ปัสกา(A)

12 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนในอียิปต์ว่า “นับแต่นี้ไป ให้เดือนนี้เป็นเดือนแรกของเจ้า เป็นเดือนแรกของปีสำหรับเจ้า จงแจ้งแก่ชุมชนอิสราเอลทั้งหมดว่า ในวันที่สิบของเดือนนี้ แต่ละครอบครัวจะคัดลูกแกะ[a]ตัวหนึ่ง หรือหากเป็นครอบครัวเล็กมีคนน้อยกินลูกแกะตัวหนึ่งไม่หมด ก็ให้รวมกับเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ใกล้กันที่สุด เลือกลูกแกะให้เหมาะกับจำนวนคนที่จะกินและตามปริมาณที่แต่ละคนจะกินได้ สัตว์ที่เจ้าเลือกนี้อาจจะเอามาจากฝูงแกะหรือแพะ และต้องเป็นตัวผู้อายุหนึ่งปีไม่มีตำหนิ จงดูแลมันไว้จนถึงเย็นวันที่สิบสี่ของเดือน ซึ่งเป็นเวลาที่ประชากรของชุมชนอิสราเอลทั้งปวงจะต้องฆ่าลูกแกะในตอนพลบค่ำ แล้วให้พวกเขาเอาเลือดบางส่วนทาที่ด้านข้างและด้านบนของวงกบประตูบ้านที่เขากินลูกแกะนั้น คืนวันนั้นทุกคนจงกินแกะหรือแพะย่าง ขนมปังไม่ใส่เชื้อ และผักรสขม อย่ากินเนื้อทั้งดิบๆ หรือเนื้อต้ม แต่จงย่างทั้งหัว ขา และเครื่องใน 10 หากกินไม่หมดในคืนวันนั้น วันรุ่งขึ้นจงเผาส่วนที่เหลือทิ้ง 11 ในการกินเลี้ยงนี้ จงสวมชุดเดินทาง คาดเข็มขัด ใส่รองเท้า และถือไม้เท้าไว้ จงกินอย่างเร่งรีบ การฉลองนี้คือปัสกาขององค์พระผู้เป็นเจ้า

12 “ในคืนเดียวกันนั้นเราจะไปทั่วอียิปต์และประหารลูกหัวปีทั้งหมดไม่ว่าของคนหรือของสัตว์ และจะลงโทษพระทั้งปวงของอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์ 13 บ้านที่เจ้าอยู่จะมีเลือดเป็นเครื่องหมายสำหรับเจ้า และเมื่อเรามองเห็นเลือดนั้นเราจะผ่านเจ้าไป จะไม่มีภัยพิบัติใดมาแผ้วพานเจ้าเมื่อเราลงโทษอียิปต์

14 “นี่คือวันที่เจ้าต้องรำลึก เจ้าจงถือเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ 15 เจ้าต้องกินขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดเจ็ดวัน ในวันแรกเจ้าจงกำจัดเชื้อออกจากบ้านของเจ้า เพราะผู้ใดกินสิ่งใดที่มีเชื้อจากวันแรกจนถึงวันที่เจ็ดจะถูกตัดออกจากอิสราเอล 16 ในวันแรกและวันที่เจ็ดของพิธีฉลอง จัดให้มีการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ อย่าทำงานใดๆ ในสองวันนั้นนอกจากเตรียมอาหารให้ทุกคนรับประทาน นั่นคือทั้งหมดที่เจ้าทำได้

17 “จงฉลองเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อ เพราะวันนี้คือวันที่เรานำหมู่เหล่าของเจ้าออกจากอียิปต์ จงเฉลิมฉลองวันนี้ให้เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ 18 ตั้งแต่เย็นวันที่สิบสี่จนถึงเย็นวันที่ยี่สิบเอ็ดของเดือนที่หนึ่ง จงกินแต่ขนมปังไม่ใส่เชื้อ 19 ตลอดเจ็ดวันนี้ อย่าให้มีเชื้อทำขนมปังในบ้านของพวกเจ้า และผู้ที่กินสิ่งที่มีเชื้อจะถูกตัดออกจากชุมชนอิสราเอล ไม่ว่าจะเป็นคนต่างด้าวหรือเป็นคนอิสราเอลโดยกำเนิด 20 ไม่ว่าเจ้าอยู่ที่ใด อย่ากินสิ่งใดที่ใส่เชื้อ จงกินแต่ขนมปังไม่ใส่เชื้อเท่านั้น”

21 แล้วโมเสสเชิญผู้อาวุโสของอิสราเอลมาทั้งหมดและบอกคนเหล่านั้นว่า “จงไปคัดเลือกลูกแกะหรือลูกแพะจากฝูงมาสำหรับครอบครัวของท่านแล้วฆ่าแกะปัสกานั้น 22 จงเอากิ่งหุสบกำหนึ่งจุ่มลงในเลือดลูกแกะที่รองไว้ในอ่าง แล้วทาที่ขอบบนของประตูและที่วงกบประตูทั้งสองด้าน อย่าให้ผู้ใดออกไปนอกประตูบ้านตราบจนรุ่งเช้า 23 เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จไปทั่วดินแดนเพื่อประหารชาวอียิปต์ จะทรงเห็นเลือดที่ขอบบนและที่วงกบประตูทั้งสองด้าน พระองค์จะเสด็จผ่านประตูนั้นไป ไม่ทรงอนุญาตให้เพชฌฆาตเข้าไปในบ้านประหารพวกท่าน

24 “จงปฏิบัติตามคำสั่งเหล่านี้โดยถือเป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับท่านและลูกหลานของท่าน 25 เมื่อท่านทั้งหลายเข้าสู่ดินแดนซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานแก่ท่านตามพระสัญญาแล้ว จงถือปฏิบัติพิธีนี้ 26 และเมื่อลูกหลานของท่านถามว่า ‘พิธีนี้มีความหมายอย่างไรสำหรับท่าน?’ 27 จงบอกพวกเขาว่า ‘เป็นการเฉลิมฉลองปัสกาขององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงผ่านบ้านของอิสราเอลในอียิปต์ไป เมื่อทรงประหารชาวอียิปต์และทรงละเว้นบ้านของพวกเรา’ ” แล้วประชาชนต่างกราบลงนมัสการ 28 ประชากรอิสราเอลได้ทำตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสสกับอาโรนทุกประการ

29 เที่ยงคืนวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประหารบุตรหัวปีทั้งหมดในอียิปต์ ตั้งแต่ราชบุตรหัวปีของฟาโรห์ผู้ประทับบนบัลลังก์ลงมาจนถึงบุตรชายหัวปีของนักโทษในคุก ตลอดจนลูกหัวปีของสัตว์ทั้งหลายด้วย 30 ฟาโรห์และข้าราชการตลอดจนชาวอียิปต์ทั้งปวงตื่นขึ้นมากลางดึก ร้องไห้คร่ำครวญดังระงมไปทั่วอียิปต์เพราะทุกบ้านมีคนตาย

การอพยพ

31 ฟาโรห์รับสั่งให้ตามตัวโมเสสกับอาโรนมากลางดึกและตรัสว่า “ไป! เจ้ากับพวกอิสราเอล! จงไปให้พ้นพวกเรา จงไปนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าตามที่เจ้าขอไว้ 32 เอาฝูงสัตว์ไปอย่างที่ว่าไว้และอวยพรเราด้วย”

33 ชาวอียิปต์ต่างเร่งชนอิสราเอลให้รีบออกไปจากประเทศ พวกเขาพูดว่า “ไม่เช่นนั้น เราจะล้มตายกันหมด!” 34 ประชากรอิสราเอลเอาแป้งดิบที่ผสมเสร็จแล้วแต่ยังไม่ใส่เชื้อและเอารางนวดแป้งห่อผ้าแบกไปด้วย 35 พวกเขาทำตามที่โมเสสบอก และขอเครื่องเงินเครื่องทองและเสื้อผ้าจากชาวอียิปต์ 36 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้ชาวอียิปต์ชื่นชอบชาวอิสราเอลและยกข้าวของให้ตามที่พวกเขาขอ ชาวอิสราเอลยึดสิ่งของของชาวอียิปต์ไปด้วยวิธีนี้

37 คืนนั้นชาวอิสราเอลราวหกแสนคน ไม่นับผู้หญิงและเด็ก เดินเท้าออกจากเมืองราเมเสสไปยังเมืองสุคคท 38 มีชนชาติอื่นๆ มากมายร่วมเดินทางและมีฝูงสัตว์จำนวนมากไปกับพวกเขาด้วย 39 เมื่อพวกเขาหยุดพักรับประทานอาหารก็นำแป้งดิบที่ไม่ใส่เชื้อออกมาปิ้ง ที่ไม่ได้ใส่เชื้อก็เพราะถูกขับออกจากอียิปต์ จึงไม่มีเวลาเตรียมอาหาร

40 ชนอิสราเอลอาศัยอยู่ในอียิปต์[b] 430 ปี 41 วันสุดท้ายของ 430 ปีนั้น ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทุกหมู่เหล่าก็ออกจากดินแดนอียิปต์ 42 เพราะว่าในค่ำคืนนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าได้เฝ้าระวังเพื่อนำพวกเขาออกจากอียิปต์ ดังนั้นในคืนวันนี้อิสราเอลทั้งปวงจะเฝ้าระวังอยู่ตลอดคืน เพื่อถวายเกียรติยศแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดทุกชั่วอายุ

กฎของพิธีปัสกา

43 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “ต่อไปนี้เป็นระเบียบของพิธีปัสกาคือ

“ห้ามชาวต่างชาติกินเนื้อลูกแกะปัสกา 44 แต่ทาสที่เจ้าซื้อมาและเข้าสุหนัตแล้วกินได้ 45 ส่วนลูกจ้างหรือแขกต่างเมืองห้ามกิน

46 “จงกินแกะอยู่ในบ้าน อย่ายกออกไปนอกบ้าน และอย่าหักกระดูกของมันเลย 47 ชุมชนอิสราเอลทั้งหมดจะต้องฉลองพิธีนี้

48 “สำหรับคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้า หากต้องการเข้าร่วมปัสกาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจงให้ผู้ชายทุกคนในครัวเรือนของเขาเข้าสุหนัตแล้วจึงเข้าร่วมพิธีได้เหมือนคนเชื้อชาติเดียวกับพวกเจ้า ชายที่ไม่ได้เข้าสุหนัตจะกินแกะปัสกาไม่ได้ 49 กฎข้อนี้ใช้ได้ทั้งกับคนอิสราเอลโดยกำเนิดและกับคนต่างชาติซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้า”

50 ชนอิสราเอลทั้งปวงก็ปฏิบัติตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชาโมเสสกับอาโรนไว้ทุกประการ 51 และในวันนั้นเององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำชนอิสราเอลออกจากดินแดนอียิปต์เป็นหมู่เหล่า

Footnotes

  1. 12:3 คำภาษาฮีบรูสามารถหมายถึงลูกแกะหรือลูกสัตว์ก็ได้ เช่นเดียวกับข้อ 4
  2. 12:40 ฉบับ SamP. และ LXX. ว่าอียิปต์และคานาอัน

วันปลดปล่อย

12 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนในแผ่นดินอียิปต์ว่า “เดือนนี้[a] จะเป็นเดือนแรกสำหรับพวกเจ้า และจะเป็นเดือนแรกของปีสำหรับพวกเจ้าด้วย ให้บอกกับที่ชุมนุมของอิสราเอลทุกคนว่า ‘ในวันที่สิบของเดือนนี้ ให้ผู้ชายแต่ละคนเอาลูกแกะมาหนึ่งตัวสำหรับครอบครัวของเขา คือลูกแกะหนึ่งตัวสำหรับทั้งครัวเรือน ถ้าครอบครัวไหนเล็กเกินไปที่จะกินแกะหมดทั้งตัว ก็ให้เขาและเพื่อนบ้านแบ่งลูกแกะตัวนั้นกัน แบ่งตามจำนวนคนที่อยู่ในครอบครัวของเขา จะต้องมีแกะเพียงพอให้แต่ละคนกินกัน ลูกแกะของพวกเจ้าจะต้องสมบูรณ์แข็งแรง เป็นตัวผู้อายุหนึ่งปี พวกเจ้าอาจใช้ลูกแกะหรือลูกแพะก็ได้ แต่พวกเจ้าต้องดูแลมันจนถึงวันที่สิบสี่ของเดือนนี้ แล้วในตอนเย็นของวันนั้น ชาวอิสราเอลทั้งหมดที่มาชุมนุมกัน ก็จะพากันฆ่าพวกมัน พวกเขาจะต้องเอาเลือดของมันมาทาที่ขอบประตูบ้านที่พวกเขากินกันนั้น ให้เขาทาทั้งด้านบน และขอบประตูทั้งสองด้าน

พวกเขาจะกินเนื้อของมันในคืนนั้น เนื้อนั้นจะต้องเอาไปย่างไฟ กินกับขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟูพร้อมกับผักขม ห้ามกินเนื้อที่ยังดิบอยู่ และห้ามเอาไปต้มน้ำด้วย แต่ให้เอาไปย่างไฟ ทั้งส่วนหัว ส่วนขาและเครื่องใน 10 ต้องกินให้หมด อย่าให้เหลือถึงวันรุ่งขึ้น แต่ถ้าเหลือก็ให้เอาไปเผาให้หมดก่อนเช้า

11 เวลาที่พวกเจ้ากินมันนั้น พวกเจ้าจะต้องเตรียมพร้อม คาดเอวให้กระชับ สวมรองเท้าและถือไม้เท้าไว้ในมือ พวกเจ้าต้องกินอย่างเร่งรีบ เพราะมันคือวันปลดปล่อย[b] ของพระยาห์เวห์

12 ในคืนนี้ เราจะผ่านเข้าไปในแผ่นดินอียิปต์ เราจะฆ่าลูกชายหัวปี[c] ทั้งหมดในแผ่นดินอียิปต์ ไม่ว่าจะเป็นลูกคนหรือลูกสัตว์ เราจะตัดสินลงโทษพระทั้งหมดของอียิปต์ เพราะเราคือยาห์เวห์ 13 เลือดที่ทาไว้ที่ขอบประตูบ้านที่พวกเจ้าอยู่นั้น จะเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นบ้านของพวกเจ้า เมื่อเราเห็นเลือดนั้นเราจะข้ามพวกเจ้าไป[d] และจะไม่มีภัยพิบัติใดๆเกิดขึ้นกับพวกเจ้า เมื่อเราทำลายแผ่นดินอียิปต์

14 พวกเจ้าจะต้องจดจำคืนนี้ไว้ให้ดี พวกเจ้าจะต้องเฉลิมฉลองมันเป็นเทศกาลหนึ่งให้กับพระยาห์เวห์ และพวกเจ้าจะต้องเฉลิมฉลองมันตลอดชั่วลูกชั่วหลานของเจ้า เป็นประเพณีที่ยึดถือตลอดไป 15 พวกเจ้าจะต้องกินขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟู เป็นเวลาเจ็ดวัน แต่ในวันแรก พวกเจ้าจะต้องเอาเชื้อฟูออกไปจากบ้านให้หมด เพราะใครก็ตามที่กินเชื้อฟูเข้าไป คนๆนั้นจะต้องถูกตัดออกจากคนอิสราเอล ตั้งแต่วันแรกไปจนถึงวันที่เจ็ด 16 ในวันแรกและวันที่เจ็ด พวกเจ้าจะจัดการชุมนุมอันศักดิ์สิทธิ์ จะต้องไม่มีใครทำงานในวันนั้น ยกเว้นการจัดเตรียมอาหารให้คนกิน 17 พวกเจ้าจะต้องรักษาเทศกาลการกินขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูนี้ไว้ เพราะในวันนี้เองที่เราได้นำกองทัพของพวกเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ พวกเจ้าจะต้องรักษาวันนี้ให้กับลูกหลานของเจ้าจนเป็นประเพณีที่สืบทอดกันตลอดไป 18 ในตอนเย็นของวันที่สิบสี่ของเดือนแรก พวกเจ้าจะกินขนมปังไม่ใส่เชื้อฟู ไปจนถึงตอนเย็นของวันที่ยี่สิบเอ็ดในเดือนเดียวกัน 19 ตลอดเจ็ดวันนี้ พวกเจ้าจะต้องไม่เก็บเชื้อฟูไว้ในบ้านของพวกเจ้า เพราะทุกคนที่ไปกินของที่ใส่เชื้อฟู ไม่ว่าจะเป็นคนต่างถิ่นที่มาอาศัยอยู่กับเจ้า หรือเจ้าของถิ่นเองก็ตามจะต้องถูกตัดออกจากชุมนุมชาวอิสราเอล 20 พวกเจ้าจะต้องไม่กินเชื้อฟูเลย พวกเจ้าต้องกินขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟูในทุกหนทุกแห่งที่พวกเจ้าไปอยู่’”

21 โมเสสเรียกพวกผู้อาวุโสชาวอิสราเอลทั้งหมดมาพบ และพูดว่า “ให้พวกท่านไปทำตามนี้ คือให้ไปเลือกลูกแกะมาหนึ่งตัวสำหรับครอบครัวของพวกท่าน และฆ่ามันเป็นลูกแกะสำหรับวันปลดปล่อย 22 เอากิ่งหุสบ[e] มาจุ่มเลือดของมันที่อยู่ในอ่าง และเอาเลือดนั้นไปทาตรงขอบประตู ทั้งด้านบนและด้านข้างทั้งสอง และห้ามไม่ให้ใครออกจากบ้านจนกว่าจะเช้า 23 เมื่อพระยาห์เวห์ผ่านมาเพื่อทำลายอียิปต์ และเห็นเลือดที่อยู่บนขอบประตู ทั้งด้านบนและด้านข้างทั้งสอง พระยาห์เวห์จะได้ผ่านประตูนั้นไป และจะไม่ให้ผู้ทำลายเข้าไปในบ้านเพื่อฆ่าพวกท่าน 24 พวกท่านต้องรักษาคำสั่งนี้ให้เป็นประเพณีสำหรับตัวท่านและลูกหลานของท่านตลอดกาล 25 เมื่อพวกท่านมาถึงแผ่นดินที่พระยาห์เวห์จะให้กับพวกท่านตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้แล้วนั้น ก็ให้พวกท่านยังคงรักษาพิธีนี้ต่อไป 26 เมื่อลูกหลานของท่านถามว่า ‘พิธีนี้มีความหมายอะไร’ 27 ก็ให้พวกท่านตอบว่า ‘มันคือการบูชาลูกแกะในวันปลดปล่อยให้กับพระยาห์เวห์ พระองค์ได้ผ่านพ้นบ้านของชาวอิสราเอลไป ตอนที่พระองค์ทำลายอียิปต์ แต่พระองค์ทำให้พวกเราที่อยู่ในบ้านปลอดภัย’” แล้วประชาชนต่างก้มกราบลง นมัสการพระองค์

28 ชาวอิสราเอลทั้งหมดแยกย้ายกันไปทำตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสกับอาโรนไว้ พวกเขาได้ไปลงมือทำตามนั้น

29 ในตอนเที่ยงคืน พระยาห์เวห์เริ่มฆ่าลูกหัวปีทั้งหมดในแผ่นดินอียิปต์ ตั้งแต่ลูกชายหัวปีของฟาโรห์ผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์ ไปจนถึงลูกชายหัวปีของคนที่ถูกขังคุกอยู่ รวมทั้งลูกหัวปีตัวผู้ของสัตว์ทุกตัว 30 ฟาโรห์กับพวกข้าราชการทั้งหมด รวมทั้งคนอียิปต์ทุกคน ต่างตื่นขึ้นมาในคืนนั้น และก็มีเสียงร้องไห้อย่างหนักไปทั่วอียิปต์ เพราะไม่มีบ้านไหนที่ไม่มีคนตาย

ชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์

31 ฟาโรห์ได้เรียกตัวโมเสสและอาโรนเข้าพบกลางดึกคืนนั้น และพูดว่า “ลุกขึ้น ไปให้พ้นจากประชาชนของเรา ทั้งพวกเจ้าและลูกหลานของอิสราเอล ไปรับใช้พระยาห์เวห์ ตามที่พวกเจ้าได้พูดไว้ 32 เอาแกะ และฝูงสัตว์ทั้งหลายของพวกเจ้าไปด้วย ไปซะ และอวยพรให้กับเราด้วย” 33 ชาวอียิปต์ต่างเร่งให้คนอิสราเอลรีบๆออกไปจากแผ่นดินนี้ เพราะพวกเขาพูดว่า “พวกเรากำลังจะตาย”

34 ชาวอิสราเอลได้เอาแป้งดิบที่ยังไม่ได้ใส่เชื้อฟูพร้อมกับอ่างขยำแป้ง ห่อผ้าใส่บ่าแบกไป 35 พวกอิสราเอลทำตามที่โมเสสบอก พวกเขาไปขอเครื่องเงินและเครื่องทองและเสื้อผ้าจากคนอียิปต์ 36 พระยาห์เวห์ทำให้พวกคนอียิปต์มีเมตตาต่อคนอิสราเอล คนอิสราเอลขออะไร คนอียิปต์ก็ให้หมด อย่างนี้คนอิสราเอลได้ปล้นเอาความร่ำรวยของคนอียิปต์ไป

37 ชาวอิสราเอลเดินทางจากเมืองราเมเสสไปถึงเมืองสุคคท มีผู้ชายที่เดินเท้าอยู่ประมาณหกแสนคน ไม่นับเด็กๆ 38 และยังมีคนชาติอื่นๆอีกกลุ่มใหญ่ ที่ร่วมเดินทางมากับพวกเขาด้วย ทั้งยังมีฝูงวัว ฝูงแกะและฝูงสัตว์เลี้ยงอีกจำนวนมหาศาล 39 พวกเขาเอาแป้งดิบที่ติดตัวมา เอามาปิ้งเป็นขนมปังที่ไม่มีเชื้อฟู เพราะแป้งดิบนั้นไม่ได้ใส่เชื้อฟู เพราะพวกเขาถูกไล่ออกจากอียิปต์ เลยไม่มีเวลาที่จะเอ้อระเหย หรือแม้แต่จัดเตรียมอาหารสำหรับพวกเขาเอง

40 ชาวอิสราเอลได้อาศัยอยู่ในอียิปต์[f] เป็นเวลาทั้งสิ้นสี่ร้อยสามสิบปี 41 หลังจากสี่ร้อยสามสิบปีในวันนั้นเอง กองทัพของพระยาห์เวห์ ก็ได้ออกจากแผ่นดินอียิปต์ 42 มันเป็นคืนที่พระยาห์เวห์เฝ้าดู เพื่อนำพวกอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์ในคืนเดียวกันนี้เอง เป็นคืนที่พระยาห์เวห์เฝ้าดูชาวอิสราเอลทั้งหมด รวมถึงลูกหลานของเขา 43 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า “นี่คือกฎสำหรับวันปลดปล่อย ห้ามให้ชาวต่างชาติร่วมกินด้วย 44 ส่วนทาสที่ซื้อมาด้วยเงิน หลังจากที่เจ้าขลิบให้กับเขาแล้ว เขาก็ร่วมกินด้วยได้ 45 ห้ามให้คนที่มาอยู่ชั่วคราวหรือคนรับใช้ที่จ้างมา ร่วมกินด้วย 46 เจ้าควรกินมันอยู่แต่ในบ้านหลังเดียว ห้ามเอาเนื้อของมันออกไปนอกบ้าน และพวกเจ้าต้องไม่หักกระดูกของมันด้วย 47 ที่ชุมนุมของชาวอิสราเอลทั้งหมดจะต้องรักษากฎนี้ไว้ 48 ถ้าคนต่างชาติที่อยู่กับเจ้า อยากจะมีส่วนร่วมในพิธีปลดปล่อยของพระยาห์เวห์ด้วย ผู้ชายทั้งหมดที่อยู่กับเขา จะต้องถูกขลิบเสียก่อน แล้วเขาถึงจะเข้ามามีส่วนร่วมในพิธีได้ เขาจะเป็นเหมือนคนในชาติอิสราเอลนั้นแล้ว แต่คนที่ไม่ได้ถูกขลิบจะร่วมกินด้วยไม่ได้ 49 กฎข้อนี้จะใช้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนท้องถิ่น หรือคนต่างชาติที่อยู่ท่ามกลางพวกเจ้า”

50 ชาวอิสราเอลทุกคนก็ได้ทำตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งกับโมเสสและอาโรนไว้ทุกอย่าง พวกเขาได้ลงมือทำตามนั้น 51 ในวันนั้นเอง พระยาห์เวห์ได้นำลูกหลานของอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์เป็นขบวน[g]

Footnotes

  1. 12:2 เดือนนี้ หมายถึงเดือนอาบีบ (หรือนีสาน) อยู่ประมาณกลางเดือนมีนาคมไปจนถึงกลางเดือนเมษายน
  2. 12:11 วันปลดปล่อย ในคำฮีบรูหมายถึง “ข้ามไป” “ผ่านพ้นไป” “ปกป้อง” หรือ “ไว้ชีวิต”
  3. 12:12 ลูกชายหัวปี คือลูกชายที่เกิดหัวปีของครอบครัว ในสมัยโบราณถือว่าลูกชายหัวปีมีความสำคัญมาก
  4. 12:13 ข้ามพวกเจ้าไป หรือ “ป้องกัน”
  5. 12:22 กิ่งหุสบ พืชชนิดหนึ่งลำต้นยาวประมาณ 3 นิ้ว มีใบและก้านเหมือนเส้นผม สามารถใช้แทนแปรงได้
  6. 12:40 อียิปต์ ในฉบับแปลภาษากรีกโบราณและภาษาสมาริตันเขียนไว้ว่า “อียิปต์และคานาอัน” คำนี้น่าจะหมายความว่าพวกเขาได้นับจำนวนปีจากช่วงเวลาที่อับราฮัมลงไปอียิปต์ ไม่ใช่ช่วงเวลาที่โยเซฟลงไปอียิปต์
  7. 12:51 ขบวน หรือ “เป็นกองๆ” เป็นคำจำกัดความทางทหารและแสดงให้เห็นว่าประชาชนมีการจัดการเหมือนกับ “กองทัพของพระยาห์เวห์”