คนเลวีกับภรรยาน้อย

19 สมัยนั้นอิสราเอลไม่มีกษัตริย์ปกครอง

มีชายตระกูลเลวีคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม เขาได้พาหญิงสาวคนหนึ่งจากเบธเลเฮมในยูดาห์มาเป็นภรรยาน้อย แต่หญิงนั้นไม่ซื่อสัตย์ต่อสามี นางทิ้งเขากลับไปอยู่บ้านของบิดาที่เบธเลเฮมในยูดาห์ได้สี่เดือน แล้วสามีของนางไปเยี่ยมนางพร้อมคนใช้ของเขาและลาสองตัว เพื่อชักชวนให้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก นางพาเขาเข้าไปในบ้านของบิดา เมื่อบิดาเห็นเขาก็ต้อนรับด้วยความยินดี พ่อตาจึงชวนลูกเขยให้พักอยู่ด้วย เขาก็กินดื่มและพักอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสามวัน

ในวันที่สี่พวกเขาก็ตื่นแต่เช้าเตรียมออกเดินทาง แต่บิดาของหญิงนั้นกล่าวกับบุตรเขยว่า “หาอะไรกินให้ชื่นใจก่อนที่จะไป” ดังนั้นเขาและพ่อตาจึงนั่งลงกินดื่มด้วยกัน ต่อมาพ่อตาได้ชักชวนว่า “ขอให้พักผ่อนให้สำราญอีกสักคืนเถิด” เมื่อชายนั้นลุกขึ้นเตรียมจะไป พ่อตาก็พูดโน้มน้าวอีก ดังนั้นเขาจึงค้างคืนที่นั่น เช้าวันที่ห้า เมื่อเขาลุกขึ้นจะไป พ่อตากล่าวว่า “พักให้สดชื่น คอยจนบ่ายหน่อยแล้วค่อยไป!” แล้วเขากับพ่อตาก็นั่งลงกินด้วยกันอีก

เมื่อชายผู้นั้นกับภรรยาน้อยและคนรับใช้กำลังจะไป พ่อตาก็พูดว่า “นี่ก็จวนจะเย็นแล้ว ค้างอีกสักคืนเถอะ คืนนี้เราจะได้ฉลองอีกครั้ง แล้วพรุ่งนี้ลูกค่อยตื่นแต่เช้าออกเดินทางไป” 10 แต่ชายผู้นั้นยืนกรานไม่ยอมค้างคืน พวกเขาจึงออกเดินทางมุ่งไปยังเยบุส (คือเยรูซาเล็ม) พร้อมด้วยภรรยาน้อยและลาสองตัวที่มีอาน

11 เมื่อพวกเขามาเกือบถึงเยบุสก็ใกล้ค่ำแล้ว คนรับใช้นั้นพูดกับนายว่า “ให้เราแวะพักที่เมืองของชาวเยบุส และค้างคืนกันที่นี่เถิด”

12 นายของเขาตอบว่า “ไม่ได้ เราจะไม่พักอยู่ในเมืองของคนต่างชาติ ซึ่งไม่ใช่ชาวอิสราเอล เราจะไปต่อจนถึงกิเบอาห์” 13 เขากล่าวอีกว่า “ให้เราพยายามไปถึงกิเบอาห์หรือรามาห์ แล้วค่อยค้างคืนที่ใดที่หนึ่ง” 14 ดังนั้นพวกเขาจึงเดินทางต่อไป ขณะที่เขามาถึงกิเบอาห์ในเขตเบนยามิน ดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า 15 เขาหยุดเพื่อจะค้างคืนที่นั่น แต่เนื่องจากไม่มีใครเชิญให้พักด้วย พวกเขาจึงไปนั่งอยู่ที่ลานเมือง

16 เย็นวันนั้นชายชราผู้หนึ่งซึ่งมาจากแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม เขากลับจากทำงานในทุ่งนาเพื่อจะกลับบ้านในกิเบอาห์ (ซึ่งชาวเบนยามินอาศัยอยู่ที่นั่น) 17 เมื่อเห็นนักเดินทางนั่งอยู่ที่ลานเมือง ชายชราผู้นั้นจึงถามว่า “พวกท่านมาจากที่ไหน? และกำลังจะไปที่ไหน?”

18 เขาตอบว่า “พวกเรามาจากเบธเลเฮมในแผ่นดินยูดาห์ กำลังจะกลับไปยังบ้านของเรา ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลในแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม ข้าพเจ้าได้ไปเมืองเบธเลเฮมในแผ่นดินยูดาห์ และขณะนี้กำลังจะไปยังพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าแต่ไม่มีใครเชิญเราเข้าไปในบ้าน 19 เรามีทั้งฟางและหญ้าสำหรับลา และขนมปังกับเหล้าองุ่นสำหรับผู้รับใช้ของท่านคือตัวข้าพเจ้า ภรรยา และคนรับใช้ พวกเราไม่ขาดสิ่งใด”

20 ชายชราผู้นั้นจึงกล่าวว่า “เชิญไปพักที่บ้านของข้าพเจ้า ให้ข้าพเจ้าจัดหาสิ่งที่ท่านต้องการ ขอเพียงอย่าพักที่ลานเมืองนี้เลย” 21 ชายชราจึงพาคนเหล่านั้นไปที่บ้านของเขาและให้อาหารแก่ลา หลังจากที่พวกเขาล้างเท้าแล้ว ก็กินดื่มด้วยกัน

22 ขณะที่พวกเขากำลังรื่นเริงอยู่นั้น ก็มีกลุ่มคนชั่วของเมืองนั้นมาล้อมบ้านชายชราไว้ แล้วทุบประตู พร้อมทั้งตะโกนใส่ชายชราเจ้าของบ้านว่า “จงนำชายคนนั้นที่มาพักอยู่ในบ้านของเจ้าออกมา เพื่อเราจะได้ร่วมเพศกับเขา”

23 เจ้าของบ้านผู้นั้นจึงออกไปข้างนอกพูดกับคนเหล่านั้นว่า “ไม่ได้หรอกเพื่อนเอ๋ย อย่าทำสิ่งเลวทรามต่ำช้าเช่นนั้นเลย เพราะว่าเขาเป็นแขกของข้าพเจ้า อย่าทำสิ่งน่าละอายนี้เลย 24 นี่แน่ะ ข้าพเจ้าจะพาลูกสาวพรหมจารีของข้าพเจ้าและภรรยาน้อยของชายคนนั้นออกมาให้พวกท่านทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่อย่าทำสิ่งน่าละอายกับชายคนนั้นเลย”

25 แต่พวกเขาไม่ยอมฟัง ชายตระกูลเลวีจึงผลักภรรยาน้อยออกไป คนเหล่านั้นก็รุมข่มขืนและทำร้ายนางตลอดคืน แล้วปล่อยตัวนางมาเมื่อรุ่งสาง 26 นางจึงกลับมาที่บ้านที่สามีของนางพักอยู่ แล้วล้มลงที่หน้าประตูบ้าน นอนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งสว่าง

27 เมื่อสามีของนางตื่นขึ้นในตอนเช้าและเปิดประตูออกมาเพื่อเดินทางต่อไป ก็พบภรรยาน้อยของตนล้มฟุบนอนอยู่ที่นั่น มือสองข้างพาดธรณีประตู 28 เขาจึงกล่าวกับนางว่า “ลุกขึ้นไปกันเถอะ” แต่ไม่มีเสียงตอบ เขาจึงช้อนร่างของนางพาดบนหลังลา แล้วพากลับบ้าน

29 เมื่อถึงบ้านแล้วก็หยิบมีดมาฟันร่างของนางแยกเป็นสิบสองท่อน ส่งไปยังเผ่าต่างๆ ของอิสราเอลเผ่าละท่อน 30 ทุกคนที่เห็นพูดกันว่า “ตั้งแต่วันที่อิสราเอลออกมาจากอียิปต์ ไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้เลย ลองคิดดู! ลองพิจารณาดู! โปรดบอกพวกเราว่าจะต้องทำอย่างไร!”

ชาวเลวีและภรรยาน้อยของเขา

19 ในสมัยนั้น ในคราวที่ไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล มีชาวเลวีคนหนึ่งกำลังหาที่พักในบริเวณที่ห่างจากชุมชนในแถบภูเขาแห่งเอฟราอิม เขารับเอาหญิงคนหนึ่งจากเบธเลเฮมในแคว้นยูดาห์มาเป็นภรรยาน้อย นางไม่ซื่อสัตย์ต่อเขา ทิ้งเขาไป และกลับไปบ้านบิดาที่เบธเลเฮมในยูดาห์ หลังจากที่ได้กลับไปอยู่ที่นั่นได้ 4 เดือน สามีของนางก็ไปหานางเพื่อเกลี้ยกล่อมให้นางกลับไปอยู่กับเขา เขาพาคนรับใช้และลา 2 ตัวไปด้วย นางเชิญเขาเข้าบ้านบิดา เมื่อบิดานางเห็นและพบกับเขาแล้ว ก็ต้อนรับเขาเป็นอย่างดี พ่อตาของเขาคือบิดาของหญิงคนนี้ ก็ขอให้เขาพักอยู่ด้วยกัน เขาจึงพักอยู่ 3 วัน ดังนั้นพวกเขาดื่มกินและพักแรมอยู่ที่นั่น พอวันที่สี่ พวกเขาตื่นแต่เช้าตรู่ เขาก็เตรียมพร้อมจะจากไป แต่บิดาของผู้หญิงพูดกับบุตรเขยของตนว่า “จงกินอาหารให้สบายใจก่อน เรียบร้อยแล้วจึงไป” เขา 2 คนจึงนั่งลงดื่มกินด้วยกัน แล้วบิดาของผู้หญิงพูดกับชายคนนั้นว่า “อยู่ค้างอีกคืนเถิด ให้เจ้าสำราญใจเสียก่อน” เมื่อชายคนนั้นลุกขึ้นจะจากไป พ่อตาของเขาก็รบเร้า จนเขาต้องค้างอยู่ที่นั่นอีกคืนหนึ่ง พอวันที่ห้า เขาตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อจะจากไป บิดาของผู้หญิงพูดว่า “จงให้สบายใจก่อน แล้วรอไปจนถึงบ่ายเถิด” ดังนั้นทั้งสองจึงรับประทานอาหารกัน เมื่อชายคนนั้นกับภรรยาน้อยและคนรับใช้ลุกขึ้นเพื่อจะจากไป พ่อตาของเขาคือบิดาของหญิงคนนั้นพูดกับเขาว่า “ดูเถิด นี่ก็เกือบเย็นแล้ว จงอยู่ค้างคืนเถิด วันก็เกือบจะล่วงแล้ว จงค้างแรมที่นี่ และให้เจ้าสำราญใจเสียก่อน พรุ่งนี้เจ้าจึงลุกขึ้นออกเดินทางแต่เช้าตรู่ และกลับบ้านได้”

10 แต่ชายคนนั้นไม่ยอมค้างคืนอีก เขาลุกขึ้นจากไป เมื่อมาถึงตรงข้ามกับเมืองเยบุส (คือเยรูซาเล็ม) ลา 2 ตัวที่มีอานกับภรรยาน้อยก็อยู่กับเขา 11 เมื่อพวกเขามาเกือบถึงเยบุสแล้ว ก็ใกล้ค่ำ คนรับใช้จึงพูดกับนายว่า “เราไปแวะที่เมืองของชาวเยบุส และค้างคืนที่นั่นกันเถิด” 12 เจ้านายพูดกับเขาว่า “พวกเราจะไม่แวะเข้าไปในเมืองของชาวต่างแดนที่ไม่ใช่ชาวอิสราเอล แต่เราจะเลยไปอีกจนถึงเมืองกิเบอาห์” 13 และเขาพูดกับชายหนุ่มของเขาว่า “มาเถิด เราไปกันให้ถึงกิเบอาห์หรือรามาห์ แล้วจึงค้างคืนเสียที่ใดที่หนึ่ง” 14 ดังนั้นพวกเขาจึงเดินทางต่อไป เมื่อมาใกล้กิเบอาห์ซึ่งเป็นของเบนยามินแล้ว ก็พอดีกับเวลาที่ดวงอาทิตย์ตก 15 พวกเขาจึงแวะที่นั่นเพื่อจะพักแรมที่กิเบอาห์ เขาเข้าไปนั่งที่ลานเมือง เพราะไม่มีใครรับพวกเขาให้เข้าไปค้างแรมในบ้าน

16 ดูเถิด มีชายชราคนหนึ่งกำลังกลับจากงานที่ไร่ในเวลาเย็น ชายคนนี้มาจากแถบภูเขาของเอฟราอิม ขณะนั้นเขาพักแรมอยู่ที่กิเบอาห์ซึ่งเป็นที่ที่ชาวเบนยามินอาศัยอยู่ 17 เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นผู้เดินทางที่อยู่ที่ลานเมือง ชายชราจึงพูดขึ้นว่า “ท่านกำลังจะไปไหน และท่านมาจากไหน” 18 เขาตอบว่า “พวกเรากำลังเดินทางผ่านมาจากเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ เรากำลังจะไปยังที่ที่ห่างจากชุมชนในแถบภูเขาของเอฟราอิม ซึ่งเป็นที่ที่เราจากมา เราไปเบธเลเฮมในยูดาห์มา และกำลังจะไปยังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า แต่ไม่มีใครรับเราเข้าบ้าน 19 เรามีฟางและอาหารสำหรับลาของเรา มีขนมปังและเหล้าองุ่นสำหรับเราเองและคนรับใช้หญิงของท่าน และสำหรับชายหนุ่มกับคนรับใช้อื่นๆ ของท่าน ไม่ขาดสิ่งใดเลย” 20 ชายชราพูดว่า “สันติสุขจงอยู่กับท่าน เราจะดูแลทุกสิ่งที่ท่านต้องการ ขอเพียงอย่าค้างแรมที่ลานเลย” 21 ดังนั้นเขาจึงพาเขาเข้าไปในบ้าน และให้อาหารลา เมื่อล้างเท้าเรียบร้อยแล้วก็ดื่มกินกัน

22 ขณะที่พวกเขากำลังสำราญใจอยู่ ดูเถิด พวกชายชั่วร้ายในเมืองบางคนมาล้อมบ้าน ทุบประตู และพูดกับชายชราผู้เป็นเจ้าบ้านว่า “พาชายที่เข้ามาในบ้านท่านออกมาเถิด พวกเราจะได้สมสู่กับเขา” 23 ชายเจ้าของบ้านจึงออกไปพูดกับพวกเขาว่า “พี่น้องของเราเอ๋ย อย่านะ อย่ากระทำความชั่วอย่างนั้น เพราะชายผู้นี้เข้ามาอยู่ในบ้านของเรา อย่ากระทำสิ่งที่น่าอับอายเช่นนี้ 24 ดูเถิด ลูกสาวพรหมจารีของเราคนหนึ่งกับภรรยาน้อยของชายคนนั้น ให้เราพาพวกนางออกมาเดี๋ยวนี้เลย ท่านจะทำอะไรต่อพวกเขาก็ได้ตามความพอใจของท่าน แต่อย่ากระทำสิ่งที่น่าอับอายเช่นนี้ต่อชายผู้นี้เลย” 25 แต่ชายเหล่านั้นไม่ยอมฟังชายชรา ชายคนนั้นจึงบังคับภรรยาน้อยของเขาออกไปหาพวกเขา พวกเขาสมสู่กับนางและทำร้ายนางตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า เมื่อฟ้าเริ่มสาง พวกเขาจึงปล่อยนางไป 26 เมื่อถึงเช้า นางก็ไปหาเจ้านายที่บ้านของชายคนนั้น และล้มตัวลงที่ประตูอยู่ที่นั่นจนกระทั่งสว่าง

27 รุ่งเช้านายของนางลุกขึ้น เมื่อเขาเปิดประตูบ้าน เพื่อจะไปตามทางของเขา ดูเถิด ภรรยาน้อยของเขากำลังนอนอยู่ที่ประตูบ้าน มือเกาะธรณีประตูไว้ 28 เขาพูดกับนางว่า “ลุกขึ้น เราไปกันเถิด” แต่ไม่มีคำตอบ เขาจึงเอานางขึ้นหลังลา และชายคนนั้นเริ่มเดินทางกลับไปบ้านของตน 29 เมื่อเขาเข้าบ้าน เขาคว้ามีดและจับตัวภรรยาน้อยของตน ตัดเธอออกเป็นท่อนๆ ได้ 12 ท่อน และส่งไปทั่วดินแดนของอิสราเอล 30 ทุกคนที่เห็นก็พูดว่า “การกระทำอย่างนี้ไม่เคยเกิดขึ้น หรือไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่วันที่ชาวอิสราเอลออกจากดินแดนของอียิปต์ จนถึงวันนี้ จงพิจารณาดูเถิด ปรึกษากัน และบอกมาว่าจะทำอย่างไร”

คนเลวีกับเมียน้อย

19 ในตอนนั้น อิสราเอลยังไม่มีกษัตริย์ มีชายชาวเลวีคนหนึ่งเป็นคนต่างถิ่นอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของเทือกเขาเอฟราอิม เขาได้ผู้หญิงคนหนึ่งจากเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์มาเป็นเมียน้อย เมียน้อยของเขาโกรธเขาขึ้นมา จึงหนีกลับไปที่บ้านพ่อของเธอ ที่เมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ และพักอยู่ที่นั่นสี่เดือน จากนั้นสามีเธอก็ตามไปเพื่อจะง้อให้เธอกลับมาอยู่กับเขาอีก เขาพาคนใช้คนหนึ่งและลาอีกคู่หนึ่งไปด้วย เมื่อเขาไปถึงบ้านพ่อของหญิงสาวนั้น[a] พ่อของหญิงสาวเห็นเขาและออกมาต้อนรับด้วยความดีใจ แล้วพ่อตาของเขาซึ่งเป็นพ่อของหญิงสาวนั้น ได้ชวนให้เขาอยู่ และเขาก็ได้พักค้างคืนอยู่ที่นั่นกับพ่อตาเป็นเวลาสามวัน แล้วพวกเขาได้กินและดื่มกันและพักค้างคืนที่นั่น

ในวันที่สี่ พวกเขาตื่นแต่เช้าและเตรียมตัวออกเดินทาง แต่พ่อของหญิงสาวนั้นพูดกับลูกเขยว่า “พวกเจ้ากินอาหารให้มีแรงกันก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยไป” พวกเขาจึงนั่งลงและทั้งสองคนก็กินและดื่มด้วยกัน แล้วพ่อของหญิงสาวก็พูดกับชายนั้นว่า “ได้โปรดค้างอีกสักคืนหนึ่งเถิด ทำใจให้สบาย” เมื่อชายนั้นลุกขึ้นจะไป พ่อตาของเขาก็ชวนให้ค้างต่อ เขาก็ตกลงอยู่และค้างคืนที่นั่น

เขาตื่นแต่เช้าในวันที่ห้าเพื่อออกเดินทาง พ่อของหญิงสาวนั้นก็พูดว่า “ท่านพักเอาแรงก่อน” พวกเขาก็ได้เอ้อระเหยอยู่จนบ่ายแก่ๆทั้งสองคนก็ได้กินและดื่ม

เมื่อชายคนนั้นลุกขึ้นพร้อมกับเมียน้อยและคนใช้เพื่อออกเดินทาง พ่อตาของเขาซึ่งเป็นพ่อของหญิงสาวนั้นก็พูดกับชายนั้นว่า “ดูสิ นี่ก็ใกล้จะมืดค่ำแล้ว ได้โปรดค้างอีกสักคืนเถิด ทำใจให้สบาย พรุ่งนี้พวกเจ้าก็ตื่นแต่เช้าได้ เพื่อออกเดินทางกลับไปยังบ้านของเจ้า”

10 แต่ชายนั้นไม่ยอมค้างคืนอีก เขาจึงลุกขึ้นและออกเดินทางมาพร้อมกับเมียน้อยและลาเทียมอานคู่หนึ่ง จนเข้าใกล้เมืองเยบุส (หรือเยรูซาเล็ม) ซึ่งก็เกือบจะหมดวันแล้ว 11 คนใช้จึงพูดกับเจ้านายของเขาว่า “ให้พวกเราแวะเข้าไปพักค้างคืนในเมืองเยบุสกันเถอะ”

12 เจ้านายของเขาตอบว่า “พวกเราจะไม่แวะเข้าไปในเมืองของคนต่างชาติ ที่ไม่ใช่คนอิสราเอล ให้พวกเราเลยไปยังเมืองกิเบอาห์[b] กันเถิด” 13 แล้วเขาก็บอกคนใช้ว่า “ไปกันเถอะ ให้พวกเราไปสักที่หนึ่ง ไม่ค้างคืนที่กิเบอาห์ก็ที่รามาห์”

14 พวกเขาก็เลยเดินทางต่อ ดวงอาทิตย์ตกดินแล้วเมื่อใกล้เมืองกิเบอาห์ ซึ่งเป็นของคนเผ่าเบนยามิน 15 พวกเขาแวะเข้าไปค้างคืนในเมืองกิเบอาห์ และนั่งลงที่ลานเมือง[c] แต่ไม่มีใครชวนเขาไปค้างคืนที่บ้าน

16 จนถึงตอนเย็น มีชายแก่คนหนึ่งกลับจากทำงานในท้องทุ่ง เขาเป็นคนจากแถบเทือกเขาเอฟราอิมและพักอยู่ในกิเบอาห์ เป็นคนต่างเผ่า (ชาวเมืองกิเบอาห์มาจากครอบครัวของเบนยามิน) 17 เมื่อชายแก่เงยหน้าขึ้นมาเห็นคนเดินทางอยู่ที่ลานเมือง ท่านก็ถามว่า “พวกท่านมาจากไหน และจะไปที่ไหนกัน”

18 ชายคนนั้นจึงตอบว่า “ผมมาจากเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ จะไปในดินแดนที่ห่างไกลแถบเทือกเขาเอฟราอิม ผมมาจากที่นั่น ผมได้ไปเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์มา และกำลังจะกลับไปบ้านของผม[d] แต่ไม่มีใครเชิญผมไปค้างบ้านของเขา 19 ผมมีฟางและอาหารสำหรับลา มีขนมปังและเหล้าองุ่นสำหรับตัวผม ผู้หญิง และเด็กรับใช้ พวกเราไม่ขาดอะไรเลย”

20 ชายแก่พูดว่า “ยินดีต้อนรับ ท่านไปอยู่ที่บ้านของข้า ข้าจะจัดการดูแลทุกอย่างที่ท่านต้องการ ขออย่างเดียวอย่านอนค้างคืนที่ลานเมืองเลย” 21 ชายแก่จึงพาเขาไปที่บ้าน ให้อาหารแก่ลา และพวกเขาต่างก็ล้างเท้าของตนเอง และร่วมกันกินและดื่ม 22 ขณะที่พวกเขากำลังสนุกสนานกันอยู่นั้น กลุ่มอันธพาลเมืองก็มาล้อมบ้านและทุบประตู พวกมันพูดกับชายแก่เจ้าของบ้านว่า “ส่งผู้ชายคนนั้นที่มาพักที่บ้านเจ้าออกมา เราจะได้ร่วมเพศกับมัน”

23 ชายแก่เจ้าของบ้านได้ออกไปหาพวกนั้น และพูดว่า “อย่าเลยพี่น้องของข้า ขออย่าทำสิ่งชั่วร้ายอย่างนั้นเลย เนื่องจากชายคนนี้ได้มาอยู่บ้านของข้า[e] ขออย่าได้ทำสิ่งที่น่าอัปยศอดสูอย่างนี้เลย 24 ดูนี่ซิ นี่คือลูกสาวที่ยังบริสุทธิ์ของข้ากับเมียน้อยของชายคนนั้น ข้าจะเอาพวกเธอออกมาให้พวกเจ้าทารุณและทำกับพวกเธอตามที่พวกเจ้าต้องการ แต่อย่าได้ทำสิ่งที่น่าอัปยศอดสูต่อชายคนนี้เลย”

25 แต่พวกมันไม่ยอมฟังชายแก่คนนั้น ชายคนนั้นจึงจับเมียน้อยของตัวเองและผลักนางออกไปหาพวกมัน พวกมันก็ข่มขืนและทรมานนางอย่างหนักตลอดคืนจนเช้า เมื่อใกล้สว่าง พวกมันก็ปล่อยเธอไป 26 พอใกล้รุ่ง เธอได้มาล้มลงอยู่ที่ทางเข้าบ้านของชายแก่คนนั้นที่นายของเธอพักอยู่จนกระทั่งถึงเช้า

27 ในตอนเช้านายของเธอตื่นขึ้นมา เมื่อเขาเปิดประตูบ้านเพื่อที่จะออกเดินทางต่อ ก็เจอผู้หญิงที่เป็นเมียน้อยของเขานอนอยู่ที่ทางเข้าประตู มือพาดธรณีประตูอยู่ 28 เขาก็พูดกับเธอว่า “ลุกขึ้นไปกันเถอะ” แต่ไม่มีคำตอบ

เขาจึงเอาเธอขึ้นหลังลาและออกเดินทางกลับบ้าน 29 เมื่อมาถึงบ้าน เขาก็เอามีดหั่นศพเมียน้อยออกเป็นท่อนๆสิบสองท่อน และเขาได้ส่งชิ้นส่วนของเธอไปทั่วเขตแดนของอิสราเอลทั้งหมด 30 ทุกคนที่เห็นเธอต่างพูดว่า “ไม่เคยมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นมาก่อน ไม่เคยพบเห็นเรื่องอย่างนี้เลย ตั้งแต่ชาวอิสราเอลออกมาจากแผ่นดินอียิปต์จนถึงทุกวันนี้ (แล้วเขาก็สั่งพวกผู้ชายที่เขาได้ส่งไปนั้นว่า ‘เจ้าจะต้องพูดอย่างนี้กับชายทุกคนในอิสราเอลว่า ตั้งแต่วันที่ชาวอิสราเอลออกมาจากแผ่นดินอียิปต์จนถึงวันนี้ เคยมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นหรือ’)[f] ให้คิดเรื่องนางดู ปรึกษากันดูแล้วว่ามา ว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้”

Footnotes

  1. 19:3 เมื่อเขาไปถึงบ้านพ่อของหญิงสาวนั้น คำนี้อยู่ในฉบับแปลกรีกโบราณ ฉบับฮีบรูโบราณเขียนว่า เมื่อเธอนำเขาไปถึงบ้านของพ่อเธอ
  2. 19:12 กิเบอาห์ เป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือของเยบุส ห่างจากเยบุสไม่กี่กิโลเมตร
  3. 19:15 ลานเมือง สถานที่สาธารณะใกล้ประตูเมือง ชาวเมืองใช้เป็นที่พบปะกัน คนเดินทางบ่อยครั้งใช้เป็นที่พักแรม
  4. 19:18 บ้านของผม มาจากฉบับแปลกรีกโบราณ แต่ฉบับฮีบรูที่เรามีอยู่ เขียนว่า “บ้านของพระยาห์เวห์”
  5. 19:23 มาอยู่บ้านของข้า ในสมัยนั้นเป็นประเพณี ถ้าชวนคนมาอยู่ที่บ้าน เจ้าของบ้านต้องมีหน้าที่ดูแลปกป้องแขกของเขานั้น
  6. 19:30 แล้วเขาก็ … เกิดขึ้นหรือ ประโยคในวงเล็บนี้เจอในฉบับสำเนาแปลกรีกโบราณ แต่ไม่มีในฉบับฮีบรูที่เราใช้อยู่