Add parallel Print Page Options

อารามก่อปัญหาให้กับยูดาห์

ในช่วงที่อาหัส[a] ลูกของโยธาม ที่เป็นลูกของอุสซียาห์[b] ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ กษัตริย์เรซีนของอาราม[c] และเปคาห์ลูกของเรมาลิยาห์เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ทั้งเรซีนและเปคาห์ได้บุกขึ้นไปโจมตีเมืองเยรูซาเล็ม แต่ไม่สามารถเอาชนะเมืองนั้นได้ กษัตริย์อาหัสของยูดาห์[d] ได้รับรายงานเรื่องนี้ว่า อารามได้ตั้งค่ายอยู่ในเขตแดนของเอฟราอิม กษัตริย์อาหัสและคนของพระองค์ก็กลัวจนตัวสั่น เหมือนต้นไม้ในป่าที่ถูกลมพัดสั่นไหวไปมา

พระยาห์เวห์พูดกับอิสยาห์ว่า “ให้เจ้าและเชอารยาชูบ[e] ลูกของเจ้า ออกไปหาอาหัส ตรงบริเวณปลายรางน้ำของสระด้านบน ตรงถนนที่มุ่งไปยังทุ่งของคนซักผ้าใหม่ ให้บอกกับอาหัสว่า ‘ระวังตัวให้ดี และใจเย็นๆไม่ต้องกลัว และไม่ต้องใจฝ่อไป เรื่องสองคนนั้นที่ตอนนี้เป็นเหมือนเศษดุ้นฟืนสองดุ้นที่ใกล้จะมอดแล้ว ไม่ต้องไปกลัวที่เรซีน อาราม และเปคาห์ลูกของเรมาลิยาห์โกรธแค้นเจ้า หรือที่อาราม พร้อมกับเอฟราอิม และเปคาห์ลูกของเรมาลิยาห์ ได้วางแผนต่อต้านเจ้า และพูดกันว่า “พวกเราไปบุกยูดาห์กันเถอะ ไปทำให้มันขวัญหนีดีฝ่อ และเอาชนะมัน แล้วตั้งลูกของทาเบเอลขึ้นเป็นกษัตริย์ที่นั่น”’”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า

“แผนของพวกมันจะไม่สำเร็จ
    และมันจะไม่เกิดขึ้นตามนั้น
เพราะหัวของอารามก็เป็นแค่เมืองดามัสกัสนั่น
    และหัวของดามัสกัสก็เป็นแค่ไอ้เรซีนนั่น
(ภายในหกสิบห้าปี เอฟราอิมจะถูกทำลายแตกเป็นชิ้นๆจนไม่เป็นชนชาติอีกต่อไป)
ส่วนหัวของเอฟราอิมก็เป็นแค่เมืองสะมาเรีย
    และหัวของเมืองสะมาเรียก็เป็นแค่ไอ้ลูกของเรมาลิยาห์คนนั้น
ถ้าเจ้าไม่ยืนหยัดในพระเจ้า
    เจ้าก็จะไม่มีทางยืนอยู่ได้เลย”

อิมมานูเอล พระเจ้าอยู่กับเรา

10 พระยาห์เวห์พูดกับอาหัสอีกครั้งว่า 11 “ขอเราพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าให้ทำอะไรก็ได้ที่พิสูจน์ว่าที่เราพูดนั้นเป็นจริง ขอมาเลย อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะมาจากที่ลึกของแดนผู้ตาย หรือมาจากที่สูงถึงฟ้าสวรรค์”

12 แต่อาหัสตอบว่า “ข้าพเจ้าจะไม่ขอหรอกครับ ข้าพเจ้าจะไม่ทดสอบพระยาห์เวห์”

13 แล้วอิสยาห์ก็พูดว่า “อย่างนั้น ฟังให้ดี ครอบครัวของดาวิด ที่เจ้าทำให้มนุษย์หมดความอดทนนั้นยังไม่พออีกหรือ ยังจะต้องมาทำให้พระเจ้าของผมหมดความอดทนไปด้วยหรือ 14 เพราะอย่างนี้แหละ องค์เจ้าชีวิตเองจะให้สิ่งที่พิสูจน์กับเจ้า

ดูนะ หญิงสาวคนนั้น[f]
    ตั้งท้องอยู่
    และกำลังจะคลอดลูกชาย
    เธอจะตั้งชื่อลูกว่า อิมมานูเอล[g]
15 เด็กคนนั้นจะกินเนยและน้ำผึ้ง[h]
    จนถึงเวลาที่เขาเริ่มปฏิเสธอาหารที่ไม่ชอบ
    และเลือกอาหารที่ชอบ[i]
16 เพราะก่อนที่เด็กจะเริ่มปฏิเสธอาหารที่ไม่ชอบ
    และเลือกอาหารที่ชอบเป็น
    แผ่นดินของกษัตริย์สององค์นั้นที่ท่านกลัว
    ก็จะถูกทิ้งให้รกร้างไปแล้ว

17 แต่พระยาห์เวห์จะนำวันเวลาแห่งความเดือดร้อนมาให้กับเจ้ากับคนของเจ้าและกับครอบครัวของเจ้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่เอฟราอิมแยกออกมาจากยูดาห์ พระยาห์เวห์จะนำกษัตริย์อัสซีเรีย[j] มาต่อสู้กับเจ้า”

18 ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะผิวปากเรียกแมลงวันตัวนั้น ที่อยู่ตามต้นน้ำทั้งหลายของลำธารต่างๆของอียิปต์ และจะผิวปากเรียกผึ้งตัวนั้นที่อยู่ในแผ่นดินของอัสซีเรีย 19 แมลงวันและผึ้งพวกนั้น ก็จะมาตั้งค่ายอยู่ในหุบเขาลึก ตามถ้ำตามหน้าผาต่างๆตามพงหนามและตามหลุมน้ำต่างๆ 20 ในวันนั้น องค์เจ้าชีวิตจะโกนหัวเจ้าและขนที่เท้า[k][l] ด้วยมีดโกนที่เช่ามาจากอีกฝั่งของแม่น้ำยูเฟรติสคือกษัตริย์อัสซีเรียนั่นเอง

21 ในวันนั้น คนหนึ่งจะเหลือได้แค่วัวสาวตัวหนึ่งและแพะสองตัว 22 และเพราะพวกมันให้นมจำนวนมาก คนนั้นก็เอามาทำเนยกิน คนที่ยังคงเหลืออยู่ในแผ่นดินนั้นก็จะกินเนยและน้ำเชื่อมผลไม้ 23 ในวันนั้น สวนองุ่นที่เคยมีเถาองุ่นหนึ่งพันเถาที่มีค่าหนึ่งพันเหรียญเงิน จะมีหญ้าคาและหนามขึ้นรกไปหมด 24 คนก็จะเอาธนูและลูกธนูเข้าไปล่าสัตว์ที่นั่น เพราะทั้งแผ่นดินก็มีแต่พงหญ้าและหนามขึ้นเต็มไปหมด 25 คนจะไม่ขึ้นไปตามเนินเขาพวกนั้นที่เคยมีการถางด้วยจอบอีกต่อไป เพราะจะกลัวความรกของพงหญ้าและหนาม มันจะกลายเป็นที่สำหรับปล่อยฝูงสัตว์ไปหากินและให้ฝูงแพะแกะไปเหยียบย่ำ

Footnotes

  1. 7:1 อาหัส เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ในช่วงปี 735-727 ก่อนพระเยซูมาเกิด
  2. 7:1 อุสซียาห์ เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ในช่วงปี 767-740 ก่อนพระเยซูมาเกิด
  3. 7:1 กษัตริย์เรซีนของอาราม ปกครองประมาณปี 740-731 ก่อนพระเยซูมาเกิด
  4. 7:2 กษัตริย์อาหัสของยูดาห์ หรือ แปลตามต้นฉบับได้ว่า “ครอบครัวของดาวิด” หรือครอบครัวแห่งยูดาห์ พระเจ้าสัญญาว่า จะมีคนจากครอบครัวของดาวิดได้เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์
  5. 7:3 เชอารยาชูบ ชื่อนี้หมายถึง “จะมีไม่กี่คนกลับมา”
  6. 7:14 หญิงสาวคนนั้น ในสำเนากรีกโบราณ แปลว่า “หญิงพรหมจารี”
  7. 7:14 อิมมานูเอล แปลว่า “พระเจ้าสถิตอยู่ด้วย”
  8. 7:15 กินเนยและน้ำผึ้ง หมายถึงอาหารอ่อน ส่วนใหญ่ให้เด็กทารกหรือเด็กที่เพิ่งหย่านมกินกัน
  9. 7:15 ปฏิเสธ … ที่ชอบ หรือแปลตรงๆได้ว่า “ปฏิเสธในสิ่งที่ไม่ดีและเลือกในสิ่งที่ดี”
  10. 7:17 อัสซีเรีย เป็นชนชาติที่มีอำนาจ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอิสราเอล
  11. 7:20 เท้า อาจจะพูดให้ไพเราะ แทน “อวัยวะเพศ”
  12. 7:20 โกนหัวเจ้าและขนที่เท้า เป็นการทำให้คนนั้นอับอายขายหน้า ดูตัวอย่างได้จาก 2 ซามูเอล 10:4-5; อิสรายาห์ 3:17

อิสยาห์พบกษัตริย์อาหัส

ในสมัยที่อาหัสบุตรของโยธาม[a]ซึ่งเป็นบุตรของอุสซียาห์เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ เรซีนกษัตริย์แห่งอารัม[b] และเปคาห์บุตรของเรมาลิยาห์กษัตริย์แห่งอิสราเอล ร่วมมือกันขึ้นไปโจมตีเยรูซาเล็ม แต่ไม่สามารถรบชนะได้ เมื่อมีคนมาแจ้งพงศ์พันธุ์ของดาวิดว่า “อารัมร่วมเป็นพันธมิตรกับเอฟราอิม” อาหัสและประชาชนต่างก็หวั่นไหวดั่งหมู่ไม้ในป่าที่ไหวลู่ไปกับลม

และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับอิสยาห์ดังนี้ “เจ้าจงออกไป ให้เชอาร์ยาชูบ[c]บุตรชายของเจ้าไปด้วย จงไปพบกับอาหัสที่ถนนหลวงข้างร่องน้ำที่สระบน ซึ่งอยู่ใกล้แหล่งซักผ้า และเตือนเขาให้ระวังตัว ใจเย็นไว้ อย่ากลัว และอย่าใจเสียเพียงเพราะไม้ 2 ตอที่คุอยู่ เพราะเรซีน อารัม และบุตรของเรมาลิยาห์กำลังโกรธมาก เพราะอารัมกับเอฟราอิมและบุตรของเรมาลิยาห์ได้วางแผนร้ายต่อเจ้า พวกเขาพูดว่า ‘พวกเราขึ้นไปโจมตียูดาห์กันเถิด ทำให้พวกเขาตกใจ และตีให้พังพินาศเพื่อพวกเราเอง แล้วแต่งตั้งบุตรของทาเบเอลให้เป็นกษัตริย์ที่นั่น’” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้

“มันจะไม่เป็นเช่นนั้น
    และมันจะไม่เกิดขึ้น
เพราะดามัสกัสเป็นเมืองสำคัญของอารัม
    และเรซีนเป็นผู้นำของดามัสกัส
และภายใน 65 ปี
    เอฟราอิมจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จนไม่อาจเป็นชนชาติได้อีก
สะมาเรียเป็นเมืองสำคัญของเอฟราอิม
    และบุตรของเรมาลิยาห์เป็นผู้นำของสะมาเรีย
ถ้าเจ้าไม่ยืนหยัดในความเชื่อ
    เจ้าก็จะไม่มั่นคงเลย”

สัญลักษณ์ของอิมมานูเอล

10 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับอาหัสอีกว่า 11 “จงขอพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า เพื่อบ่งบอกเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เจ้าเห็น ไม่ว่าจะเป็นจากที่ลึกถึงแดนคนตาย หรือสูงถึงฟ้าสวรรค์” 12 แต่อาหัสตอบว่า “ข้าพเจ้าจะไม่ถาม และข้าพเจ้าจะไม่ทดสอบพระผู้เป็นเจ้า 13 และอิสยาห์พูดว่า “โอ พงศ์พันธุ์ของดาวิดเอ๋ย จงฟังเถิด พวกท่านทำให้คนรำคาญใจไม่พอหรือ จึงกระทำให้พระเจ้าของข้าพเจ้ารำคาญใจไปด้วย 14 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นผู้บ่งบอกเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ท่านเห็น ดูเถิด พรหมจาริณีผู้หนึ่งจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายผู้หนึ่ง และจะตั้งชื่อบุตรว่า อิมมานูเอล[d] 15 ท่านจะรับประทานโยเกิร์ตและน้ำผึ้งในเวลาที่ท่านรู้จักปฏิเสธความชั่ว และเลือกความดี 16 เพราะก่อนที่เด็กน้อยจะรู้จักปฏิเสธความชั่ว และเลือกความดี แผ่นดินของกษัตริย์ทั้งสองที่ท่านหวั่นกลัวจะกลายเป็นที่รกร้าง 17 พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้พวกท่าน ชนชาติของท่าน และตระกูลของท่านประสบกับเวลาที่จะเผชิญกับกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย เลวร้ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นับตั้งแต่วันที่เอฟราอิมแยกไปจากยูดาห์”[e]

18 ในวันนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะส่งเสียงผิวปากเรียกฝูงเหลือบที่อยู่ปลายสุดธารของอียิปต์ และเรียกฝูงผึ้งที่อยู่ในแผ่นดินของอัสซีเรีย 19 พวกมันทั้งหมดจะมาทำรังอาศัยอยู่ที่หน้าผาชัน ที่ซอกหิน ที่พันธุ์ไม้มีหนาม และตามทุ่งหญ้า

20 ในวันนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะใช้กษัตริย์แห่งอัสซีเรียเหมือนใช้มีดโกนที่ถูกว่าจ้างบนฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส ให้โกนศีรษะและขา และแม้แต่หนวดเคราก็จะถูกโกนจนเกลี้ยง

21 ในวันนั้น แต่ละคนจะสามารถเก็บได้เพียงแม่โคสาว 1 ตัว และแกะ 2 ตัว 22 และเป็นเพราะสัตว์เหล่านี้ให้นมได้มากมาย เขาจะรับประทานโยเกิร์ต ทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินจะรับประทานโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง

23 ในวันนั้น ทุกแห่งที่เคยมีเถาองุ่น 1,000 เถา มีค่าเป็นเงิน 1,000 เชเขล[f] ก็จะกลายเป็นพุ่มไม้หนามและต้นหนาม 24 จะมีคนมาล่าสัตว์ด้วยคันธนูและลูกธนูที่นั่น เพราะทั่วทั้งแผ่นดินจะมีพุ่มไม้หนามและต้นหนาม 25 ส่วนเนินเขาที่เคยเป็นที่พรวนดิน ท่านก็จะไม่ไปที่นั่นเพราะกลัวพุ่มไม้หนามและหนาม แต่มันจะกลายเป็นที่สำหรับฝูงโค และเป็นที่ให้ฝูงแกะเหยียบย่ำ

Footnotes

  1. 7:1 อาหัสเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ระหว่าง 736-716 ปีก่อน ค.ศ.
  2. 7:1 อารัม คือประเทศซีเรียในปัจจุบัน
  3. 7:3 ความหมายในภาษาฮีบรูคือ คนที่ยังมีชีวิตอยู่จะกลับมา
  4. 7:14 ความหมายในภาษาฮีบรูคือ พระเจ้าสถิตกับเรา ฉบับมัทธิว 1:23
  5. 7:17 เอฟราอิมเป็นอีกชื่อหนึ่งของอิสราเอล และแยกออกจากยูดาห์ 931 ปีก่อน ค.ศ.
  6. 7:23 1 เชเขล หนักประมาณ 11.4 กรัม