Add parallel Print Page Options

เนบูคัดเนสซาร์ฝัน

ในปีที่สองของการครองราชย์ เนบูคัดเนสซาร์นอนฝัน จิตใจของท่านก็หดหู่เป็นทุกข์จนนอนไม่หลับ กษัตริย์จึงเรียกพวกที่เล่นวิทยาคมและเสกคาถา รวมทั้งพวกที่ใช้เวทมนตร์และคนเคลเดีย[a] เพื่อมาแก้ฝันให้ท่าน คนเหล่านั้นจึงมาเข้าเฝ้ากษัตริย์ กษัตริย์กล่าวกับพวกเขาว่า “เราฝันซึ่งทำให้จิตใจของเราหดหู่เป็นทุกข์ จึงอยากจะเข้าใจความหมาย” โหราจารย์ตอบกษัตริย์เป็นภาษาอาราเมคว่า “โอ กษัตริย์ ขอให้กษัตริย์มีชีวิตยิ่งยืนนานเถิด โปรดบอกพวกเราที่เป็นผู้รับใช้ของท่านเถิดว่า ท่านฝันอะไร และพวกเราจะแก้ฝันให้ท่าน” กษัตริย์ตอบโหราจารย์ว่า “เราได้ตัดสินใจอย่างนี้คือ ถ้าพวกเจ้าไม่บอกเรื่องที่เราฝัน และแก้ฝันให้เรา พวกเจ้าจะถูกตัดเป็นท่อนๆ และบ้านเรือนของพวกเจ้าก็จะถูกพังทลายลง แต่ถ้าหากว่าพวกเจ้าบอกเรื่องที่เราฝัน และแก้ฝันให้เราได้ เราจะให้ของกำนัลและรางวัล อีกทั้งเกียรติยศแก่พวกเจ้า ฉะนั้นจงบอกเรื่องที่เราฝัน และแก้ฝันให้เราด้วย” เขาเหล่านั้นตอบเป็นครั้งที่สองว่า “ถ้าหากว่ากษัตริย์จะเล่าเรื่องที่ฝันให้ผู้รับใช้ทราบ แล้วพวกเราจะแก้ฝันให้” กษัตริย์ตอบว่า “เราแน่ใจว่า พวกเจ้ากำลังถ่วงเวลาเพราะรู้การตัดสินใจของเราแล้วว่า ถ้าพวกเจ้าไม่บอกเรื่องที่เราฝัน เจ้าจะต้องรับโทษสถานเดียว พวกเจ้าร่วมกันหลอกลวงและพูดเท็จกับเรา โดยหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ ฉะนั้น จงบอกเราว่าเราฝันอะไร และเราก็จะรู้ว่าพวกเจ้าสามารถแก้ฝันให้เราได้” 10 โหราจารย์ตอบกษัตริย์ว่า “ไม่มีมนุษย์ผู้ใดในโลกที่สามารถทำตามคำสั่งของกษัตริย์ได้ เพราะว่าไม่มีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจท่านใดที่ออกคำสั่งให้คนที่เล่นวิทยาคม ผู้เสกคาถา และโหราจารย์ทำเช่นนี้ 11 สิ่งที่กษัตริย์ถามเป็นเรื่องยากเกินไป และไม่มีผู้ใดที่สามารถทำตามความต้องการของกษัตริย์ได้ ยกเว้นบรรดาเทพเจ้าเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์”

12 เพราะเหตุนี้ กษัตริย์จึงโกรธกริ้วมาก และได้สั่งให้ประหารบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลนเหล่านั้นทุกคน 13 ดังนั้น มีกฤษฎีกาสั่งให้ประหารผู้เรืองปัญญาทุกคน และให้ไปตามดาเนียลกับเพื่อนของท่านมาเพื่อจะประหารด้วย 14 ดาเนียลตอบอารีโอคหัวหน้าองครักษ์ที่ได้ออกไปประหารบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลนด้วยความเฉลียวฉลาดและปฏิภาณ 15 ท่านถามอารีโอคหัวหน้าองครักษ์ว่า “ทำไมกฤษฎีกาของกษัตริย์จึงรุนแรงเช่นนี้” อารีโอคจึงเล่าเรื่องให้ดาเนียลฟัง 16 ดาเนียลไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เพื่อขอเวลาสำหรับการแก้ฝันให้กษัตริย์

พระเจ้าเผยเรื่องที่เนบูคัดเนสซาร์ฝัน

17 แล้วดาเนียลก็กลับไปบ้านของท่าน และเล่าเรื่องให้ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ ผู้เป็นเพื่อนของท่านทราบ 18 และบอกพวกเขาให้ขอความเมตตาจากพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์เรื่องความลึกลับนี้ เพื่อดาเนียลและเพื่อนของท่านจะไม่ถูกประหารไปด้วยกับบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลน 19 แล้วจากนั้น ความลึกลับก็ถูกเผยแก่ดาเนียลในภาพนิมิตในคืนนั้นเอง และดาเนียลสรรเสริญพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ 20 ดาเนียลพูดว่า

“สรรเสริญพระนามของพระเจ้าตราบชั่วนิรันดร์กาล
    พระองค์กอปรด้วยพระปัญญาและอานุภาพ
21 พระองค์เปลี่ยนกาลเวลาและฤดูกาล
    พระองค์ปลดกษัตริย์และแต่งตั้งกษัตริย์
พระองค์มอบสติปัญญาแก่ผู้เรืองปัญญา
    และมอบความรู้แก่ผู้หยั่งรู้
22 พระองค์เผยสิ่งที่ล้ำลึกและลึกลับ
    พระองค์ทราบว่าอะไรซ่อนอยู่ในความมืด
    และความสว่างอยู่กับพระองค์
23 โอ พระเจ้าของบรรพบุรุษของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าขอบคุณและสรรเสริญพระองค์
พระองค์ได้มอบสติปัญญาและพละกำลังแก่ข้าพเจ้า
    และบัดนี้พระองค์ได้ให้ข้าพเจ้าทราบสิ่งที่พวกเราถาม
    พระองค์ได้ให้พวกเราทราบสิ่งที่กษัตริย์ฝัน”

24 ดังนั้น ดาเนียลจึงไปหาอารีโอคผู้ที่กษัตริย์ได้บัญชาให้ประหารบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลน ท่านไปหาเขาและพูดว่า “อย่าสังหารบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลน โปรดนำเราไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เถิด และเราจะแก้ฝันให้กษัตริย์”

25 อารีโอคก็พาดาเนียลไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ทันที และทูลท่านดังนี้ว่า “ข้าพเจ้าพบชายผู้หนึ่งที่เข้ามาเป็นเชลยจากยูดาห์ เขาสามารถแก้ฝันให้กษัตริย์ได้” 26 กษัตริย์ถามดาเนียลซึ่งมีอีกชื่อว่า เบลเทชัสซาร์ “เจ้าสามารถเผยเรื่องที่เราฝันเห็น และแก้ฝันให้เราได้หรือ” 27 ดาเนียลตอบกษัตริย์ว่า “ไม่มีบรรดาผู้เรืองปัญญาคนใด ผู้เสกคาถา ผู้ที่เล่นวิทยาคม หรือผู้ทำนายที่สามารถเล่าเรื่องลึกลับที่กษัตริย์ถามได้ 28 แต่มีพระเจ้าในฟ้าสวรรค์ซึ่งเป็นผู้ที่เผยความอันลึกลับทั้งหลาย และพระองค์ได้เผยความแก่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ว่า อะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ฝันและภาพนิมิตที่อยู่ในความนึกคิดของท่านขณะที่ท่านนอนอยู่ก็คือ 29 โอ กษัตริย์ ขณะที่ท่านนอนอยู่ ท่านก็นึกคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า และผู้ที่เผยความลึกลับให้แก่ท่านก็ได้โปรดให้ท่านทราบแล้ว ว่าอะไรจะเกิดขึ้น 30 ความลึกลับนี้ถูกเผยให้ข้าพเจ้าทราบ ไม่ใช่เพราะว่าข้าพเจ้ามีสติปัญญามากกว่าคนอื่นๆ แต่เพื่อการแก้ฝันจะได้เผยแก่กษัตริย์ และท่านจะทราบความนึกคิดของท่าน

ดาเนียลแก้ฝัน

31 โอ กษัตริย์ ท่านมองเห็นรูปปั้นใหญ่รูปหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าท่าน รูปปั้นนี้ขนาดมหึมาและสว่างจ้า ดูน่ากลัว 32 หัวรูปปั้นเป็นทองคำบริสุทธิ์ อกและแขนเป็นเงิน ท้องและต้นขาเป็นทองสัมฤทธิ์ 33 ขาเป็นเหล็ก เท้าเป็นทั้งเหล็กและดินเผา 34 ขณะที่ท่านมองดูที่รูปปั้น หินก้อนหนึ่งหลุดออกโดยไม่มีมือใครแตะ มันกระทบถูกเท้าเหล็กและดินเผาของรูปปั้น ทำให้แตกเป็นเสี่ยงๆ 35 แล้วเหล็ก ดินเผา ทองสัมฤทธิ์ เงิน และทองคำก็หักออกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเหมือนเปลือกข้าวที่ลานนวดข้าวในฤดูร้อน และถูกลมพัดไปจนไม่มีเศษตกเหลืออยู่ แต่ก้อนหินที่ตกถูกรูปปั้นก็กลายเป็นภูเขาที่ใหญ่จนเต็มโลก

36 นั่นคือเรื่องที่ท่านฝัน และบัดนี้พวกเราจะแก้ฝันให้กษัตริย์ 37 โอ กษัตริย์ ท่านเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้มอบอาณาจักร อานุภาพ พลานุภาพ และเกียรติให้แก่ท่าน 38 พระองค์ได้มอบมนุษย์ สัตว์ต่างๆ ในทุ่ง และนกในอากาศให้อยู่ในอำนาจของท่าน ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นอยู่ในที่แห่งใด พระองค์ได้ตั้งให้ท่านปกครองเหนือสิ่งทั้งปวง ท่านคือศีรษะทองคำนั้น 39 หลังจากท่าน จะมีอาณาจักรอื่นที่ด้อยกว่าอาณาจักรของท่าน ขึ้นมาปกครอง จากนั้นก็จะมีอาณาจักรที่สามที่เป็นทองสัมฤทธิ์ ซึ่งจะปกครองทั่วทั้งโลก 40 และจะมีอาณาจักรที่สี่ที่แข็งแกร่งดั่งเหล็ก ด้วยว่าเหล็กทำทุกสิ่งให้แตกหักและแหลกลาญไป และเมื่อเหล็กทำให้ทุกสิ่งแตกเป็นเสี่ยงๆ มันก็จะทำให้อาณาจักรอื่นๆ แตกแยกและพังทลายลง 41 ท่านเห็นเท้าและนิ้วเท้าที่เป็นทั้งดินเผาและเหล็ก นั่นก็คืออาณาจักรที่ถูกแตกแยก แต่พลังอย่างเหล็กก็ยังอยู่ในอาณาจักรนั้น อย่างที่ท่านเห็นเหล็กที่ปนอยู่กับดินเผา 42 เมื่อนิ้วเท้าเป็นทั้งเหล็กและดินเผา อาณาจักรนั้นก็จะแข็งแกร่งและเปราะด้วย 43 อย่างที่ท่านเห็นเหล็กผสมกับดินเผา ประชาชนจะประสานกันด้วยวิธีการแต่งงานร่วมกัน แต่ก็จะเข้ากันไม่ได้ อย่างที่เหล็กที่ไม่ผสมเข้ากันกับดินเผา 44 ในสมัยของบรรดากษัตริย์เหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะตั้งอาณาจักรหนึ่งขึ้นมา ซึ่งจะไม่มีวันถูกทำลาย ไม่มีวันที่จะถูกชนชาติอื่นยึดไป แต่กลับจะทำให้อาณาจักรเหล่านี้แตกหักเป็นเสี่ยงๆ และจบสิ้นลง ส่วนอาณาจักรนั้นจะยืนยงชั่วนิรันดร์กาล 45 ท่านเห็นก้อนหินที่หลุดจากภูเขาโดยไม่มีมือใครแตะ หินที่ทำให้เหล็ก ทองสัมฤทธิ์ ดินเผา เงิน และทองคำแตกหักเป็นเสี่ยงๆ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ได้เผยให้กษัตริย์ทราบว่า อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เรื่องที่ท่านฝันเป็นความจริง และการแก้ฝันก็เชื่อถือได้”

ดาเนียลได้เลื่อนตำแหน่ง

46 ครั้นแล้ว กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ก้มหน้าซบลงกับพื้น เบื้องหน้าดาเนียลเป็นการให้เกียรติท่าน และบัญชาให้นำของถวายและเครื่องหอมมามอบให้แก่ท่าน 47 กษัตริย์กล่าวกับดาเนียลว่า “จริงทีเดียว พระเจ้าของเจ้าคือ พระเจ้าเหนือบรรดาเทพเจ้า และพระผู้เป็นเจ้าเหนือบรรดากษัตริย์ และผู้ที่เผยความอันลึกลับทั้งหลาย เพราะเจ้าสามารถเผยความลึกลับนี้ได้” 48 แล้วกษัตริย์ก็มอบตำแหน่งด้วยเกียรติสูงและของกำนัลมากมายแก่ดาเนียล และแต่งตั้งให้ท่านปกครองทั่วแคว้นบาบิโลน และให้เป็นหัวหน้าของบรรดาผู้เรืองปัญญาแห่งบาบิโลน 49 กษัตริย์กระทำตามคำร้องของดาเนียลโดยให้ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกเป็นผู้บริหารงานของแคว้นบาบิโลน ส่วนดาเนียลยังต้องรับใช้อยู่ที่ราชวังด้วย

Footnotes

  1. 2:2 เป็นชื่อที่ใช้เรียกโหราจารย์ในสมัยนั้น

เนบูคัดเนสซาร์ทรงฝัน

ในปีที่สองแห่งรัชกาล เนบูคัดเนสซาร์ทรงฝัน แล้วทุกข์พระทัยมากจนบรรทมไม่หลับ จึงรับสั่งให้นักเล่นอาคม นักเวทมนตร์ พ่อมดหมอผี และพวกโหราจารย์[a]มาทูลให้ทรงทราบว่าทรงฝันเรื่องอะไร เมื่อพวกเขามาเข้าเฝ้า กษัตริย์ตรัสกับเขาว่า “เราฝันไป ทำให้เราทุกข์ใจมาก เราอยากรู้ว่าฝันนั้นหมายถึงอะไร”

พวกโหราจารย์จึงกราบทูลเป็นภาษาอารเมค[b]ว่า “ขอฝ่าพระบาทจงทรงพระเจริญ! โปรดเล่าความฝันมาเถิด พวกข้าพระบาทจะทูลทำนายถวาย”

กษัตริย์ตรัสตอบเหล่าโหราจารย์ว่า “เราตั้งใจแน่วแน่แล้วว่า หากพวกเจ้าบอกเราไม่ได้ว่าเราฝันอะไรและหมายความว่าอะไร เราจะสับพวกเจ้าเป็นชิ้นๆ และทำลายบ้านเรือนของเจ้าให้กลายเป็นกองขยะ แต่หากเจ้าเล่าความฝันและทำนายได้ เจ้าจะได้รับรางวัลและเกียรติยศยิ่งใหญ่ ฉะนั้นจงเล่าความฝันและแก้ฝันให้เราเถิด”

พวกเขาทูลอีกว่า “ขอฝ่าพระบาททรงเล่าความฝันให้ผู้รับใช้ฟังเถิด แล้วข้าพระบาททั้งหลายจะทำนายฝันถวาย”

กษัตริย์จึงตรัสว่า “เราแน่ใจว่าพวกเจ้าพยายามถ่วงเวลา เพราะพวกเจ้ารู้อยู่ว่าเราตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว หากพวกเจ้าไม่บอกว่าเราฝันอะไรก็มีโทษทัณฑ์สถานเดียว พวกเจ้าสมรู้ร่วมคิดกันพูดล่อหลอกเราเพราะหวังว่าเราจะเปลี่ยนใจ จงเล่าความฝันมาสิ เราจะได้รู้ว่าเจ้าแก้ฝันให้เราได้”

10 โหราจารย์ทั้งหลายทูลว่า “ไม่มีใครในโลกนี้สามารถทำอย่างที่ฝ่าพระบาทประสงค์ได้! ไม่มีกษัตริย์องค์ใดจะถามเช่นนี้จากผู้เล่นอาคม นักเวทมนตร์ หรือโหราจารย์ได้ ไม่ว่ากษัตริย์องค์นั้นจะยิ่งใหญ่เกรียงไกรเพียงใด 11 สิ่งที่ฝ่าพระบาทให้ทำนี้ยากเกินวิสัยมนุษย์จะทำได้ มีแต่เทพเจ้าเท่านั้นจะบอกได้และเทพเจ้าก็ไม่ได้อยู่ในหมู่มนุษย์”

12 เมื่อได้ยินเช่นนี้ กษัตริย์ทรงพระพิโรธยิ่งนักและตรัสสั่งให้ประหารชีวิตปราชญ์ทั้งหมดในกรุงบาบิโลน 13 ดังนั้นจึงมีพระราชกฤษฎีกาออกมาให้ประหารชีวิตพวกนักปราชญ์ แล้วก็มีคนไปตามตัวดาเนียลกับเพื่อนเพื่อนำตัวไปประหาร

14 เมื่ออารีโอคผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ออกไปเพื่อประหารปราชญ์ของบาบิโลน ดาเนียลจึงเจรจากับเขาด้วยสติปัญญาและปฏิภาณ 15 ดาเนียลถามเขาว่า “เหตุใดกษัตริย์ทรงออกพระราชกฤษฎีการุนแรงถึงเพียงนี้?” อารีโอคก็อธิบายให้ฟัง 16 ดาเนียลจึงเข้าเฝ้ากษัตริย์เพื่อทูลขอเวลา เพื่อจะทูลความหมายของความฝันให้ทรงทราบ

17 จากนั้นดาเนียลกลับไปบ้านและเล่าเรื่องให้ฮานันยาห์ มิชาเอล กับอาซาริยาห์ผู้เป็นเพื่อนฟัง 18 แล้วเร่งเร้าให้พวกเขาอธิษฐานขอต่อพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ที่จะทรงกรุณาในเรื่องล้ำลึกนี้ด้วย เพื่อดาเนียลกับเพื่อนๆ จะไม่ถูกประหารไปพร้อมกับปราชญ์คนอื่นๆ ในบาบิโลน 19 คืนนั้นพระเจ้าทรงสำแดงความล้ำลึกนี้แก่ดาเนียลในนิมิต ดาเนียลจึงสรรเสริญพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ 20 และกล่าวว่า

“สรรเสริญพระนามของพระเจ้าชั่วนิจนิรันดร์

สติปัญญาและฤทธิ์อำนาจเป็นของพระองค์

21 พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงวาระเวลาและฤดูกาล

ทรงแต่งตั้งและถอดถอนกษัตริย์

พระองค์ประทานสติปัญญาแก่ผู้เฉลียวฉลาด

และประทานความรู้แก่ผู้ที่ฉลาดหลักแหลม

22 พระองค์ทรงเผยสิ่งที่ลึกซึ้งและซ่อนเร้นอยู่

ทรงทราบสิ่งที่แฝงอยู่ในความมืด

และความสว่างอยู่กับพระองค์

23 ข้าแต่พระเจ้าของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์

พระองค์ประทานสติปัญญาและฤทธิ์อำนาจแก่ข้าพระองค์

พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทราบสิ่งที่ทูลขอจากพระองค์

ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบความฝันของกษัตริย์”

ดาเนียลทำนายฝัน

24 แล้วดาเนียลไปพบอารีโอคซึ่งกษัตริย์ทรงใช้ให้ไปประหารชีวิตเหล่านักปราชญ์ของบาบิโลน ดาเนียลกล่าวกับเขาว่า “อย่าประหารเหล่านักปราชญ์ของบาบิโลนเลย โปรดนำข้าพเจ้าไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เพื่อทำนายฝันถวาย”

25 อารีโอคจึงพาดาเนียลไปเข้าเฝ้าทันทีและทูลว่า “ข้าพระบาทพบชายผู้หนึ่งในหมู่เชลยที่มาจากยูดาห์ซึ่งสามารถกราบทูลว่าความฝันนั้นหมายความว่าอะไร”

26 กษัตริย์ตรัสถามดาเนียล (หรือที่เรียกกันว่า เบลเทชัสซาร์) ว่า “เจ้าสามารถเล่าสิ่งที่เราฝันและแก้ฝันให้ได้หรือ?”

27 ดาเนียลทูลตอบว่า “ไม่มีปราชญ์ นักเวทมนตร์ นักเล่นคาถาอาคม และโหรคนใดสามารถทูลความล้ำลึกที่ฝ่าพระบาทตรัสถามนั้นได้ 28 แต่มีพระเจ้าองค์หนึ่งในฟ้าสวรรค์ผู้ทรงเปิดเผยสิ่งล้ำลึก และได้ทรงสำแดงให้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์เห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความฝันและนิมิตซึ่งผ่านเข้ามาในพระดำริขณะฝ่าพระบาทบรรทมอยู่บนพระแท่นมีดังนี้

29 “ข้าแต่กษัตริย์ ขณะฝ่าพระบาทบรรทมอยู่และทรงดำริถึงสิ่งต่าง ๆที่จะเกิดขึ้น พระเจ้าผู้ทรงเปิดเผยความล้ำลึกก็ทรงแสดงให้ฝ่าพระบาททราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น 30 ที่พระเจ้าทรงโปรดให้ความล้ำลึกนี้ประจักษ์แจ้งแก่ข้าพระบาท ไม่ใช่เพราะข้าพระบาทมีสติปัญญามากกว่าคนอื่นๆ แต่เพื่อฝ่าพระบาทจะทรงทราบความหมายและเข้าใจสิ่งที่เข้ามาในพระดำริ

31 “ข้าแต่กษัตริย์ ฝ่าพระบาทได้ทอดพระเนตรเห็นรูปปั้นมหึมาตั้งอยู่ต่อหน้าเปล่งประกายเจิดจ้า มีลักษณะน่าครั่นคร้าม 32 ศีรษะของรูปปั้นนั้นทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ หน้าอกและแขนทำด้วยเงิน ท้องและต้นขาทำด้วยทองสัมฤทธิ์ 33 ขาทำด้วยเหล็ก เท้าเป็นเหล็กปนดินเหนียว 34 ขณะฝ่าพระบาททอดพระเนตรอยู่นั้น ก็มีหินก้อนหนึ่งถูกสกัดออกมา แต่ไม่ใช่ด้วยมือของมนุษย์ หินนั้นกระแทกเท้าของรูปปั้นซึ่งทำด้วยเหล็กปนดินเหนียวแตกกระจาย 35 แล้วเหล็ก ดินเหนียว ทองสัมฤทธิ์ เงิน และทองคำ ก็แหลกเป็นชิ้นๆ และกลายเป็นเหมือนแกลบที่ลานนวดข้าวในฤดูร้อน ซึ่งลมพัดปลิวหายไปไม่เหลือร่องรอยไว้เลย แต่หินที่กระแทกรูปปั้นกลับกลายเป็นภูเขามหึมาปกคลุมทั่วโลก

36 “นั่นคือความฝัน บัดนี้ข้าพระบาทขอทูลความหมายให้ทรงทราบ 37 ฝ่าพระบาททรงเป็นจอมกษัตริย์ พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้ประทานบารมี อำนาจ ความเกรียงไกร และเกียรติแก่ฝ่าพระบาท 38 พระองค์ทรงมอบมนุษยชาติ สัตว์ป่าในท้องทุ่ง และนกในอากาศไว้ในพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท พระเจ้าทรงให้ฝ่าพระบาทครอบครองสิ่งเหล่านั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ฝ่าพระบาทคือศีรษะที่ทำด้วยทองคำนั้น

39 “หลังจากฝ่าพระบาทแล้ว จะมีอีกอาณาจักรหนึ่งรุ่งเรืองขึ้นมาแต่ด้อยกว่าของฝ่าพระบาท จากนั้นเป็นอาณาจักรที่สามคือทองสัมฤทธิ์ซึ่งจะปกครองทั่วโลก 40 ท้ายสุดคืออาณาจักรที่สี่ซึ่งแข็งแกร่งเหมือนเหล็ก เหล็กฟาดฟันทุกสิ่งให้ย่อยยับ อาณาจักรนั้นจะบดขยี้อาณาจักรอื่นๆ ทั้งปวงให้ยับเยิน เหมือนเหล็กที่ทำให้สิ่งอื่นๆ แหลกลาญ 41 ตามที่ฝ่าพระบาทเห็นว่าเท้าและนิ้วเท้าเป็นดินเหนียวปนเหล็ก แสดงว่าอาณาจักรนี้แยกออกเป็นส่วนๆ แต่ก็จะมีกำลังแข็งแกร่งเหมือนเหล็กอยู่บ้าง ตามที่ฝ่าพระบาทเห็นเป็นเหล็กปนดินเหนียว 42 ดังที่นิ้วเท้าเป็นดินเหนียวปนเหล็ก อาณาจักรนี้ก็จะมีส่วนที่แข็งแกร่งและส่วนที่เปราะบาง 43 และตามที่ฝ่าพระบาททรงเห็นเหล็กปนกับดินเหนียว ประชาชนก็จะผสมผสานแต่ไม่รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งก็ไม่ต่างจากเหล็กผสมดินเหนียว

44 “ในยุคของกษัตริย์เหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะทรงตั้งอาณาจักรหนึ่งซึ่งไม่มีใครทำลายล้างได้ ทั้งจะไม่ตกเป็นของชนชาติอื่น อาณาจักรนี้จะบดขยี้อาณาจักรอื่นๆ ทั้งปวงจนราบคาบ อาณาจักรนี้จะยั่งยืนมั่นคงตลอดกาล 45 นี่คือความหมายของนิมิตเรื่องหินที่ถูกสกัดจากภูเขา ซึ่งไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์ หินซึ่งกระแทกเหล็ก ทองสัมฤทธิ์ ดินเหนียว เงิน และทองคำให้แตกกระจาย

“พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ทรงสำแดงให้ฝ่าพระบาททราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความฝันนี้เป็นความจริงและการตีความนี้ก็เชื่อถือได้”

46 แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงทรุดองค์ลงกราบดาเนียล และรับสั่งให้นำเครื่องบูชากับเครื่องหอมมาถวายดาเนียล 47 กษัตริย์ตรัสกับดาเนียลว่า “พระเจ้าของท่านทรงเป็นพระเจ้าเหนือพระทั้งหลายแน่นอน ทรงเป็นจอมราชันและทรงเป็นผู้เปิดเผยความล้ำลึกทั้งมวล เพราะท่านสามารถเปิดเผยความล้ำลึกนี้ได้”

48 แล้วกษัตริย์ทรงแต่งตั้งดาเนียลให้ดำรงตำแหน่งสูง และประทานบำเหน็จรางวัลมากมาย ทรงตั้งให้ปกครองบาบิโลนทั้งมณฑลและให้ดูแลปราชญ์ทั้งปวงของบาบิโลน 49 ยิ่งกว่านั้นกษัตริย์ทรงแต่งตั้งชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกให้เป็นผู้บริหารมณฑลบาบิโลนตามที่ดาเนียลทูลขอ ส่วนดาเนียลเองอยู่ที่ราชสำนัก

Footnotes

  1. 2:2 หรือชาวเคลเดียเช่นเดียวกับข้อ 4,5 และ 10
  2. 2:4 เนื้อความของต้นฉบับตั้งแต่ตอนนี้จนถึงบทที่ 7 เป็นภาษาอารเมค

And in the second year of the reign of Nebuchadnezzar Nebuchadnezzar dreamed dreams, wherewith his spirit was troubled, and his sleep brake from him.

Then the king commanded to call the magicians, and the astrologers, and the sorcerers, and the Chaldeans, for to shew the king his dreams. So they came and stood before the king.

And the king said unto them, I have dreamed a dream, and my spirit was troubled to know the dream.

Then spake the Chaldeans to the king in Syriack, O king, live for ever: tell thy servants the dream, and we will shew the interpretation.

The king answered and said to the Chaldeans, The thing is gone from me: if ye will not make known unto me the dream, with the interpretation thereof, ye shall be cut in pieces, and your houses shall be made a dunghill.

But if ye shew the dream, and the interpretation thereof, ye shall receive of me gifts and rewards and great honour: therefore shew me the dream, and the interpretation thereof.

They answered again and said, Let the king tell his servants the dream, and we will shew the interpretation of it.

The king answered and said, I know of certainty that ye would gain the time, because ye see the thing is gone from me.

But if ye will not make known unto me the dream, there is but one decree for you: for ye have prepared lying and corrupt words to speak before me, till the time be changed: therefore tell me the dream, and I shall know that ye can shew me the interpretation thereof.

10 The Chaldeans answered before the king, and said, There is not a man upon the earth that can shew the king's matter: therefore there is no king, lord, nor ruler, that asked such things at any magician, or astrologer, or Chaldean.

11 And it is a rare thing that the king requireth, and there is none other that can shew it before the king, except the gods, whose dwelling is not with flesh.

12 For this cause the king was angry and very furious, and commanded to destroy all the wise men of Babylon.

13 And the decree went forth that the wise men should be slain; and they sought Daniel and his fellows to be slain.

14 Then Daniel answered with counsel and wisdom to Arioch the captain of the king's guard, which was gone forth to slay the wise men of Babylon:

15 He answered and said to Arioch the king's captain, Why is the decree so hasty from the king? Then Arioch made the thing known to Daniel.

16 Then Daniel went in, and desired of the king that he would give him time, and that he would shew the king the interpretation.

17 Then Daniel went to his house, and made the thing known to Hananiah, Mishael, and Azariah, his companions:

18 That they would desire mercies of the God of heaven concerning this secret; that Daniel and his fellows should not perish with the rest of the wise men of Babylon.

19 Then was the secret revealed unto Daniel in a night vision. Then Daniel blessed the God of heaven.

20 Daniel answered and said, Blessed be the name of God for ever and ever: for wisdom and might are his:

21 And he changeth the times and the seasons: he removeth kings, and setteth up kings: he giveth wisdom unto the wise, and knowledge to them that know understanding:

22 He revealeth the deep and secret things: he knoweth what is in the darkness, and the light dwelleth with him.

23 I thank thee, and praise thee, O thou God of my fathers, who hast given me wisdom and might, and hast made known unto me now what we desired of thee: for thou hast now made known unto us the king's matter.

24 Therefore Daniel went in unto Arioch, whom the king had ordained to destroy the wise men of Babylon: he went and said thus unto him; Destroy not the wise men of Babylon: bring me in before the king, and I will shew unto the king the interpretation.

25 Then Arioch brought in Daniel before the king in haste, and said thus unto him, I have found a man of the captives of Judah, that will make known unto the king the interpretation.

26 The king answered and said to Daniel, whose name was Belteshazzar, Art thou able to make known unto me the dream which I have seen, and the interpretation thereof?

27 Daniel answered in the presence of the king, and said, The secret which the king hath demanded cannot the wise men, the astrologers, the magicians, the soothsayers, shew unto the king;

28 But there is a God in heaven that revealeth secrets, and maketh known to the king Nebuchadnezzar what shall be in the latter days. Thy dream, and the visions of thy head upon thy bed, are these;

29 As for thee, O king, thy thoughts came into thy mind upon thy bed, what should come to pass hereafter: and he that revealeth secrets maketh known to thee what shall come to pass.

30 But as for me, this secret is not revealed to me for any wisdom that I have more than any living, but for their sakes that shall make known the interpretation to the king, and that thou mightest know the thoughts of thy heart.

31 Thou, O king, sawest, and behold a great image. This great image, whose brightness was excellent, stood before thee; and the form thereof was terrible.

32 This image's head was of fine gold, his breast and his arms of silver, his belly and his thighs of brass,

33 His legs of iron, his feet part of iron and part of clay.

34 Thou sawest till that a stone was cut out without hands, which smote the image upon his feet that were of iron and clay, and brake them to pieces.

35 Then was the iron, the clay, the brass, the silver, and the gold, broken to pieces together, and became like the chaff of the summer threshingfloors; and the wind carried them away, that no place was found for them: and the stone that smote the image became a great mountain, and filled the whole earth.

36 This is the dream; and we will tell the interpretation thereof before the king.

37 Thou, O king, art a king of kings: for the God of heaven hath given thee a kingdom, power, and strength, and glory.

38 And wheresoever the children of men dwell, the beasts of the field and the fowls of the heaven hath he given into thine hand, and hath made thee ruler over them all. Thou art this head of gold.

39 And after thee shall arise another kingdom inferior to thee, and another third kingdom of brass, which shall bear rule over all the earth.

40 And the fourth kingdom shall be strong as iron: forasmuch as iron breaketh in pieces and subdueth all things: and as iron that breaketh all these, shall it break in pieces and bruise.

41 And whereas thou sawest the feet and toes, part of potters' clay, and part of iron, the kingdom shall be divided; but there shall be in it of the strength of the iron, forasmuch as thou sawest the iron mixed with miry clay.

42 And as the toes of the feet were part of iron, and part of clay, so the kingdom shall be partly strong, and partly broken.

43 And whereas thou sawest iron mixed with miry clay, they shall mingle themselves with the seed of men: but they shall not cleave one to another, even as iron is not mixed with clay.

44 And in the days of these kings shall the God of heaven set up a kingdom, which shall never be destroyed: and the kingdom shall not be left to other people, but it shall break in pieces and consume all these kingdoms, and it shall stand for ever.

45 Forasmuch as thou sawest that the stone was cut out of the mountain without hands, and that it brake in pieces the iron, the brass, the clay, the silver, and the gold; the great God hath made known to the king what shall come to pass hereafter: and the dream is certain, and the interpretation thereof sure.

46 Then the king Nebuchadnezzar fell upon his face, and worshipped Daniel, and commanded that they should offer an oblation and sweet odours unto him.

47 The king answered unto Daniel, and said, Of a truth it is, that your God is a God of gods, and a Lord of kings, and a revealer of secrets, seeing thou couldest reveal this secret.

48 Then the king made Daniel a great man, and gave him many great gifts, and made him ruler over the whole province of Babylon, and chief of the governors over all the wise men of Babylon.

49 Then Daniel requested of the king, and he set Shadrach, Meshach, and Abednego, over the affairs of the province of Babylon: but Daniel sat in the gate of the king.