หมายสำคัญแก่โมเสส

โมเสสทูลตอบว่า “จะทำอย่างไรถ้าพวกเขาไม่เชื่อและไม่ฟังข้าพระองค์ แล้วพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ปรากฏแก่เจ้า’?”

องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “อะไรอยู่ในมือของเจ้า?”

โมเสสทูลว่า “ไม้เท้าพระเจ้าข้า”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงโยนไม้เท้าลงบนพื้น”

โมเสสจึงโยนลงไป ไม้เท้าก็กลายเป็นงู โมเสสจึงวิ่งหลบงูนั้น แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงยื่นมือออกไปจับหางงูนั้นไว้” ดังนั้นโมเสสจึงยื่นมือออกจับงูไว้ และงูนั้นก็กลายเป็นไม้เท้าในมือของเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงทำอย่างนี้ แล้วพวกเขาจะเชื่อว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา คือพระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบได้ปรากฏแก่เจ้า”

แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงเอามือสอดเข้าไปในเสื้อคลุม” เมื่อโมเสสทำเช่นนั้นแล้วชักมือออกมา ผิวหนังก็กลายเป็นโรคเรื้อน[a]ขาวเหมือนหิมะ

พระองค์ตรัสว่า “จงเอามือสอดกลับเข้าไปในเสื้อคลุม” เมื่อโมเสสทำตามและชักมือออกมา มือของเขาก็กลับเป็นปกติ

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “หากเขาไม่เชื่อหรือไม่สนใจหมายสำคัญอย่างแรก เขาอาจจะเชื่ออย่างที่สอง แต่หากพวกเขาไม่เชื่อหมายสำคัญทั้งสองนี้หรือไม่ยอมฟังเจ้า จงตักน้ำจากแม่น้ำไนล์มาเทลงบนพื้นแห้ง น้ำที่เจ้าเอามาจากแม่น้ำจะกลายเป็นเลือดบนพื้นดิน”

10 โมเสสทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์พูดไม่เก่ง ไม่ว่าจะในอดีตหรือเมื่อพระองค์ตรัสกับผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าพระองค์เป็นคนพูดไม่คล่องและไร้คารม”

11 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเขาว่า “ใครเล่าสร้างปากมนุษย์? ใครเล่าทำให้เขาหูหนวกหรือเป็นใบ้? ใครเล่าทำให้เขามองเห็นหรือตาบอด? ไม่ใช่เราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ? 12 บัดนี้จงไปเถิด เราจะช่วยและจะสอนเจ้าว่าเจ้าควรจะพูดอะไร”

13 แต่โมเสสทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดส่งคนอื่นไปเถิด”

14 องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงกริ้วโมเสสและตรัสว่า “อาโรนคนเลวีพี่ชายของเจ้าล่ะ? เรารู้ว่าเขาพูดเก่ง เขากำลังมาที่นี่เพื่อพบเจ้า และจะดีใจมากเมื่อเห็นเจ้า 15 เจ้าจะต้องพูดกับเขา และบอกเขาว่าควรพูดอะไร เราจะช่วยให้เจ้าทั้งสองพูดได้ดีและจะสอนเจ้าว่าควรทำอะไรบ้าง 16 เขาจะพูดกับประชาชนแทนเจ้า เขาจะเป็นเหมือนปากของเจ้า ส่วนเจ้าจะเป็นเหมือนพระเจ้าสำหรับเขา 17 แต่เจ้าจงเอาไม้เท้าในมือของเจ้าอันนี้ไปด้วยเพื่อจะได้ใช้แสดงหมายสำคัญ”

โมเสสกลับสู่อียิปต์

18 โมเสสจึงกลับไปหาเยโธรพ่อตาของเขาและกล่าวว่า “ข้าพเจ้าขอกลับไปหาชนชาติของข้าพเจ้าในอียิปต์ ไปดูว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่”

เยโธรตอบว่า “ไปเถิด พ่อขออวยพรให้เจ้าไปดี”

19 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสที่มีเดียนว่า “จงกลับไปอียิปต์เพราะพวกที่ต้องการฆ่าเจ้านั้นตายไปแล้ว” 20 ดังนั้นโมเสสจึงพาภรรยาและลูกๆ ขึ้นลาและออกเดินทางกลับไปอียิปต์ เขาถือไม้เท้าของพระเจ้าไปด้วย

21 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เมื่อเจ้ากลับไปถึงอียิปต์ เจ้าจะต้องทำการอัศจรรย์ทุกอย่างต่อหน้าฟาโรห์ตามที่เราให้ฤทธิ์อำนาจแก่เจ้าแล้ว แต่เราจะทำให้ฟาโรห์ใจแข็งไม่ยอมปล่อยเหล่าประชากรไป 22 แล้วเจ้าจงบอกฟาโรห์ว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า อิสราเอลเป็นลูกชายหัวปีของเรา 23 และเราบอกเจ้าว่า “จงปล่อยลูกชายของเราไป เพื่อเขาจะได้นมัสการเรา” แต่เจ้าปฏิเสธไม่ยอมให้เขาไป ดังนั้นเราจะประหารลูกชายหัวปีของเจ้า’ ”

24 ตรงที่พักระหว่างทาง องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาพบโมเสส[b]และจะทรงประหารชีวิตเขา 25 แต่นางศิปโปราห์เอามีดหินคมเฉือนหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศบุตรชายของตน เอาไปแตะเท้าของโมเสส[c] และกล่าวว่า “ท่านเป็นเจ้าบ่าวแห่งโลหิตต่อดิฉัน” 26 ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงละโมเสสไป (ครั้งนั้นนางกล่าวถึง “เจ้าบ่าวแห่งโลหิต” หมายถึงการเข้าสุหนัต)

27 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอาโรนว่า “จงไปพบโมเสสในถิ่นกันดาร” ดังนั้นอาโรนจึงไปพบโมเสสที่ภูเขาของพระเจ้าและจูบเขา 28 โมเสสเล่าให้อาโรนฟังถึงทุกสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งให้พูด และหมายสำคัญทุกอย่างที่พระองค์ทรงบัญชาให้เขาทำ

29 โมเสสกับอาโรนจึงเรียกประชุมผู้อาวุโสทั้งหมดของชนอิสราเอล 30 และอาโรนแจ้งให้พวกเขาทราบทุกสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสส โมเสสได้ทำหมายสำคัญต่อหน้าประชากรด้วย 31 พวกเขาจึงเชื่อ และเมื่อพวกเขาได้ยินว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงห่วงใย และเห็นความทุกข์ลำเค็ญของพวกตน พวกเขาจึงกราบลงนมัสการ

Footnotes

  1. 4:6 คำภาษาฮีบรูอาจหมายถึง โรคผิวหนังต่างๆ ไม่จำเป็นต้องหมายถึงโรคเรื้อนเท่านั้น
  2. 4:24 หรือบุตรชายของโมเสสภาษาฮีบรูว่าเขา
  3. 4:25 หรือเข้าไปใกล้เท้าของโมเสส

หมายสำคัญของโมเสส

โมเสสจึงตอบว่า “แต่พวกเขาจะไม่เชื่อข้าพเจ้าและไม่ฟังเสียงข้าพเจ้าหรอก เพราะเขาจะพูดว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ปรากฏแก่ท่าน’” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับท่านว่า “ที่อยู่ในมือเจ้าคืออะไร” ท่านตอบว่า “ไม้เท้า” พระองค์กล่าวว่า “โยนมันลงที่พื้น” โมเสสก็โยนมันลงที่พื้น แล้วไม้เท้าก็กลายเป็นงู ท่านเดินหนีงูไป และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงยื่นมือเจ้าออกมาจับหางงูเถิด” ท่านจึงยื่นมือออกไปจับ แล้วงูก็กลายเป็นไม้เท้าอยู่ในอุ้งมือท่าน “จงทำตามนี้ แล้วพวกเขาจะเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบได้ปรากฏแก่เจ้า” แล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับท่านอีกว่า “จงสอดมือเจ้าไว้ที่อก” ท่านก็ทำตาม เมื่อท่านชักมือออก ดูเถิด มือของท่านก็เป็นโรคเรื้อน ขาวราวหิมะ แล้วพระองค์กล่าวว่า “สอดมือเจ้ากลับไปที่อก” ท่านก็ทำตาม เมื่อท่านชักมือออก ดูเถิด ผิวหนังก็ดีดังเดิม มือก็กลับสู่สภาพเดิม พระเจ้ากล่าวว่า “ถ้าพวกเขาไม่เชื่อเจ้า หรือไม่เชื่อปรากฏการณ์อัศจรรย์ครั้งแรก เขาจะเชื่อปรากฏการณ์อัศจรรย์ครั้งที่สอง ถ้าพวกเขายังจะไม่เชื่อแม้แต่ปรากฏการณ์อัศจรรย์ทั้งสองนี้ และไม่ฟังเสียงเจ้าแล้ว เจ้าจงตักน้ำจากแม่น้ำไนล์มาเทลงบนดินแห้ง และน้ำที่เจ้าตักมานั้นจะกลายเป็นเลือดบนดินแห้ง”

10 แต่โมเสสพูดกับพระผู้เป็นเจ้าว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าไม่ใช่คนมีโวหารดีทั้งในอดีตหรือแม้แต่หลังจากที่พระองค์พูดกับผู้รับใช้ของพระองค์แล้วก็ตาม ข้าพเจ้าพูดไม่เก่ง และลิ้นก็ไม่คล่อง” 11 ครั้นแล้ว พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับท่านว่า “ใครสร้างปากให้มนุษย์ ใครทำให้เขาเป็นใบ้หรือหูหนวก มองเห็นหรือตาบอด ไม่ใช่เราซึ่งเป็นพระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือ 12 จงไปเดี๋ยวนี้ เราจะอยู่กับปากเจ้า และจะสอนว่าเจ้าจะต้องพูดอะไรบ้าง” 13 แต่ท่านพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดใช้คนอื่นไปเถิด” 14 พระผู้เป็นเจ้าจึงกริ้วโมเสสมาก พระองค์กล่าวว่า “อาโรนชาวเลวีเป็นพี่ชายเจ้ามิใช่หรือ เรารู้ว่าเขาพูดเก่ง ดูสิ เขากำลังออกมาหาเจ้า เมื่อเขาเห็นเจ้า เขาจะยินดีมาก 15 เจ้าพูดกับเขาได้ และบอกว่าเขาควรจะพูดอะไร เราจะอยู่กับปากเจ้าและปากเขา และจะสอนเจ้าว่า เจ้าควรจะทำอะไร 16 เขาจะเป็นคนที่พูดกับประชาชนให้เจ้าเอง และเขาจะเป็นปากให้เจ้า และเจ้าจะเป็นเสมือนพระเจ้าให้กับเขา 17 และเจ้าจะถือไม้เท้านี้ไว้ในมือของเจ้า เพื่อใช้สำหรับแสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์ต่างๆ”

โมเสสกลับไปยังประเทศอียิปต์

18 โมเสสกลับไปหาเยโธรพ่อตาของตน และพูดว่า “โปรดให้ข้าพเจ้ากลับไปหาพี่น้องข้าพเจ้าในอียิปต์เถิด เพื่อดูว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่” เยโธรตอบว่า “จงไปด้วยสันติสุขเถิด” 19 และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสที่มีเดียนว่า “จงกลับไปอียิปต์ เพราะทุกคนที่ต้องการฆ่าเจ้านั้นตายหมดแล้ว” 20 ดังนั้นโมเสสจึงพาภรรยาและบุตรของท่านไป ให้นั่งบนหลังลาและกลับไปยังดินแดนของอียิปต์ และโมเสสถือไม้เท้าของพระเจ้าไว้ในมือ

21 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “เมื่อเจ้ากลับไปอียิปต์ ต้องแน่ใจด้วยว่า เจ้าจะแสดงสิ่งมหัศจรรย์ทุกอย่างที่เรามอบให้อยู่ในอำนาจของเจ้าต่อหน้าฟาโรห์ แต่เราก็จะทำให้ใจของเขาแข็งกระด้าง และเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ชาวอิสราเอลไป 22 แล้วเจ้าจงพูดกับฟาโรห์ว่า ‘พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า อิสราเอลเป็นบุตรหัวปีของเรา 23 และเราขอบอกเจ้าว่า “ปล่อยให้บุตรของเราไป เขาจะได้นมัสการเรา” แต่เจ้าปฏิเสธไม่ยอมให้เขาไป ดูเถิด เราจะฆ่าบุตรหัวปีของเจ้า’”

24 ณ ที่พักแห่งหนึ่งระหว่างทาง พระผู้เป็นเจ้าประจันหน้ากับโมเสส และพยายามทำให้โมเสสถึงแก่ชีวิต 25 ศิปโปราห์จึงคว้าหินคม นางตัดผิวหนังที่ปลายองคชาตบุตรของนาง แล้วเอาไปแตะเท้าของโมเสส นางพูดว่า “เพราะท่านเป็นเจ้าบ่าวที่เปื้อนเลือดของฉัน” 26 ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าปล่อยโมเสสไป ในเวลานั้นนางพูดว่า “เจ้าบ่าวที่เปื้อนเลือด” อันเป็นการอ้างถึงการเข้าสุหนัต

27 ครั้นแล้ว พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับอาโรนว่า “จงไปหาโมเสสในถิ่นทุรกันดาร” อาโรนจึงไปพบกับโมเสสที่ภูเขาของพระเจ้า และจูบแก้มทักทายท่าน 28 โมเสสบอกให้อาโรนฟังถึงทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้ และปรากฏการณ์อัศจรรย์ทั้งหมดที่พระองค์สั่งให้ทำ 29 โมเสสกับอาโรนจึงจัดประชุมบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอล 30 แล้วอาโรนก็กล่าวถึงทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าได้บอกโมเสส และท่านได้แสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์ต่างๆ ต่อหน้าประชาชน 31 พวกประชาชนก็เชื่อ และเมื่อพวกเขาทราบว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ปรากฏพระองค์แก่ชาวอิสราเอล และได้เห็นความทุกข์ยากของพวกเขาแล้ว เขาก็พากันก้มศีรษะและกราบนมัสการพระองค์

การพิสูจน์สำหรับโมเสส

โมเสสตอบไปว่า “ดูสิ แล้วถ้าเกิดคนพวกนั้นไม่ยอมเชื่อข้าพเจ้าหรือฟังข้าพเจ้าล่ะ พวกเขาอาจพูดว่า ‘พระยาห์เวห์ ไม่ได้มาปรากฏให้เจ้าเห็นหรอก’”

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “มีอะไรอยู่ในมือเจ้า”

โมเสสตอบว่า “ไม้เท้าครับ”

พระยาห์เวห์บอกว่า “โยนมันลงบนพื้นซิ”

โมเสสจึงโยนมันลงบนพื้น มันได้กลายเป็นงูตัวหนึ่ง โมเสสวิ่งหนีงูตัวนั้น พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ยื่นมือเจ้าออกไปจับหางมันไว้”

เมื่อโมเสสยื่นมือออกไปจับหางมัน มันก็กลับกลายเป็นไม้เท้าอยู่ในมือเขาเหมือนเดิม “ให้ไปทำอย่างนี้ แล้วพวกเขาจะได้เชื่อว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และของยาโคบได้มาปรากฏกับเจ้าจริง”

พระยาห์เวห์พูดกับเขาอีกว่า “คราวนี้ ล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อของเจ้าซิ”

เมื่อโมเสสล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ และดึงมันออกมา มือของเขากลายเป็นโรคสีขาวเหมือนหิมะ

พระยาห์เวห์พูดว่า “ล้วงมือกลับเข้าไปในอกเสื้ออีกครั้งซิ” โมเสสจึงล้วงมือกลับเข้าไปในอกเสื้ออีกครั้ง เมื่อเขาดึงมือออกมา มือของเขาก็หายเป็นปกติ เหมือนผิวเดิมของเขา

“ถ้าพวกเขายังไม่เชื่อเจ้า หรือไม่สนใจสิ่งอัศจรรย์อันแรก เขาอาจจะเชื่อสิ่งอัศจรรย์อันหลังนี้ก็ได้ และถ้าพวกเขายังไม่เชื่อสิ่งอัศจรรย์ทั้งสองนี้ หรือไม่สนใจฟังเจ้า ก็ให้เจ้าตักน้ำจากแม่น้ำไนล์ขึ้นมา แล้วรดมันลงบนพื้นแห้ง น้ำที่เจ้าตักขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์นั้น จะกลายเป็นเลือดบนพื้นดิน” 10 โมเสสพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “ได้โปรดเถิด พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าเป็นคนพูดไม่เก่ง ทั้งในอดีตหรือจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ที่พระองค์พูดอยู่กับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะข้าพเจ้าเป็นคนพูดติดอ่างและพูดไม่ชัด”

11 พระยาห์เวห์พูดกับเขาว่า “ใครเป็นผู้ให้ปากกับมนุษย์ ใครทำให้มนุษย์เป็นใบ้ หูหนวก พิการหรือตาบอด เป็นเรายาห์เวห์ไม่ใช่หรือ 12 ดังนั้น ไปเดี๋ยวนี้ เราจะอยู่กับปากของเจ้า เราจะสอนเจ้าว่าจะให้พูดอะไร”

13 แต่โมเสสตอบว่า “ได้โปรดเถิดองค์เจ้าชีวิต ช่วยส่งคนอื่นไปเถิด”

14 พระยาห์เวห์โกรธโมเสส พระองค์พูดว่า “เจ้ายังมีพี่ชายชื่ออาโรนเป็นคนเลวี ใช่ไหม เรารู้ว่าเขาเป็นคนพูดเก่ง และเขากำลังมาหาเจ้า เมื่อเขามาพบเจ้า เขาจะดีใจมาก 15 เจ้าอยากให้เขาพูดอะไร เจ้าก็บอกกับเขาได้ เราจะอยู่กับปากของเจ้าและปากของเขา เราจะสอนพวกเจ้าว่าจะต้องทำอะไร 16 เขาจะพูดกับประชาชนให้กับเจ้า เขาจะเป็นเหมือนปากของเจ้า และเจ้าจะเป็นเหมือนพระเจ้าสำหรับเขา[a] 17 ให้ถือไม้เท้านี้ไว้ในมือของเจ้า เจ้าจะแสดงสิ่งมหัศจรรย์ด้วยไม้เท้านี่แหละ”

โมเสสกลับสู่อียิปต์

18 โมเสสกลับไปหาเยโธรพ่อตาของเขา และพูดว่า “ขออนุญาตให้ผมกลับไปหาญาติพี่น้องของผมในอียิปต์ ไปดูว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”

เยโธรพูดกับโมเสสว่า “ขอให้เจ้าเดินทางด้วยความปลอดภัย”

19 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสในมีเดียนว่า “กลับไปอียิปต์ได้แล้ว เพราะพวกที่ตามล่าชีวิตของเจ้านั้น ตายหมดแล้ว”

20 โมเสสจึงพาเมียและลูกๆของเขา ขึ้นนั่งหลังลาและมุ่งหน้ากลับไปอียิปต์ เขาถือไม้เท้าของพระเจ้าไว้ในมือ

21 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เมื่อเจ้ากลับไปถึงอียิปต์ ให้นึกถึงสิ่งอัศจรรย์ทั้งหลายที่เราได้มอบไว้ในมือเจ้า และแสดงพวกมันต่อหน้าฟาโรห์ แต่เราจะทำให้ฟาโรห์ใจแข็ง เพื่อเขาจะไม่ยอมปล่อยประชาชนไป 22 เจ้าต้องพูดกับฟาโรห์ว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่า อิสราเอลเป็นลูกชายคนโตของเรา และเราขอบอกเจ้าว่า 23 ปล่อยลูกชายของเราไปซะ เพื่อเขาจะได้มารับใช้เรา แต่ถ้าเจ้าไม่ยอมปล่อยเขา เราก็จะฆ่าลูกชายคนโตของเจ้า’”

ลูกชายโมเสสถูกขลิบ

24 ในระหว่างทางไปอียิปต์ โมเสสได้หยุดพักค้างคืนในที่แห่งหนึ่ง พระยาห์เวห์มาหาโมเสสและพยายามฆ่าเขา 25 แต่นางศิปโปราห์ได้เอามีดหิน[b] ไปขลิบลูกชายนาง และเอาหนังชิ้นนั้น ไปแตะที่เท้า[c] ของโมเสส นางพูดว่า “ท่านเป็นเจ้าบ่าวแห่งเลือดสำหรับฉัน” 26 แล้วพระยาห์เวห์ก็จากไป โดยไม่ได้ทำอันตรายเขา ที่นางพูดว่า “เจ้าบ่าวแห่งเลือด” นั้น นางกำลังพูดถึงการขลิบนั่นเอง

โมเสสกับอาโรนไปหาชาวอิสราเอล

27 ขณะนั้นพระยาห์เวห์พูดกับอาโรนว่า “ไปหาโมเสสในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง” เขาจึงไปและพบโมเสสที่ภูเขาของพระเจ้า[d] อาโรนจูบโมเสส 28 โมเสสเล่าเรื่องทั้งหมดที่พระยาห์เวห์ได้พูดกับเขาให้อาโรนฟัง รวมถึงเรื่องที่พระองค์ส่งเขาไป และการอัศจรรย์ทั้งหมดที่พระองค์สั่งให้เขาทำ

29 โมเสสและอาโรนจึงไป และได้รวบรวมพวกผู้อาวุโสของอิสราเอลมา 30 อาโรนได้พูดทุกคำที่พระยาห์เวห์ได้บอกกับโมเสส และโมเสสก็ได้ทำสิ่งอัศจรรย์ต่างๆต่อหน้าต่อตาประชาชนชาวอิสราเอล 31 ประชาชนก็เชื่อ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าพระยาห์เวห์ได้มาเยี่ยมเยียนชาวอิสราเอล และเมื่อพวกเขาได้เห็นกับตา พวกเขาต่างก้มลงกราบนมัสการ

Footnotes

  1. 4:16 เขาจะ … สำหรับเขา หรือแปลตรงๆได้ว่า “เขาจะเป็นปากของเจ้าและเจ้าก็จะเป็นพระเจ้าของเขา”
  2. 4:25 มีดหิน มีดคมที่ทำจากหินเหล็กไฟ
  3. 4:25 เท้า ในที่นี้คงหมายถึงอวัยวะเพศ
  4. 4:27 ภูเขาของพระเจ้า คือ “ภูเขาโฮเรบ” หรือเรียกอีกชื่อว่า “ภูเขาซีนาย”