Add parallel Print Page Options

คำคมต่างๆ

ชื่อเสียงที่ดีย่อมดีกว่าน้ำหอมชั้นดี
    และวันตายของคนก็ดีกว่าวันเกิด
การไปบ้านที่กำลังไว้ทุกข์ย่อมดีกว่าไปบ้านที่กำลังเลี้ยงฉลอง
    เพราะว่าบ้านแรกคือจุดจบของทุกๆคน
    และคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ควรตระหนักในเรื่องนี้
ความเศร้านั้นดีกว่าการหัวเราะ
    เพราะถึงแม้หน้าจะเศร้าแต่จิตใจนั้นได้รับบทเรียน
จิตใจของคนฉลาดย่อมอยู่ในบ้านที่ไว้ทุกข์
    และจิตใจของคนโง่ย่อมอยู่ในบ้านที่สนุกสนานรื่นเริง
ฟังคนฉลาดต่อว่าก็ยังดีกว่า
    ฟังเพลงที่คนโง่ร้อง
เพราะเสียงหัวเราะของคนโง่ก็เหมือนเสียงแตกของหนามที่ติดไฟอยู่ใต้หม้อ
    นี่ก็เป็นสิ่งไม่เที่ยงเหมือนกัน
การกดขี่ข่มเหงสามารถทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโง่
    และสินบนก็ทำให้ใจคดโกง
ทำจนจบย่อมดีกว่าแค่เริ่มต้น
    ใจอดทนย่อมดีกว่าใจหยิ่งยโส
อย่าให้จิตใจของคุณโกรธง่าย
    เพราะความโกรธนั้นอยู่ในอกของคนโง่
10 อย่าถามว่า “ทำไมคืนวันเก่าๆถึงดีกว่าทุกวันนี้”
    ไม่ฉลาดเลยที่ถามอย่างนั้น

11 สติปัญญานั้นดีเหมือนกับมรดก
    และเป็นประโยชน์แก่คนที่เห็นดวงอาทิตย์
12 เพราะว่าสติปัญญาปกป้องคนได้ ก็เหมือนกับเงินทองสามารถปกป้องคนได้
    ประโยชน์ของความรู้และสติปัญญาคือรักษาชีวิตของเจ้าของมัน
13 ให้เห็นและยอมรับสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำ
    สิ่งที่พระเจ้าบิดให้งอจะมีใครทำให้มันตรงได้หรือ

14 ในวันที่ดีๆก็ให้สนุกกับมัน ส่วนในวันที่แย่ๆก็ให้คิดใคร่ครวญว่าทั้งสองวันนี้เป็นวันที่พระเจ้าสร้างไว้ เพื่อมนุษย์จะได้เดาไม่ถูกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาในอนาคต

15 ในวันคืนที่ไม่เที่ยงของเรานั้น เราก็ได้เห็นมาแล้วทุกอย่าง มีคนดีที่ต้องย่อยยับไป แม้เขาจะเป็นคนดี และมีคนเลวที่มีอายุยืนยาว แม้เขาจะชั่วช้า 16 อย่าเป็นคนดีเกินเหตุและอย่าฉลาดแสนรู้เกินไป เรื่องอะไรคุณจะต้องทำลายตัวเองด้วย 17 อย่าชั่วเกินไป และอย่าโง่เกินไป เรื่องอะไรคุณจะต้องมาตายก่อนเวลา 18 ยึดข้างหนึ่งไว้ก็ดีและอย่าปล่อยอีกข้างหนึ่งไป คนที่ยำเกรงพระเจ้าจะเดินสายกลาง

19 สติปัญญาทำให้คนหนึ่งเข้มแข็งกว่าเจ้าหน้าที่ปกครองเมืองสิบคน

20 แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีใครหรอกในโลกนี้ที่แสนจะเป็นคนดี ทำแต่ความดีไม่เคยทำบาปเลย

21 อีกอย่างหนึ่งคุณอย่าไปสนใจคำพูดของคนอื่นทุกคำ เพราะกลัวว่าคุณอาจจะได้ยินทาสของคุณต่อว่าคุณในทางเสียๆหายๆได้ 22 คุณก็รู้อยู่แก่ใจดีว่า คุณเองก็เคยว่าคนอื่นเสียๆหายๆหลายครั้ง

23 เรื่องที่พูดมานี้ เราได้ทดสอบด้วยสติปัญญาแล้ว เราเคยพูดว่า เราจะเป็นคนฉลาด แต่ความฉลาดยังอยู่ห่างไกลจากเรา 24 ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันเกินความเข้าใจของมนุษย์ และมันลึกล้ำเกินกว่าที่มนุษย์จะค้นพบ 25 เราตั้งใจที่จะเรียนรู้ ตรวจสอบและแสวงหาสติปัญญาและเหตุผล และเราตั้งใจที่จะเรียนรู้ว่าความชั่วร้ายเป็นเรื่องโง่บัดซบ และความโง่เขลาเป็นเรื่องบ้า 26 เราพบว่าผู้หญิงที่เป็นกับดัก[a]นั้น แย่ยิ่งกว่าความตายเสียอีก เธอมีหัวใจเป็นตาข่ายและมือเป็นโซ่มัด คนที่พระเจ้าชอบใจจะหนีพ้นจากเธอ ส่วนคนที่ไม่เอาไหน[b] จะถูกเธอจับไว้

27 ดูเสียสิ นี่คือสิ่งที่เราได้ค้นพบ อาจารย์พูดว่าอย่างนั้น เราได้เอาเรื่องหนึ่งมาปะติดปะต่อเข้ากับอีกเรื่องหนึ่งเพื่อหาคำตอบ 28 เราได้ทุ่มสุดชีวิตหาแล้วหาอีก แต่ก็ไม่พบคำตอบ แต่เราได้พบชายผู้มีสติปัญญาหนึ่งในพันคนแล้ว แต่ไม่พบผู้หญิงสักคนในพันคนนั้น 29 นี่แหละ คือสิ่งเดียวที่เราพบ คือ พระเจ้าได้สร้างมนุษย์ให้เป็นคนดี แต่พวกเขากลับเหลี่ยมจัด

Footnotes

  1. 7:26 ผู้หญิงที่เป็นกับดัก หมายถึง “ความโง่” เหมือนกับในหนังสือ สุภาษิต 9:13-18 และในบทที่ 9:1-6 ได้เปรียบเทียบผู้หญิงกับสติปัญญาด้วย
  2. 7:26 คนที่ไม่เอาไหน หรือแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “คนบาป”

สิ่งที่ตรงกันข้ามระหว่างสติปัญญาและความโง่เขลา

ชื่อเสียงดีนั้นดีกว่าน้ำมันอันมีค่า
    วันตายดีกว่าวันเกิด
ไปบ้านที่มีความเศร้าโศกดีกว่า
    ไปบ้านที่มีงานเลี้ยง
เพราะคนที่มีชีวิตอยู่ควรเตือนตนเองเสมอว่า
    ความตายกำลังรอเราทุกคนอยู่
ความเศร้าใจดีกว่าเสียงหัวเราะ
    เพราะแม้ว่าใบหน้าจะเศร้า แต่ในใจของเขาอาจจะเรียนรู้สิ่งที่มีค่าได้
จิตใจของผู้มีสติปัญญาคำนึงถึงความหมายของความตาย
    แต่ใจของคนโง่เขลาคิดถึงแต่ความสนุกสนานเท่านั้น
การได้ยินคำตำหนิติเตียนของผู้มีสติปัญญาดีกว่า
    การได้ยินเพลงของผู้โง่เขลา
เสียงกิ่งไม้หนามที่ลุกไหม้อยู่ใต้หม้อเป็นอย่างไร
    เสียงของคนโง่เขลาก็เป็นอย่างนั้น
    นี่ก็ไร้ค่า
ผู้มีสติปัญญาที่กดขี่ข่มเหงเป็นประหนึ่งผู้โง่เขลา
    และการรับสินบนทำให้เขาขาดความเที่ยงธรรม
ขั้นสุดท้ายของสิ่งหนึ่งดีกว่าขั้นเริ่มต้น
    และจิตวิญญาณที่มีความอดทนดีกว่าจิตวิญญาณที่หยิ่งยโส
อย่าโกรธง่าย
    เพราะความโกรธจะเกาะอยู่ในทรวงอกของคนโง่เขลา
10 อย่าพูดว่า “ทำไมสมัยก่อนดีกว่าสมัยนี้”
    เพราะว่าคำถามนี้ไม่ได้มาจากสติปัญญา
11 สติปัญญาประเสริฐประหนึ่งมรดก
    และเป็นประโยชน์ต่อผู้คนทั้งหลายในโลก
12 การทะนุถนอมสติปัญญา
    เปรียบเสมือนการเก็บรักษาเงิน
เราทราบได้ว่าสติปัญญามีคุณประโยชน์ที่ยั่งยืนคือ
    ผู้ที่ครอบครองสติปัญญาไว้ได้จะสามารถรักษาชีวิตของตนได้
13 จงคิดถึงสิ่งที่พระเจ้าได้กระทำ
    สิ่งที่พระองค์ได้ทำให้คดแล้ว ใครสามารถทำให้ตรงได้เล่า

14 เมื่อประสบกับสิ่งดีๆ ก็จงยินดีเถิด แต่เมื่อประสบกับความลำบาก ก็จงคิดเถิดว่า พระเจ้าเป็นผู้ทำทั้งสองสิ่ง มนุษย์จะพบว่าหลังจากเขาแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดอีก

15 ข้าพเจ้าได้เห็นทุกสิ่งในชีวิตอันไร้ค่าของข้าพเจ้าแล้ว ชายผู้มีความชอบธรรมเสียชีวิตขณะกระทำสิ่งชอบธรรม และคนชั่วมีชีวิตอยู่ต่อไปขณะกระทำความชั่ว 16 อย่ามั่นใจว่าท่านเป็นผู้มีความชอบธรรมนัก และอย่าทำตนเป็นผู้มีสติปัญญานัก ทำไมท่านจึงอยากทำลายตัวเองเล่า 17 อย่าปล่อยให้ตนกระทำความชั่ว และอย่าเป็นคนโง่เขลาเช่นกัน ทำไมท่านจึงอยากตายก่อนกำหนดเล่า 18 ท่านควรกระทำตามข้อแรก และไม่ละเลยข้อที่สอง เพราะคนที่เกรงกลัวพระเจ้า จะมีผลสำเร็จได้จากทั้งสองข้อ

19 สติปัญญาให้อานุภาพแก่ผู้เรืองปัญญา มากกว่าผู้สำเร็จราชการ 10 คนในเมือง

20 มั่นใจได้เลยว่า ในโลกนี้ไม่มีผู้มีความชอบธรรมสักคนที่กระทำแต่ความดี และไม่เคยกระทำบาป

21 อย่าใส่ใจในทุกสิ่งที่มนุษย์พูด ท่านอาจจะได้ยินผู้รับใช้ของท่านสาปแช่งท่านก็ได้ 22 ท่านรู้อยู่แก่ใจว่า มีหลายครั้งที่ท่านเองก็สาปแช่งผู้อื่นเช่นกัน

23 เรื่องต่างๆ ที่ได้กล่าวมานี้ ข้าพเจ้าใช้สติปัญญาทดสอบดูแล้ว ข้าพเจ้าคิดในใจว่า “ข้าพเจ้าจะใช้สติปัญญาหาคำตอบ” แต่ก็เกินกำลังข้าพเจ้า 24 คือไกลเกินเอื้อม และลึกล้ำยิ่งนัก ใครจะทราบได้

25 ข้าพเจ้าอุทิศตนเพื่อเรียนรู้ ค้นคว้า และเพื่อเสาะหาสติปัญญาและคำอธิบายจากสิ่งต่างๆ ที่เป็นอยู่ และเพื่อเรียนรู้ถึงความเลวร้ายของความไร้สาระ และความโง่เขลาของความขาดสติยั้งคิด 26 ข้าพเจ้าพบบางสิ่งที่ขมกว่าความตาย คือใจของหญิงที่เป็นเสมือนบ่วงแร้วและกับดัก และนางมีมือที่เป็นเสมือนโซ่จองจำ ชายที่ทำให้พระเจ้าพอใจจะหลุดพ้นจากนางได้ แต่คนบาปจะถูกนางจับตัวไว้ 27 ปัญญาจารย์กล่าวว่า ดูเถิด นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าค้นพบทีละเล็กทีละน้อย เพื่อให้ได้คำอธิบายมา 28 ซึ่งความคิดของข้าพเจ้าเสาะหาซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ข้าพเจ้าก็ยังไม่พบ มีชายผู้เดียวจาก 1,000 คนที่ข้าพเจ้าพบ แต่สำหรับผู้หญิงในจำนวนทั้งหมด ข้าพเจ้ายังไม่พบเลย 29 ดูเถิด สิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าพบคือ พระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มีความชอบธรรม แต่มนุษย์กลับเสาะหากลวิธีมากมาย