Add parallel Print Page Options

การทำลายวิหารและการกลับมาของบุตรมนุษย์

(มก. 13:1-31; ลก. 17:24-37; 21:5-33)

24 เมื่อพระเยซูกำลังเดินออกจากวิหาร พวกศิษย์มาชี้ให้พระองค์ดูตึกต่างๆของวิหาร พระองค์จึงพูดกับพวกเขาว่า “เห็นตึกพวกนี้ไหม เราจะบอกให้รู้ว่า ตึกพวกนี้จะถูกทำลายจนหมดสิ้น ไม่เหลือแม้แต่ซากหินเรียงซ้อนทับกันอีกเลย”

ในขณะที่พระเยซูกำลังนั่งอยู่บนภูเขามะกอกเทศ พวกศิษย์มาหาพระองค์เป็นการส่วนตัว และพูดว่า “ช่วยบอกหน่อยครับว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้ววันที่อาจารย์จะกลับมาและวันสิ้นยุคนั้น จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วจะมีอะไรบอกเหตุให้รู้ก่อนไหมครับว่ามันจะเกิดขึ้นแล้ว”

พระเยซูตอบว่า “ระวังอย่าให้ใครหลอกได้ล่ะ เพราะจะมีหลายคนมาแอบอ้างชื่อของเรา เขาจะบอกว่าตัวเขาเป็นพระคริสต์ และทำให้หลายคนหลงเชื่อ เมื่อคุณได้ยินเสียงสงครามเกิดขึ้นใกล้ๆและได้ข่าวว่ามีสงครามที่อื่น ไม่ต้องตกใจ เพราะมันจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่นั่นยังไม่ใช่วันสุดท้ายของโลก ชนชาติหนึ่งจะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับอีกชนชาติหนึ่ง อาณาจักรนี้จะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับอาณาจักรโน้น จะเกิดการกันดารอาหาร และเกิดแผ่นดินไหวหลายแห่ง แต่นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของปัญหาเหมือนเจ็บท้องเตือนก่อนคลอดลูก

พวกคุณจะถูกจับไปทรมานและถูกฆ่า คนทุกประเทศจะเกลียดคุณ เพราะพวกคุณเป็นศิษย์ของเรา 10 เมื่อถึงเวลานั้น จะมีหลายคนทิ้งความเชื่อไป มีการหักหลังกันและเกลียดชังกัน 11 จะมีคนมากมายมาปลอมตัวเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า และมาหลอกลวงคนจำนวนมาก 12 ความชั่วที่แพร่ไป จะทำให้ความรักของหลายคนมอดไป 13 แต่คนที่ทนได้จนถึงที่สุดจะได้รับความรอด 14 ข่าวดีเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าจะถูกป่าวประกาศไปทั่วโลก เพื่อทุกชาติจะได้ยินเกี่ยวกับข่าวดีนี้ แล้วในที่สุดก็จะถึงวันสิ้นยุค

15 ‘สิ่งที่น่าขยะแขยง’[a] ที่ทำลายวิหารจนราบเรียบเป็นหน้ากลอง ตามที่ดาเนียลผู้พูดแทนพระเจ้าได้บอกไว้นั้น คุณจะได้เห็นตั้งอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์” (คนอ่านต้องทำความเข้าใจกับสิ่งนี้ให้ดี) 16 “เมื่อถึงเวลานั้น ให้คนที่อยู่ในแคว้นยูเดียวิ่งหนีไปที่ภูเขา 17 อย่าให้คนที่อยู่บนดาดฟ้ากลับเข้าไปเก็บของในบ้าน 18 อย่าให้คนที่อยู่ในไร่นา กลับไปเอาเสื้อคลุม 19 ในวันนั้นจะน่ากลัวมากสำหรับผู้หญิงท้องและแม่ลูกอ่อนที่ให้นมลูก 20 อธิษฐานขอให้เวลาที่จะต้องหนีนั้นไม่ใช่หน้าหนาวหรือวันหยุดทางศาสนา[b] 21 เพราะในเวลานั้นจะเกิดความทุกข์ยากอย่างใหญ่หลวงชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่โลกได้เกิดขึ้นจนถึงเดี๋ยวนี้ และจะไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่านี้อีกแล้วในอนาคต 22 ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพระเจ้าไม่ทำให้วันเวลาเหล่านั้นสั้นลง ก็จะไม่มีใครรอดชีวิตเลย แต่เพราะพระองค์เห็นแก่คนที่พระองค์ได้เลือกไว้ พระองค์จึงทำให้วันเวลาเหล่านั้นสั้นลง 23 ในเวลานั้นถ้ามีใครมาบอกว่า ‘ดูสิ นี่ไงพระคริสต์’ หรือ ‘โน่นไงพระองค์’ ก็อย่าไปหลงเชื่อ 24 เพราะจะมีพวกพระคริสต์จอมปลอมและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมเกิดขึ้น และพวกเขาก็จะทำอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์กัน ถ้าเป็นไปได้พวกเขาก็จะหลอกแม้กระทั่งคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้แล้ว 25 จำไว้นะ เราได้เตือนพวกคุณไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว

26 ดังนั้น ถ้ามีใครมาบอกว่า ‘นั่นไงพระคริสต์ อยู่ในที่เปล่าเปลี่ยว’ ก็อย่าออกไป หรือถ้าคนบอกว่า ‘พระคริสต์อยู่นี่ไง ในห้องข้างในนั้น’ ก็อย่าไปหลงเชื่อ 27 เพราะเมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาปรากฏตัว จะเหมือนกับฟ้าแลบทางทิศตะวันออก ที่สามารถมองเห็นได้ในทางทิศตะวันตก 28 และก็เหมือนกับที่ซากศพอยู่ที่ไหน ก็จะเห็นฝูงแร้งอยู่ที่นั่น

29 ‘ทันทีที่วันแห่งความทุกข์ยากนั้นสิ้นสุดลง
    ดวงอาทิตย์จะมืดมิด ดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง
ดวงดาวจะร่วงหล่นจากท้องฟ้า
    พวกผู้มีอำนาจในฟ้าสวรรค์จะถูกสั่นคลอน’[c]

30 ในเวลานั้นจะมีสัญญาณบนท้องฟ้าบอกให้รู้ว่าบุตรมนุษย์กำลังจะเสด็จมา ประชาชนทั้งหมดบนโลกจะร้องไห้คร่ำครวญ และจะมองเห็นบุตรมนุษย์มาบนเมฆในท้องฟ้า มีฤทธิ์อำนาจที่ยิ่งใหญ่และบารมีอันเจิดจ้า 31 แล้วพระองค์จะส่งทูตสวรรค์ของพระองค์ออกไปด้วยเสียงแตรอันดัง พวกทูตสวรรค์จะรวบรวมคนที่พระองค์เลือกไว้แล้ว จากทั่วทุกทิศ จากขอบฟ้าด้านหนึ่งไปสุดขอบฟ้าอีกด้านหนึ่ง

32 ให้เรียนรู้จากต้นมะเดื่อกันเถอะ เมื่อต้นมะเดื่อเริ่มแตกกิ่งก้านและใบอ่อน พวกคุณก็ว่าใกล้ถึงหน้าร้อนแล้ว 33 เช่นเดียวกันเมื่อพวกคุณเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเกิดขึ้น พวกคุณก็รู้ว่าเวลานั้นใกล้มาถึงแล้ว อยู่ที่หน้าประตูนี่เอง 34 เราจะบอกให้รู้ว่า สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจะเกิดขึ้นก่อนที่คนในรุ่นนี้จะตาย 35 สวรรค์และโลกจะสูญสิ้นไป แต่ถ้อยคำของเราจะไม่มีวันสูญหาย

พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไหร่

(มก. 13:32-37; ลก. 17:26-30, 34-36)

36 แต่ไม่มีใครรู้วันเวลานั้นเลย แม้แต่ทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ มีแต่พระบิดาเท่านั้นที่รู้ 37 เมื่อบุตรมนุษย์จะมา ก็จะเหมือนกับในสมัยของโนอาห์ 38 ในสมัยนั้นก่อนที่น้ำจะท่วม ผู้คนได้กินและดื่มกัน แต่งงานกัน และยกลูกให้แต่งงานกัน จนกระทั่งวันที่โนอาห์เข้าไปในเรือ 39 คนพวกนี้ไม่รู้ตัวเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งน้ำท่วมและพัดพาคนพวกนี้ไปหมด เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน 40 ในเวลานั้น เมื่อชายสองคนกำลังทำไร่อยู่ คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้ 41 เมื่อผู้หญิงสองคนกำลังโม่แป้งอยู่ คนหนึ่งจะถูกรับไป และอีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้

42 พวกคุณ ระวังตัวไว้ให้ดี เพราะไม่รู้ว่าองค์เจ้าชีวิตจะมาเมื่อไหร่ 43 อย่าลืมว่า ถ้าเจ้าของบ้านรู้ตัวว่า ขโมยจะขึ้นบ้านตอนไหนในเวลากลางคืน เขาก็จะคอยระวัง ไม่ปล่อยให้ขโมยงัดเข้ามาในบ้านแน่ 44 พวกคุณก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วย เพราะบุตรมนุษย์ จะมาในเวลาที่พวกคุณคาดไม่ถึง

ทาสซื่อสัตย์กับทาสชั่วช้า

(ลก. 12:41-48)

45 ใครเป็นทาสที่ซื่อสัตย์และฉลาด ที่เจ้านายมอบหมายให้ดูแลพวกทาสคนอื่นๆในบ้านเรือนของเขา และให้จัดหาอาหารให้ทาสพวกนั้นกินตามเวลา 46 เมื่อนายกลับมาเห็นทาสคนนั้นทำงานอย่างดี ทาสคนนั้นก็จะได้รับเกียรติจริงๆ 47 เราจะบอกให้รู้ว่า เจ้านายจะแต่งตั้งให้เขาดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา 48 แต่ถ้าทาสคนนั้นชั่วช้า และคิดว่า ‘นายของข้ายังไม่กลับมาหรอก’ 49 แล้วเขาเริ่มทุบตีพวกทาสคนอื่นๆและกินดื่มกับพวกขี้เมา 50 นายของเขาจะกลับมาในวันเวลาที่เขาไม่คาดคิดและไม่ทันรู้ตัว 51 นายของเขาจะตัดเขาออกเป็นชิ้นๆและไล่ให้ไปอยู่กับพวกคนหน้าซื่อใจคด ซึ่งที่นั่นจะมีแต่เสียงร้องไห้โหยหวนอย่างเจ็บปวด

Footnotes

  1. 24:15 สิ่งที่น่าขยะแขยง อ้างมาจากหนังสือ ดาเนียล 9:27; 11:31; 12:11
  2. 24:20 อธิษฐานขอ … วันหยุดทางศาสนา อธิบายเพิ่มเติมว่าทำไมเหตุการณ์ถึงเลวร้ายถ้าเกิดขึ้นในวันหยุด เพราะกฎของชาวยิวห้ามเดินทางในวันหยุดทางศาสนาเกินหนึ่งกิโลเมตร และห้ามขี่ม้า หรือขี่ลาด้วย คนอื่นๆอาจจะห้ามคนที่พยายามจะหนี เพื่อไม่ให้ทำผิดกฎ
  3. 24:29 ดูที่ อิสยาห์ 13:10; 34:4

พระวิหารถูกทำลาย และการสิ้นยุคนี้

24 แล้วพระเยซูก็ออกไปจากพระวิหาร ขณะที่กำลังเดินไปอยู่นั้น เหล่าสาวกของพระองค์ได้ชี้ตึกในบริเวณพระวิหารให้พระองค์ดู พระองค์กล่าวตอบว่า “เจ้าเห็นสิ่งเหล่านี้ใช่ไหม เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า ไม่มีหินก้อนใดซึ่งวางทับซ้อนกันอยู่ที่นี่จะรอดจากการทำลายไปได้”

ขณะที่พระองค์นั่งอยู่บนภูเขามะกอก เหล่าสาวกมาพูดกับพระองค์เป็นการส่วนตัวว่า “โปรดบอกพวกเราเถิดว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด และปรากฏการณ์สำคัญอันใดที่จะบ่งบอกให้รู้ว่า พระองค์จะมาและเป็นการสิ้นยุคนี้” พระเยซูกล่าวตอบว่า “จงระวัง อย่าให้ผู้ใดชักจูงเจ้าไปในทางที่ผิด เพราะว่าจะมีคนจำนวนมากที่จะมาและกล่าวอ้างนามของเราโดยว่า ‘เราเป็นพระคริสต์’ และจะชักจูงคนจำนวนมากไปในทางที่ผิด เจ้าจะได้ยินถึงการสงครามต่างๆ และข่าวลือเรื่องสงคราม ก็อย่าตกใจกลัว เพราะสิ่งเหล่านั้นต้องเกิดขึ้นก่อน แต่การสิ้นสุดจะยังไม่เกิดขึ้นในทันที ประเทศชาติต่างๆ จะต่อสู้กัน และอาณาจักรต่างๆ จะต่อสู้กัน จะเกิดความอดอยากและแผ่นดินไหวตามที่ต่างๆ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการเริ่มต้นความเจ็บปวดเหมือนก่อนคลอดลูก

ในเวลานั้นพวกเขาจะมอบตัวเจ้าให้ถูกข่มเหงและฆ่า และชนทุกชาติจะเกลียดชังเจ้าเหตุเพราะชื่อของเรา 10 คราวนั้นคนจำนวนมากจะละจากความเชื่อ เขาจะทรยศกันและเกลียดชังกัน 11 ผู้เผยคำกล่าวจอมปลอมจำนวนมากจะแสดงตนขึ้น และจะนำคนจำนวนมากไปในทางที่ผิด 12 เป็นเพราะความชั่วร้ายที่เพิ่มมากขึ้น ความรักของคนส่วนใหญ่จึงสลายลง 13 แต่คนที่ยืนหยัดจนถึงที่สุดจะได้ชีวิตรอดพ้น 14 และข่าวประเสริฐของอาณาจักรจะถูกประกาศไปทั่วโลกเพื่อเป็นพยานให้แก่ชนทุกชาติ แล้วก็จะถึงวันสิ้นยุคนี้

15 เมื่อเจ้าเห็นสิ่งที่น่าชังซึ่งทำให้เกิดความวิบัติที่ดาเนียลผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าได้พูดถึง ยืนอยู่ในสถานที่บริสุทธิ์ (ให้ผู้อ่านเข้าใจเถิด)[a] 16 เวลานั้นจงปล่อยให้ผู้คนในแคว้นยูเดียหนีไปยังแถบภูเขา 17 อย่าให้คนที่อยู่บนหลังคาบ้านลงไปขนสิ่งที่อยู่ในบ้านของเขาออกมา 18 อย่าให้คนที่อยู่ในทุ่งนากลับไปหยิบเสื้อตัวนอกของเขา 19 วิบัติจะเกิดแก่หญิงมีครรภ์และมารดาผู้ให้นมลูกในวันนั้น 20 จงอธิษฐานขอว่าเวลาเจ้าหนีไปไม่ใช่ฤดูหนาวหรือวันสะบาโต 21 เพราะในเวลานั้นจะเป็นเวลาแห่งความทุกข์ยากลำบากอันใหญ่หลวงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่แรกสร้างโลกจนถึงเวลานี้ และจะไม่เป็นเช่นนั้นอีก 22 หากว่าพระเจ้าไม่ลดจำนวนวันอันแสนทุกข์ให้น้อยลง ก็จะไม่มีผู้ใดรอดชีวิตได้เลย แต่เพราะเห็นแก่ผู้ที่พระเจ้าได้เลือกไว้ พระองค์จึงลดจำนวนวันลง 23 ในเวลานั้นถ้าใครพูดกับเจ้าว่า ‘ดูสิ พระคริสต์อยู่ที่นี่’ หรือ ‘พระองค์อยู่ที่นั่น’ ก็อย่าเชื่อเขา 24 เพราะบรรดาพระคริสต์จอมปลอมและผู้เผยคำกล่าวจอมปลอมจะแสดงตน และแสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์รวมถึงสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งใหญ่ต่างๆ เพื่อหากว่าเป็นไปได้ ก็จะชักจูงให้แม้ผู้ที่พระเจ้าเลือกไว้ให้หลงไปในทางที่ผิด 25 เราขอบอกพวกเจ้าล่วงหน้าไว้ก่อน 26 ฉะนั้นถ้าพวกเขาพูดกับเจ้าว่า ‘ดูสิ พระองค์อยู่ในถิ่นทุรกันดาร’ ก็จงอย่าตามออกไปที่นั่น หรือว่า ‘ดูสิ พระองค์อยู่ที่ห้องด้านใน’ ก็อย่าเชื่อพวกเขา 27 เพราะว่าฟ้าแลบจากทางทิศตะวันออก และแสงส่องไปยังทิศตะวันตกฉันใด การมาของบุตรมนุษย์ก็จะเป็นฉันนั้น 28 ซากศพอยู่ที่ไหน ฝูงอีแร้งก็จะรุมกันอยู่ที่นั่น

29 ทันทีหลังจากระยะเวลาอันทุกข์ยากลำบาก ดวงอาทิตย์จะมืดลง และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง บรรดาดวงดาวจะตกลงจากฟ้า และบรรดาสิ่งที่ทรงพลังในท้องฟ้าจะสั่นสะเทือน[b] 30 ครั้นแล้วปรากฏการณ์อัศจรรย์ของบุตรมนุษย์จะปรากฏที่ท้องฟ้า และทุกเผ่าพันธุ์ในโลกจะครวญคร่ำร่ำไห้ เขาเหล่านั้นจะเห็นบุตรมนุษย์มาในเมฆด้วยฤทธานุภาพและสง่าราศีอันยิ่งใหญ่ 31 ท่านจะส่งเหล่าทูตสวรรค์ของท่านไปพร้อมกับเสียงแตรใหญ่ เพื่อรวบรวมบรรดาผู้ที่ท่านเลือกไว้จากลมทั้งสี่ คือนับจากสุดฟากฟ้าด้านหนึ่งจนถึงสุดฟากฟ้าอีกด้านหนึ่ง

32 จงเรียนเรื่องอุปมาจากต้นมะเดื่อ เมื่อกิ่งก้านเขียวสดแตกใบอ่อน เจ้าก็รู้ว่าฤดูฝนใกล้จะถึงแล้ว 33 ในทำนองเดียวกัน เมื่อเจ้าเห็นสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ จงรู้เถิดว่าท่านอยู่ใกล้ประตูมากแล้ว 34 เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า คนในช่วงกาลเวลานี้จะไม่อาจล่วงลับไป จนกว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นก่อน 35 สวรรค์และโลกจะดับสูญไป แต่คำของเราจะไม่มีวันสูญหายไป

ใครจะหยั่งรู้อนาคต

36 แต่ไม่มีใครทราบถึงวันและเวลานั้น บรรดาทูตสวรรค์แห่งสวรรค์หรือแม้แต่พระบุตรก็ไม่ทราบเช่นกัน ยกเว้นพระบิดาเพียงพระองค์เดียว 37 การมาของบุตรมนุษย์จะเหมือนกับสมัยของโนอาห์[c] 38 เพราะในสมัยก่อนที่จะถึงวาระน้ำท่วมนั้น ผู้คนกำลังดื่มกิน สมรส และยกให้เป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันที่โนอาห์ได้ลงเรือใหญ่ 39 เขาเหล่านั้นไม่ทันรู้ตัวจนกระทั่งน้ำท่วมทำลายพวกเขาหมดสิ้นฉันใด การมาของบุตรมนุษย์ก็เป็นฉันนั้น 40 จะมีชาย 2 คนอยู่ในนา คนหนึ่งจะถูกพาตัวไป อีกคนหนึ่งถูกทิ้งไว้ 41 หญิง 2 คนจะโม่แป้งอยู่ด้วยกัน คนหนึ่งจะถูกพาตัวไป อีกคนหนึ่งถูกทิ้งไว้ 42 ฉะนั้นจงคอยระวังไว้ เพราะเจ้าไม่รู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าของเจ้าจะมาในวันไหน 43 จงเข้าใจด้วยว่า ถ้าเจ้าของบ้านรู้เวลาว่าขโมยจะมากี่ยาม เขาก็จะคอยระวังไว้แล้ว และไม่ยอมให้ขโมยบุกรุกเข้ามาในบ้านได้ 44 ด้วยเหตุนี้เจ้าต้องเตรียมพร้อมเช่นกัน เพราะบุตรมนุษย์จะมาในยามที่เจ้าไม่ได้คาดคิดไว้

45 ใครเล่าที่เป็นผู้รับใช้ที่ทั้งซื่อสัตย์และชาญฉลาด ที่นายมอบหน้าที่ให้แจกอาหารแก่คนรับใช้อื่นๆ ตามเวลา 46 ผู้รับใช้นั้นจะเป็นสุขเมื่อนายกลับมาพบว่าเขากำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ 47 เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า นายจะมอบหน้าที่ให้เขาดูแลทุกสิ่งที่เขามี 48 แต่ถ้าหัวหน้าคนรับใช้ชั่วร้ายพูดกับตนเองว่า ‘กว่านายของเราจะมาก็อีกนาน’ 49 และเขาก็ทุบตีเพื่อนผู้รับใช้อื่นๆ แล้วดื่มกินจนเมามายกับพวกขี้เมา 50 นายของผู้รับใช้คนนั้นจะมาในวันที่ไม่คาดคิดและในยามที่เขาไม่รู้ 51 นายจะทำโทษอย่างสาหัสสากรรจ์ และให้ไปอยู่กับพวกหน้าไหว้หลังหลอก ณ ที่นั่นจะมีการร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน