Add parallel Print Page Options

พระยาห์เวห์จะรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้กับดาวิดหรือเปล่า

บทเพลงมัสคิลของเอธาน จากตระกูลเอศราค

ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์อยู่เสมอ
    ข้าพเจ้าจะป่าวประกาศด้วยปากของข้าพเจ้าถึงความสัตย์ซื่อของพระองค์ให้กับคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า
เพราะข้าพเจ้าว่า “ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
    ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะอยู่นานตราบเท่าท้องฟ้า”
พระองค์พูดว่า “เราทำข้อตกลงกับผู้ที่เราเลือกไว้
    เราให้คำสัตย์สาบานไว้กับดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า
เราจะตั้งราชวงศ์ของเจ้าตลอดไป
    เราจะสร้างบัลลังก์ของเจ้าให้คงอยู่ตลอดชั่วลูกชั่วหลาน” เซลาห์

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ชาวสวรรค์จะสรรเสริญพระองค์สำหรับการอัศจรรย์ต่างๆที่พระองค์ทำ
    ที่ชุมนุมของทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์จะสรรเสริญความสัตย์ซื่อของพระองค์
มีใครบ้างในฟ้าสวรรค์ที่จะมาเท่าเทียมกับพระยาห์เวห์ได้
    มีใครท่ามกลางเทพเจ้าทั้งหลายที่จะมาเปรียบกับพระยาห์เวห์ได้
เมื่อทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์มาชุมนุมกันที่สภา พวกเขาต่างยำเกรงพระยาห์เวห์
    พระองค์นั้นยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามกว่าทูตสวรรค์เหล่านั้นที่อยู่ล้อมรอบพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดเหมือนกับพระองค์
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์มีฤทธิ์อำนาจและสัตย์ซื่อในทุกเรื่อง
พระองค์ปกครองทะเลที่ปั่นป่วน
    และเมื่อคลื่นโหมกระหน่ำพระองค์ปราบพวกมันให้สงบลง
10 พระองค์บดขยี้สัตว์ประหลาดในทะเลที่ชื่อ ราหับ[a]
    พระองค์ทำให้พวกศัตรูของพระองค์แตกกระเจิงด้วยแขนอันทรงพลังของพระองค์
11 ฟ้าสวรรค์เป็นของพระองค์ รวมทั้งทุกสิ่งในโลกเป็นของพระองค์
    พระองค์สร้างพวกมันขึ้นมาทั้งสิ้น
12 พระองค์สร้างทิศเหนือและทิศใต้
    ภูเขาทาโบร์ และภูเขาเฮอร์โมนเต้นและร้องสรรเสริญชื่อของพระองค์ด้วยความยินดี
13 พระองค์มีแขนอันทรงพลัง
    มือของพระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยฤทธิ์เดช มือขวาของพระองค์ชูขึ้นในชัยชนะ
14 อาณาจักรของพระองค์ตั้งอยู่บนความดีงามและความยุติธรรม
    ความจงรักภักดีและความเชื่อถือได้เดินแถวอยู่ตรงหน้าพระองค์
15 คนเหล่านั้นที่เรียนรู้ที่จะร้องสรรเสริญพระองค์ มีเกียรติจริงๆ
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ พวกเขาดำเนินชีวิตในความสว่างที่ส่องออกมาจากใบหน้าของพระองค์
16 พวกเขาชื่นชมยินดีที่จะสรรเสริญชื่อของพระองค์ตลอดทั้งวัน
    พวกเขาได้รับชัยชนะเนื่องจากความยุติธรรมของพระองค์
17 เพราะพระองค์เป็นพละกำลังอันทรงเกียรติของพวกเขา
    และพวกเราได้รับชัยชนะ[b] เมื่อพระองค์พอใจพวกเรา
18 เพราะโล่กำบัง[c] ของพวกเรามาจากพระยาห์เวห์
    กษัตริย์ของพวกเรามาจากองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล[d]

19 ครั้งหนึ่ง พระองค์พูดในนิมิตกับพวกที่สัตย์ซื่อกับพระองค์ว่า “เราได้ให้ความช่วยเหลือกับนักรบคนหนึ่ง
    เรายกย่องคนหนุ่มคนหนึ่งจากคนธรรมดาทั่วไป
20 เราพบดาวิด ผู้รับใช้ของเรา
    และเราเจิมเขาด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
21 มือของเราจะค้ำจุนเขาไว้
    แขนของเราจะทำให้เขาแข็งแรง
22 พวกศัตรูของเขาจะไม่ชนะเขาด้วยเล่ห์เพทุบาย
    ไม่มีทางที่คนชั่วจะสามารถชนะเขาได้
23 เราจะบดขยี้ศัตรูของเขาต่อหน้าเขา
    เราจะฟาดคนเหล่านั้นที่เกลียดชังเขาให้ล้มลง
24 ความสัตย์ซื่อและความรักมั่นคงของเราจะคงอยู่กับเขา
    และเขาจะได้รับชัยชนะจากฤทธิ์อำนาจของเรา
25 เราจะแผ่ขยายอำนาจของเขาให้อยู่เหนือทะเลและแม่น้ำ[e]
26 เขาจะพูดกับเราว่า ‘พระองค์คือพ่อของข้าพเจ้า
    พระเจ้าของข้าพเจ้าและหินกำบังที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด’
27 เราจะให้เขาเป็นลูกชายหัวปีของเรา
    เป็นผู้สูงสุดเหนือกษัตริย์ทั้งปวงบนโลกนี้
28 ความรักมั่นคงของเราจะอยู่กับเขาตลอดไป
    ข้อตกลงระหว่างเรากับเขาจะมั่นคง
29 เราจะตั้งราชวงศ์ของเขาไว้ตลอดไป
    อาณาจักรของเขาจะคงอยู่ต่อไปนานตราบเท่ากับฟ้าสวรรค์
30 ถึงแม้ลูกหลานของเขาจะละทิ้งกฎของเรา
    และไม่เชื่อฟังกฎระเบียบของเรา
31 ถึงแม้พวกเขาจะละเมิดกฎเกณฑ์ต่างๆของเรา
    และไม่รักษาคำสั่งต่างๆของเรา
32 แล้วเราจะลงโทษพวกเขาสำหรับความผิดต่างๆของเขา
    และหวดเขาสำหรับความผิดบาปของเขา
33 แต่เราก็จะไม่มีวันเอาความรักมั่นคงของเราไปจากดาวิด
    เราจะไม่มีวันหักหลังหรือไม่สัตย์ซื่อต่อเขา
34 เราจะไม่มีวันละเมิดคำมั่นสัญญาที่เราทำกับเขา
    เราจะไม่มีวันกลับคำพูดในสิ่งที่เราสัญญากับเขา
35 เราได้สาบานครั้งเดียวตลอดไปโดยอ้างความศักดิ์สิทธิ์ของเราเป็นประกัน
    และเราจะไม่โกหกดาวิด
36 ราชวงศ์ของเขาจะคงอยู่ตลอดไป
    บัลลังก์ของเขาจะคงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไปเหมือนดวงอาทิตย์
37 มันจะคงอยู่ตลอดไปเหมือนดวงจันทร์
    มันจะมั่นคงเหมือนท้องฟ้า” เซลาห์

38 แต่พระเจ้า พระองค์ได้ละทิ้งกษัตริย์และจากไป
    พระองค์โกรธผู้ที่พระองค์ได้เจิมไว้
39 พระองค์ยกเลิกข้อตกลงที่ทำไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์
    พระองค์ลบหลู่มงกุฎของเขาด้วยการโยนทิ้งลงดิน
40 พระองค์พังกำแพงรอบเมืองของเขาจนหมดสิ้น
    พระองค์ทำให้พวกป้อมปราการของเขากลายเป็นซากปรักหักพัง
41 คนที่เดินผ่านไปมาก็ได้ปล้นเขา
    ชนชาติทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบต่างพากันพูดเหยียดหยามเขา
42 พระองค์ทำให้พวกศัตรูของเขาชูมือ-ขวาขึ้นในชัยชนะ
    และทำให้ศัตรูทั้งหลายของเขาเฉลิมฉลองกัน
43 พระองค์หันคมดาบของเขาไปจากศัตรูของเขา
    และไม่ยอมช่วยเขาสู้รบ
44 พระองค์ทำให้สง่าราศีของเขาจบสิ้นลง
    และขว้างบัลลังก์ของเขาจากที่ของมันลงบนดิน
45 พระองค์ทำให้เขาแก่ก่อนวัย
    และห่อเขาไว้ในความละอาย เซลาห์

46 ข้าแต่พระยาห์เวห์ มันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน พระองค์จะซ่อนตัวพระองค์ตลอดไปหรือ
    ความโกรธของพระองค์จะเผาผลาญไปอีกนานแค่ไหน
47 อย่าลืมว่า ชีวิตข้าพเจ้านั้นสั้นเหลือเกิน
    พระองค์สร้างมนุษย์ทุกคนให้มาพบกับจุดจบที่ว่างเปล่า
48 จะมีใครมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องตาย
    ใครจะเอาตัวรอดจากอำนาจของความตาย เซลาห์

49 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต ความรักมั่นคงของพระองค์ที่พระองค์แสดงในอดีตหายไปไหน
    เป็นความรักที่พระองค์เคยสาบานไว้กับดาวิดด้วยความสัตย์ซื่อ
50 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต โปรดระลึกถึงความอับอายที่พวกผู้รับใช้ของพระองค์ต้องทน
    คำเยาะเย้ยจากชนชาติทั้งหลายที่ข้าพเจ้าต้องแบกรับไว้เต็มอก
51 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ศัตรูของพระองค์เยาะเย้ย
    พวกเขาเยาะเย้ยกษัตริย์ที่พระองค์ได้เจิมไว้

52 สรรเสริญพระยาห์เวห์ ตลอดไป
    เอเมน[f] และเอเมน

Footnotes

  1. 89:10 ราหับ นางเป็นสัตว์ประหลาดในทะเล ในเทพนิยายของชาวคานาอัน ที่เชื่อว่าก่อความอลหม่าน สับสนวุ่นวาย นางราหับเป็นสัญลักษณ์ของพวกศัตรูของพระเจ้าหรือสิ่งชั่วร้าย
  2. 89:17 ชัยชนะ หรือแปลตรงๆได้ว่า “พระองค์ยกเขาสัตว์ของเราขึ้น”
  3. 89:18 โล่กำบัง หมายถึง “กษัตริย์”
  4. 89:18 เพราะโล่กำบัง … องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล ข้อนี้แปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “โล่กำบังของเราคือพระยาห์เวห์ กษัตริย์ของเราคือองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล”
  5. 89:25 ทะเลและแม่น้ำ หรือ ทางทิศตะวันตกและตะวันออก นี่อาจหมายถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตลอดไปจนถึงประเทศแถบแม่น้ำไนล์ และแม่น้ำยูเฟรติส
  6. 89:52 เอเมน เป็นภาษาฮีบรู หมายถึง ความจริง ความสัตย์จริง ซึ่งถูกกล่าวขึ้นเพื่อแสดงการเห็นด้วย

ความรักอันมั่นคงของพระเจ้า

เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของเอธาน ชาวเอศราค

ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงความรักอันมั่นคงของพระผู้เป็นเจ้าไปตลอดกาล
    ข้าพเจ้าจะทำให้ความสัตย์จริงของพระองค์เป็นที่รู้จักไปทุกกาลสมัยด้วยปากของข้าพเจ้า
เพราะข้าพเจ้าได้ประกาศแล้วว่า ความรักอันมั่นคงของพระองค์จะยืนยงตลอดกาล
    พระองค์สร้างความสัตย์จริงอย่างมั่นคงในฟ้าสวรรค์
พระองค์กล่าวว่า “เราได้ทำพันธสัญญากับผู้ที่ได้รับเลือกไว้
    เราได้ปฏิญาณกับดาวิด ผู้รับใช้ของเรา
‘เราจะทำให้เชื้อสายของเจ้าสืบต่อกันไปจนชั่วนิรันดร์กาล
    ทำให้บัลลังก์ของเจ้ามั่นคงทุกชั่วอายุคน’” เซล่าห์

โอ พระผู้เป็นเจ้า สวรรค์ได้สรรเสริญการกระทำอัศจรรย์ของพระองค์
    และความสัตย์จริงของพระองค์ในที่ประชุมของผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย
ด้วยว่า จะหาใครในสวรรค์ที่เท่าเทียมกับพระผู้เป็นเจ้าได้
    ใครบ้างในหมู่ชาวสวรรค์ที่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า
พระเจ้าเป็นที่น่าเกรงขามอย่างยิ่งในสภาของผู้บริสุทธิ์ทั้งปวง
    ยิ่งใหญ่และเยี่ยมยอดเหนือกว่าใครๆ ที่อยู่รอบข้างพระองค์
พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธา
    ใครบ้างเป็นเหมือนพระองค์ พระองค์มีมหิทธานุภาพ โอ พระผู้เป็นเจ้า
    และความสัตย์จริงของพระองค์อยู่โดยรอบพระองค์
คลื่นทะเลอยู่ภายใต้การควบคุมของพระองค์
    เวลาคลื่นสูงขึ้น พระองค์ก็ทำให้สงบลง
10 พระองค์ปราบราหับ[a]จนราบคาบอย่างซากศพ
    พระองค์ทำให้พวกศัตรูกระเจิดกระเจิงด้วยอานุภาพของพระองค์
11 ฟ้าสวรรค์เป็นของพระองค์ แผ่นดินโลกก็เช่นกัน
    พระองค์ก่อตั้งโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในโลกขึ้นมา
12 พระองค์สร้างทิศเหนือและทิศใต้
    ภูเขาทาโบร์และเฮอร์โมนสรรเสริญพระนามของพระองค์ด้วยความยินดี
13 แขนของพระองค์กอปรด้วยฤทธานุภาพ
    มือพระองค์มีพละกำลัง และมือขวายกขึ้นสูง
14 ความชอบธรรมและความเป็นธรรมคือรากฐานแห่งบัลลังก์ของพระองค์
    ความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงตั้งอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์
15 ชนชาติที่รู้จักร้องเพลงสรรเสริญก็เป็นสุข
    โอ พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจะดำเนินชีวิตในความสว่างของพระองค์
16 เขาจะรื่นเริงใจในพระนามของพระองค์ตลอดวันเวลา
    และจะโห่ร้องในความชอบธรรมของพระองค์
17 เพราะพระองค์เป็นพระบารมีแห่งพละกำลังของพวกเขา
    พระองค์โปรดปรานที่จะชูพละกำลังของพวกเรา
18 โล่ป้องกันเราเป็นของพระผู้เป็นเจ้า
    กษัตริย์เราเป็นขององค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

19 นานมาแล้ว พระองค์กล่าวกับผู้ภักดีของพระองค์ในภาพนิมิตว่า
    “เราให้ความช่วยเหลือแก่ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่ง
    เรายกคนหนึ่งที่ได้เลือกไว้ขึ้นจากชนชาติ
20 เราได้พบดาวิดผู้รับใช้ของเรา
    เราเจิมเขาด้วยน้ำมันอันบริสุทธิ์
21 มือของเราจะค้ำจุนเขาอย่างมั่นคง
    และแขนของเราจะทำให้เขาเก่งกาจ
22 ไม่มีศัตรูใดๆ จะเอาชนะเขาได้
    ไม่มีคนชั่วคนไหนที่จะลบหลู่เขาได้
23 เราจะขยี้พวกข้าศึกต่อหน้าเขา
    และฆ่าคนที่เกลียดชังเขา
24 ความสัตย์จริงและความรักอันมั่นคงของเราจะอยู่กับเขา
    พละกำลังของเขาจะถูกเชิดชูโดยนามของเรา
25 เราจะวางมือข้างหนึ่งของเขาที่ทะเล
    และมือขวาของเขาวางที่แม่น้ำ
26 เขาจะส่งเสียงร้องถึงเราว่า ‘พระองค์เป็นบิดาของข้าพเจ้า
    พระเจ้าของข้าพเจ้า และศิลาแห่งความรอดพ้นของข้าพเจ้า’
27 เราจะให้เขาเป็นบุตรหัวปีของเรา
    ผู้อยู่เหนือบรรดากษัตริย์ของแผ่นดินโลก
28 เราจะรักษาความรักอันมั่นคงของเราเพื่อเขาไปตลอดกาล
    พันธสัญญาของเราที่มีต่อเขาจะมั่นคง
29 เราจะสถาปนาเชื้อสายของเขาให้สืบต่อกันไปตลอดกาล
    บัลลังก์ของเขาจะยืนยงตราบที่ท้องฟ้าจะคงอยู่
30 หากว่าผู้สืบเชื้อสายของเขาละเลยกฎบัญญัติของเรา
    และไม่ดำเนินตามคำสั่งของเรา
31 ถ้าพวกเขาฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของเรา
    และไม่รักษาบัญญัติของเรา
32 เราจะลงโทษบาปของพวกเขาด้วยไม้เรียว
    และความชั่วด้วยการเฆี่ยน
33 แต่เราจะไม่พรากความรักอันมั่นคงของเราไปจากดาวิด
    และไม่คืนความสัตย์จริงที่เรามีต่อเขา
34 เราจะไม่ฝ่าฝืนพันธสัญญาของเรา
    หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราได้สัญญาไว้
35 เราได้ปฏิญาณในความบริสุทธิ์ของเราไว้ครั้งเดียวเป็นพอ
    เราไม่หลอกลวงดาวิด
36 เชื้อสายของเขาจะคงอยู่ไปตลอดกาล
    และบัลลังก์ของเขาเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ส่อง ณ เบื้องหน้าเรา
37 และจะได้รับการสถาปนาตลอดกาลอย่างดวงจันทร์
    ที่เป็นพยานอันมั่นคง[b]บนท้องฟ้า” เซล่าห์

38 แต่พระองค์ปฏิเสธและไม่ใยดี
    พระองค์กริ้วผู้ที่พระองค์เจิม
39 พระองค์ยกเลิกพันธสัญญากับผู้รับใช้ของพระองค์
    และทำให้มงกุฎของท่านเป็นมลทิน ตกอยู่ในกองธุลี
40 พระองค์ทลายกำแพงเมืองของท่านลงทุกด้าน
    และทิ้งให้หลักอันแข็งแกร่งต้องพังทลายลง
41 ทุกคนที่ผ่านมาก็ริบทุกสิ่งไปจากท่าน
    ท่านกลายเป็นที่ถูกดูหมิ่นของบรรดาเพื่อนบ้าน
42 พระองค์ได้ยกชูมือขวาของข้าศึกของท่าน
    พระองค์ทำให้ศัตรูทั้งปวงของท่านยินดี
43 พระองค์หันคมดาบของท่าน
    และไม่ช่วยท่านในการสงคราม
44 พระองค์ยุติความยิ่งใหญ่ของท่านลง
    และล้มบัลลังก์ของท่านลงสู่พื้นดิน
45 พระองค์ทำให้วันเวลาในวัยหนุ่มของท่านสั้นลง
    พระองค์ให้ท่านสวมใส่ความอับอาย เซล่าห์

46 โอ พระผู้เป็นเจ้า นานเพียงไร พระองค์จะซ่อนไปตลอดกาลหรือ
    ความกริ้วของพระองค์จะลุกเป็นไฟนานเพียงไร
47 ขอพระองค์ระลึกเถิดว่า ชีวิตคนอยู่ได้นานเพียงไร
    พระองค์ได้สร้างบรรดามนุษยชาติโดยเปล่าประโยชน์เพียงไร
48 มนุษย์คนไหนมีชีวิตอยู่โดยไม่เห็นความตาย
    หรือช่วยชีวิตของตนให้พ้นจากเงื้อมมือของแดนคนตาย เซล่าห์

49 โอ พระผู้เป็นเจ้า ความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่เคยสำแดงเป็นคำปฏิญาณ
    ที่พระองค์ได้ทำไว้กับดาวิดอยู่ที่ไหนแล้ว
50 พระผู้เป็นเจ้า ขอระลึกถึงผู้รับใช้ที่ถูกเย้ยหยัน
    และความรู้สึกในใจที่ข้าพเจ้าต้องรับแบกเพราะการดูหมิ่นของชนชาติจำนวนมาก
51 โอ พระผู้เป็นเจ้า เป็นพวกศัตรูของพระองค์ที่เย้ยหยัน
    เขาเย้ยหยันผู้ได้รับการเจิมของพระองค์ทุกฝีก้าว

52 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์
อาเมน และอาเมน

Footnotes

  1. 89:10 ในที่นี้หมายถึงมังกรทะเลที่เป็นตัวแทนพลังแห่งความชั่วร้าย ฉบับโยบ 9:13; 26:12; อิสยาห์ 51:9
  2. 89:37 2 ซามูเอล 7:8-16