าพเจ้าจะรอคอยพระผู้เป็นเจ้า พระองค์กำลังซ่อนหน้าไปจากพงศ์พันธุ์ยาโคบ และข้าพเจ้าจะมีความหวังในพระองค์[b] 18 ดูเถิด ข้าพเจ้ากับบรรดาบุตรที่พระผู้เป็นเจ้าได้ให้แก่ข้าพเจ้าเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นและเป็นสัญลักษณ์ในอิสราเอล ซึ่งมาจากพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้พำนักอยู่บนภูเขาศิโยน 19 และเมื่อพวกเขาพูดกับพวกท่านว่า “จงปรึกษาคนทรงและพ่อมดหมอผีที่พูดกระซิบและพึมพำ” ประชาชนควรจะปรึกษาพระเจ้าของพวกเขาเองมิใช่หรือ ทำไมจึงจะปรึกษาหารือคนตายเพื่อคนที่มีชีวิต 20 ในเรื่องกฎบัญญัติและเรื่องคำพยาน ถ้าพวกเขาไม่พูดด้วยคำเช่นนี้ ก็เป็นเพราะว่า พวกเขาไม่มีแสงแห่งรุ่งอรุณ 21 พวกเขาจะผ่านไปในแผ่นดิน เป็นทุกข์และหิวโหย และเมื่อพวกเขาหิว ความเดือดดาลก็จะพลุ่งขึ้น ขณะที่แหงนหน้าขึ้นพวกเขาก็จะแช่งกษัตริย์และพระเจ้าของพวกเขา 22 และพวกเขาจะมองดูบนแผ่นดินโลก ดูเถิด ความทุกข์และความมืด ความเจ็บปวดรวดร้าวอันมืดมน และพวกเขาจะถูกผลักไปสู่ความมืดมิด

Footnotes

  1. 8:1 ความหมายคือ ปล้นอย่างรวดเร็ว เป็นเหยื่อโดยฉับพลัน
  2. 8:17 ฮีบรู 2:13