Add parallel Print Page Options

ความตายยุติธรรมหรือเปล่า

ใช่แล้ว เราได้ใส่ใจและตรวจสอบเรื่องทั้งหมดนี้ แล้วเห็นว่าคนดีและคนฉลาดและสิ่งต่างๆที่เขาทำ แม้กระทั่งความรักและความเกลียดของเขา ล้วนแล้วแต่อยู่ในกำมือของพระเจ้า ไม่มีใครรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นกับตัวเขาเองในอนาคต ทุกคนตกอยู่ในสภาพเดียวกันหมด คือ จะต้องเจอกับชะตากรรมเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคนบริสุทธิ์หรือคนเลว คนดีหรือคนชั่ว คนบริสุทธิ์หรือคนไม่บริสุทธิ์ คนที่ถวายเครื่องบูชา หรือคนที่ไม่ถวายเครื่องบูชา คนที่ชอบสาบานหรือคนที่กลัวการสาบาน ในบรรดาสิ่งต่างๆทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ นี่ก็เป็นเรื่องเลวร้ายอีกเรื่อง คือการที่ทุกคนจะต้องประสบกับชะตากรรมเดียวกัน แถมหัวใจของมนุษย์ยังเต็มไปด้วยความชั่วร้าย จิตใจเต็มไปด้วยความบ้าบอตอนยังมีชีวิตอยู่ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ตายกัน จะมีใครเลือกชะตากรรมของตัวเองได้หรือ แต่สำหรับคนเป็นนั้น เขาสามารถมั่นใจได้เรื่องหนึ่ง อย่างที่คนพูดกันว่า

“หมาเป็นย่อมดีกว่าสิงโตที่ตายแล้ว”

เพราะคนเป็นมั่นใจได้แน่ว่าเขาจะต้องตายแน่ๆ แต่คนตายไม่รู้อะไรเลย และคนตายก็จะไม่ได้รับรางวัลอะไรอีกแล้ว เพราะผู้คนต่างก็พากันลืมพวกเขาไปหมด ความรัก ความเกลียดชัง และความอิจฉาของพวกเขาหายวับไปหมด และพวกเขาก็ไม่มีส่วนในสิ่งทั้งหลายซึ่งเกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์นี้อีกแล้ว

สนุกกับชีวิตในขณะที่ยังทำได้

ไปสิ ไปกินขนมปังของคุณอย่างมีความสุขและดื่มเหล้าองุ่นของคุณด้วยความชื่นชมยินดี เพราะพระเจ้าเห็นชอบกับเรื่องพวกนี้ ใส่เสื้อผ้าเหมือนเตรียมพร้อมจะไปงานรื่นเริงเสมอและใส่น้ำหอมด้วย ให้มีความสุขร่วมกับภรรยาที่คุณรักตลอดวันเวลาอันไม่เที่ยงของชีวิตนี้ ที่คุณได้รับมาภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ เพราะนั่นคือส่วนแบ่งของชีวิตคุณ สำหรับงานหนักที่คุณตรากตรำทำมาภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ 10 สิ่งที่มือคุณทำได้ก็ให้ทำสุดแรงเกิดไปเลย เพราะในแดนคนตายที่จะต้องไปนั้น จะไม่มีการลงมือทำอะไรเลย ไม่มีแม้แต่ความคิด ความรู้ หรือสติปัญญา

ชีวิตนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย

11 เราได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ด้วย ที่ว่า คนที่วิ่งเร็วที่สุด ก็ไม่ใช่จะเป็นผู้ชนะเสมอไป ฝ่ายที่มีกำลังเหนือกว่า ก็ไม่ใช่ว่าจะชนะสงครามเสมอไป หรือคนที่มีสติปัญญา ก็ไม่ใช่ว่าจะมีอาหารกินเสมอไป หรือคนที่มีความเข้าใจ ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องร่ำรวยเสมอไป หรือคนที่มีความรู้มาก ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องได้รับการยกย่องเสมอไป เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้กับทุกคน

12 ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะตายเมื่อไหร่ เหมือนกับปลาที่ติดในร่างแหอันโหดร้าย เหมือนพวกนกที่ติดในกับดัก คนเราก็เหมือนกัน จะตกเข้าไปในกับดักเมื่อยามซวยมาถึงอย่างไม่ทันตั้งตัว

ฤทธิ์อำนาจของสติปัญญา

13 นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งเกี่ยวกับสติปัญญา ที่เราได้เห็นเกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ เราว่ามันน่าคิดทีเดียว 14 มีเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งที่มีคนอยู่ไม่มากนัก ต่อมามีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่บุกมาโจมตีล้อมเมืองไว้ และสร้างเครื่องมือต่างๆเพื่อบุกทะลวงกำแพงเข้าไป 15 แล้วปรากฏว่ามีชายยากจนคนหนึ่งในเมืองนั้นที่มีสติปัญญา สามารถที่จะช่วยให้เมืองนั้นรอดพ้นจากการโจมตีได้ แต่ไม่มีใครสนใจชายยากจนคนนั้น 16 สรุปว่า ความฉลาดนั้นย่อมจะดีกว่ากำลังพล แต่ความฉลาดของชายยากจนเป็นที่ดูถูกดูหมิ่น และไม่มีใครยอมฟังคำพูดของเขา

17 คำพูดที่คนมีสติปัญญาพูดออกมาเบาๆมันสมควรฟัง
    มากกว่าเสียงตะโกนของผู้นำในพวกคนโง่
18 สติปัญญา ย่อมดีกว่าอาวุธในสงคราม
    แต่คนไม่เอาไหน[a] เพียงคนเดียวก็สามารถทำลายสิ่งดีๆได้มากมาย

Footnotes

  1. 9:18 คนไม่เอาไหน หรือแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “คนบาป”

ทุกคนต้องตาย

แต่ข้าพเจ้าคิดในใจและไตร่ตรองอย่างหนักว่า ผู้มีความชอบธรรม ผู้เรืองปัญญา และการกระทำของพวกเขาอยู่ในการควบคุมของพระเจ้า มนุษย์ไม่อาจทราบล่วงหน้าว่า ความรักหรือความเกลียดชังรอเขาอยู่ ในเมื่อทุกคนประสบกับสิ่งเดียวกัน ทั้งผู้มีความชอบธรรมและคนชั่วร้าย ทั้งคนดีและคนเลว ทั้งผู้บริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ ทั้งคนที่ถวายเครื่องสักการะและคนที่ไม่ถวายเครื่องสักการะ คนกระทำความดีก็จะเป็นเช่นเดียวกับคนกระทำบาป และคนที่สาบานต่อพระเจ้าก็จะเป็นเช่นเดียวกับคนที่ไม่ยอมสาบานอะไรเลย นี่ก็เป็นเรื่องเศร้าสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ คือทุกคนประสบกับสิ่งเดียวกัน ใจมนุษย์เต็มด้วยความชั่วร้าย และความขาดสติยั้งคิดอยู่ในใจของพวกเขาขณะมีชีวิตอยู่ และต่อจากนั้นพวกเขาก็ไปสู่แดนคนตาย แต่คนที่ยังอยู่ร่วมกับคนมีชีวิต ยังมีความหวัง เพราะว่าสุนัขที่มีชีวิตยังดีกว่าสิงโตที่ตายแล้ว ด้วยเหตุว่า ผู้มีชีวิตอยู่รู้ว่า เขาจะต้องตาย ส่วนคนตายไม่รู้อะไรเลย และพวกเขาไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ ไม่มีใครจำเขาได้อีก ความรัก ความเกลียดชัง และความอิจฉาของพวกเขาได้ตายไปพร้อมกับพวกเขา และจะไม่มีส่วนร่วมในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้อีกต่อไป

มีความสุขกับผู้ที่ท่านรักใคร่

ไปเถิด ไปรับประทานขนมปังอย่างมีความสุข และดื่มเหล้าองุ่นด้วยความสำราญใจ เพราะว่าพระเจ้ายินดีให้ท่านทำสิ่งนั้น

จงสวมเสื้อผ้าที่ขาวบริสุทธิ์สดใส และให้มีน้ำมันใช้ชโลมบนศีรษะของท่านตลอดไป

จงมีความสุขกับภรรยาที่ท่านรัก ตลอดวันเวลาแห่งชีวิตอันไร้ค่าของท่านที่พระองค์ได้มอบให้ในโลกนี้ เพราะว่านั่นแหละเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและในงานตรากตรำของท่านที่ทำในโลกนี้ 10 ไม่ว่างานใดที่มือของท่านกระทำได้ ก็จงทำด้วยสุดกำลัง เพราะในแดนคนตาย ซึ่งท่านกำลังจะไปนั้น ไม่มีทั้งงาน หรือความคิด หรือความรู้ หรือสติปัญญา

สติปัญญาดีกว่าความโง่เขลา

11 ข้าพเจ้าเห็นอีกด้วยว่า ในโลกนี้นักวิ่งเร็วไม่ชนะในการแข่งขันเสมอไป และคนแข็งแกร่งอาจไม่ชนะในสงคราม และคนมีสติปัญญาอาจไม่มีรายได้เสมอไป และคนฉลาดไม่มั่งมี และผู้มีความชำนาญไม่เลื่อนขึ้นสู่ตำแหน่งสูงเสมอไป แต่สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นกับทุกคนตามวาระและโอกาส 12 ด้วยว่า มนุษย์ไม่รู้ถึงเวลาของตัวเขาเอง ปลาถูกจับในตาข่าย และนกถูกกับดักเช่นไร บรรดาบุตรของมนุษย์ก็ติดกับดักเมื่อเป็นเวลาอันเลวร้าย ซึ่งเกิดขึ้นกับเขาอย่างฉับพลันฉันนั้น

13 ข้าพเจ้าได้สังเกตเห็นตัวอย่างของสติปัญญาในโลกนี้ และข้าพเจ้าก็ประทับใจมากคือ 14 ครั้งหนึ่งในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีผู้คนเพียงไม่กี่คนอาศัยอยู่ และมีกษัตริย์ผู้มีกำลังมากมาโจมตี ท่านใช้กำลังล้อมเมืองไว้และก่อเชิงเทินเพื่อปีนข้ามกำแพง 15 มีชายผู้ยากจนที่มีสติปัญญาอยู่ในเมืองนั้น เขาช่วยกู้เมืองนั้นไว้ได้ด้วยสติปัญญา แต่ต่อมาก็ไม่มีใครระลึกถึงเขาอีก 16 ข้าพเจ้าพูดได้ว่า สติปัญญาดีกว่าพละกำลัง แต่สติปัญญาของชายผู้ยากจนเป็นที่ดูหมิ่น และไม่มีใครใส่ใจในคำพูดของเขา

17 คำพูดเบาๆ ของผู้มีสติปัญญา ดีกว่าเสียงตะโกนของผู้บังคับบัญชาให้บรรดาคนโง่เขลาฟัง 18 สติปัญญาดีกว่าอาวุธสงคราม แต่คนบาปคนเดียวก่อให้เกิดความหายนะใหญ่หลวงได้