Add parallel Print Page Options

ดาเนียลอธิษฐาน

ในช่วงปีแรกของดาริอัส (ดาริอัสคนนี้เป็นลูกของเซอร์เซส[a]ผู้สืบเชื้อสายมาจากชาวมีเดียน ดาริอัสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ของพวกคาสดิม) ในช่วงปีแรกที่ดาริอัสปกครองนั้น ผม ดาเนียลได้สังเกตในเอกสารต่างๆเกี่ยวกับเรื่องที่พระยาห์เวห์บอกกับเยเรมียาห์ ผู้พูดแทนพระองค์ ที่ว่า “เมืองเยรูซาเล็มจะต้องเป็นซากปรักหักพังอยู่อย่างนั้นไปจนกว่าจะครบเจ็ดสิบปี[b] ถึงจะมีการสร้างขึ้นมาใหม่”

ดังนั้นผมจึงตัดสินใจแสวงหาพระเจ้าองค์เจ้าชีวิตของผม ด้วยการอธิษฐาน ขอความเมตตาจากพระองค์ ในขณะที่ผมอดอาหาร สวมใส่ผ้ากระสอบไว้ทุกข์ และโรยขี้เถ้าบนหัว ผมอธิษฐานกับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของผม และสารภาพบาป ผมพูดว่า

“ได้โปรดเถิด องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม ผู้ที่รักษาข้อตกลงของพระองค์ และแสดงความรักที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ กับคนที่รักพระองค์ ซึ่งก็คือคนที่ทำตามคำสั่งของพระองค์

พวกเราทำบาป ทำผิด และทำสิ่งที่ชั่วร้าย เราได้กบฏและเบือนหน้าหนีจากคำสั่งและกฎเกณฑ์ของพระองค์ เราไม่ยอมฟังพวกผู้รับใช้ของพระองค์ พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่มาพูดตามคำสั่งของพระองค์ ที่พระองค์สั่งให้มาพูดกับกษัตริย์ของเรา พวกผู้นำ พวกพ่อของเรา และทุกคนในประเทศ

องค์เจ้าชีวิตเจ้าข้า พระองค์ทำถูกต้องแล้ว แต่เรานำความอับอายขายหน้ามาสู่พวกเราเองจนถึงทุกวันนี้ คือมาสู่คนยูดาห์ พลเมืองของเยรูซาเล็ม และชาวอิสราเอลทุกคน ทั้งใกล้และไกล มาสู่คนในทุกประเทศที่พระองค์ทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปนั้น หลังจากที่พวกเขาทรยศต่อพระองค์

ใช่แล้วพระยาห์เวห์ เราได้นำความอับอายมาสู่พวกเราเอง ทั้งพวกเรา พวกกษัตริย์ พวกผู้นำ และพวกพ่อของเรา เพราะพวกเราทุกคนได้ทำบาปต่อพระองค์

แต่องค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเรามีความเมตตาและให้อภัยพวกเราที่ได้กบฏต่อพระองค์ 10 เราไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา นั่นคือเราไม่ได้ใช้ชีวิตตามคำสอนของพระองค์ ที่พระองค์ให้กับเรา ผ่านมาทางพวกผู้รับใช้ของพระองค์ คือพวกผู้พูดแทนพระเจ้านั่นเอง 11 คนอิสราเอลทุกคนละเมิดคำสั่งสอนของพระองค์ และทำผิดที่ไม่ฟังพระองค์ ดังนั้นคำสาปแช่งและคำปฏิญาณ[c] ที่เขียนไว้ในกฎของโมเสส ผู้รับใช้ของพระเจ้า ได้ตกอยู่บนเรา เพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์

12 พระองค์ก็เลยทำตามที่พระองค์ขู่ไว้ว่า จะให้เกิดขึ้นกับพวกเรา และกับพวกผู้นำของเรา พระองค์นำความหายนะครั้งใหญ่มาใส่เรา ความหายนะที่เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มนั้นร้ายแรงมาก ไม่เหมือนกับความหายนะอันไหนเลยที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทั่วใต้ฟ้านี้ 13 ความทุกข์ยากที่ได้เขียนไว้ในกฎของโมเสส ก็ได้เกิดขึ้นกับเรา เหมือนกับที่ได้เขียนไว้ในกฎทุกอย่าง แต่พวกเราก็ไม่ได้พยายามที่จะทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราพอใจ ด้วยการหันจากการทำชั่วของเรา และเรียนรู้จากความซื่อสัตย์ของพระองค์

14 พระยาห์เวห์ได้เตรียมความหายนะนี้สำหรับเวลาที่เหมาะสม แล้วพระองค์ก็ให้มันตกลงมาบนเรา ทุกอย่างที่พระยาห์เวห์พระเจ้าได้ทำไปนั้นยุติธรรมแล้ว แต่เราไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์

15 และบัดนี้ ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าของเรา พระองค์เป็นผู้ที่นำคนของพระองค์ออกจากอียิปต์

ด้วยมืออันทรงพลังของพระองค์ ด้วยพลังอำนาจที่พระองค์ได้แสดงให้เห็นนั้น ทำให้พระองค์มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วจนถึงทุกวันนี้ เราได้ทำบาปและทำสิ่งที่ชั่วร้าย 16 องค์เจ้าชีวิตของข้าพระองค์ เพื่อเห็นแก่ความเมตตาปรานี ขอได้โปรดเลิกโกรธเยรูซาเล็มเมืองของพระองค์ ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ด้วยเถิด เพราะความเลวทรามของบรรพบุรุษของเราและความบาปของพวกเรานี่เองที่ทำให้ชนชาติอื่นๆทั้งหมดที่อยู่รอบข้างเกลียดชังเยรูซาเล็มและคนของพระองค์

17 บัดนี้ พระเจ้าของพวกเราได้โปรดฟังคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์ และคำอ้อนวอนขอความเมตตาของเขาด้วยเถิด ขอให้ใบหน้าของพระองค์ส่องสว่างลงมาบนวิหารที่ปรักหักพังนี้ด้วย เพื่อเห็นแก่พระองค์เอง 18 พระเจ้าของข้าพระองค์ โปรดเงี่ยหูฟัง โปรดเปิดตาดู ซากปรักหักพังของเมืองที่ผู้คนรู้ว่าเป็นของพระองค์ ที่เราขอความเมตตาต่อพระองค์นี้ ไม่ใช่เพราะเราดีและสมควรจะได้รับ แต่เพราะพระองค์มีความเมตตาสงสารต่างหาก 19 องค์เจ้าชีวิตของผม ได้โปรดฟังด้วย องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า ได้โปรดยกโทษให้ด้วย องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า ได้โปรดสนใจด้วย พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดทำตามที่ขอด้วย เพื่อเห็นแก่พระองค์เอง และโปรดอย่ารอช้าเลย ได้โปรดทำสิ่งนี้ เพราะผู้คนรู้ว่าทั้งคนพวกนี้และเมืองนี้เป็นของพระองค์”

นิมิตเรื่องเจ็ดสิบอาทิตย์

20 ในขณะที่ผมกำลังพูด อธิษฐาน และสารภาพความผิดบาปของผมเองและของชาวอิสราเอลคนของผมนั้น ขณะที่กำลังวิงวอนขอความเมตตาต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของผม ให้กับภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์นั้น 21 ในขณะที่ผมกำลังร้องอธิษฐานนั้นเอง กาเบรียล ผู้ชายคนที่ผมเห็นในนิมิตของผมก่อนหน้านี้ ก็ลอยมาหาผม ในช่วงการถวายเครื่องบูชาตอนเย็น 22 เขามาพูดกับผม เพื่อช่วยให้ผมเข้าใจ เขาพูดว่า “ดาเนียล เราได้มาที่นี่เดี๋ยวนี้ เพื่อช่วยให้เจ้าเข้าใจ 23 ในตอนที่เจ้าเริ่มอธิษฐานขอความเมตตานั้น พระเจ้าให้คำตอบ และเราก็ได้มาบอกมัน เพราะพระเจ้ารักเจ้ามาก ดังนั้นตั้งใจฟังคำตอบให้ดี และให้เข้าใจนิมิตนั้น

24 พระเจ้าให้เวลากับคนของเจ้าและเมืองศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเจ็ดสิบอาทิตย์[d] เจ็ดสิบอาทิตย์นี้มีไว้เพื่อให้พวกเจ้าหยุดการกบฏ ทำให้บาปนั้นสิ้นสุดลง ชำระความผิดบาปของพวกเจ้า และนำความยุติธรรมอันถาวรกลับมา ทำให้คนเห็นว่านิมิตที่ผู้พูดแทนพระเจ้ามาบอกนั้นเป็นจริง และเพื่อจะเจิมสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

25 ดาเนียล ให้รู้และเข้าใจไว้ด้วยว่า นับตั้งแต่เวลาที่ได้ออกคำสั่ง ให้ฟื้นฟูและสร้างเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ ไปจนถึงเวลาที่ผู้นำที่ถูกเจิมไว้มานั้น มีเจ็ดอาทิตย์ แล้วเวลาที่ใช้สร้างเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ รวมทั้งในลานกลางเมือง พร้อมกับคูป้องกันเมือง จะใช้เวลาหกสิบสองอาทิตย์ ในช่วงนี้จะเต็มไปด้วยปัญหามากมาย 26 และผู้นำที่ถูกเจิมไว้ก็จะถูกกำจัดไปและผู้นำคนนั้นจะไม่มีอำนาจเหนือเมืองและวิหารอีกต่อไป คนที่ติดตามผู้นำคนใหม่ในอนาคตก็จะทำตัวเลวร้าย จุดจบของผู้นำคนใหม่นั้นจะมาเหมือนกับน้ำท่วมทะลัก

พระเจ้าได้ออกคำสั่งให้เกิดการทำลายมากมายจนกว่าสงครามจะสิ้นสุดลง

27 ผู้นำคนใหม่นั้นจะทำสนธิสัญญาที่เข็มแข็งกับคนจำนวนมาก และในกลางอาทิตย์นั้น การถวายเครื่องบูชาและเซ่นไหว้จะถูกหยุดไป และจะมีสิ่งที่น่าขยะแขยงมาแทนที่ จนถึงจุดจบที่พระเจ้าสั่งให้มาท่วมท้นผู้ทำลายคนนั้น”

Footnotes

  1. 9:1 เซอร์เซส เซอร์เซสเป็นชื่อในภาษากรีก เป็นคนเดียวกับ “อาหสุเอรัสซึ่งเป็นชื่อในภาษาฮีบรู”
  2. 9:2 เจ็ดสิบปี อ่านเพิ่มเติมได้จาก หนังสือเยเรมียาห์ 25:8-14
  3. 9:11 คำสาปแช่งและคำปฏิญาณ หมายถึง คนอิสราเอลให้คำปฏิญาณว่าจะทำตามกฎของพระเจ้า และถ้าไม่ทำตามก็ยอมให้คำสาปแช่งเหล่านั้นตกอยู่กับพวกเขา ดูเพิ่มเติมได้จากหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ 27:14-26; 28:15-68
  4. 9:24 อาทิตย์ หมายถึง “เจ็ดวัน” หรือ “เจ็ดปี” เหมือนในหนังสือเลวีนิติ 25:8 ดังนั้น “เจ็ดสิบอาทิตย์” คงหมายถึง 490 ปี

ดาเนียลอธิษฐานให้ชนชาติของตน

ในปีแรกของดาริอัสบุตรของอาหสุเอรัส ชาวมีเดียโดยกำเนิด ผู้เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรของชาวเคลเดีย[a] ในปีแรกที่ท่านครองราชย์ ข้าพเจ้าดาเนียลศึกษาจากพระคัมภีร์ ตามคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าที่ได้มอบให้แก่เยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า คือความวิบัติของเยรูซาเล็มจะยาวนานถึง 70 ปี[b]

แล้วข้าพเจ้าก็หันหน้าเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้า ข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์ด้วยการอธิษฐานและทูลขอร้องด้วยการอดอาหาร สวมผ้ากระสอบ และนั่งอยู่ในกองขี้เถ้า ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า และสารภาพบาปว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และเป็นที่น่าเกรงขาม พระองค์รักษาพันธสัญญาและความรักอันมั่นคงต่อบรรดาผู้ที่รักพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ พวกเรากระทำบาป กระทำผิด ประพฤติอย่างชั่วร้าย และขัดขืน พวกเราได้หันเหไปจากพระบัญญัติและคำสั่งของพระองค์ พวกเราไม่ได้เชื่อฟังผู้รับใช้ของพระองค์คือ บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ซึ่งท่านเหล่านั้นได้พูดในพระนามของพระองค์ กับบรรดากษัตริย์ของพวกเรา กับบรรดาผู้นำ บรรพบุรุษ และกับประชาชนทั้งปวงของแผ่นดิน

โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์มีความชอบธรรม แต่พวกเรากระทำสิ่งที่น่าอับอายมาจนถึงทุกวันนี้ ปวงชนชาวยูดาห์ ผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มและอิสราเอลทั้งปวง ทุกคนที่อยู่ใกล้และไกล พระองค์ได้ทำให้พวกเรากระจัดกระจายออกไปในทุกดินแดน ก็เพราะความไม่ภักดีของพวกเราที่มีต่อพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า พวกเราและบรรดากษัตริย์ของเรา บรรดาผู้นำและบรรพบุรุษของเราต้องอับอายเพราะพวกเราได้กระทำบาปต่อพระองค์ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรากอปรด้วยความเมตตาและการให้อภัย แม้ว่าพวกเราจะขัดขืนต่อพระองค์ 10 และพวกเราไม่ได้เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราในการดำเนินตามกฎบัญญัติของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่พวกเราผ่านบรรดาผู้รับใช้ คือผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า 11 ชาวอิสราเอลทั้งปวงได้ละเมิดกฎบัญญัติของพระองค์ ฝ่าฝืนและไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์ ฉะนั้นคำสาปแช่งและคำปฏิญาณที่เขียนไว้ในกฎบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า จึงตกอยู่กับพวกเราเพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์[c] 12 พระองค์ให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นตามที่พระองค์กล่าวไว้ว่าจะเกิดขึ้นกับพวกเราและผู้ที่ปกครองพวกเรา ด้วยการนำความวิบัติมาสู่พวกเรา สิ่งที่เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนภายใต้ฟ้าสวรรค์ 13 อย่างที่เขียนไว้ในกฎบัญญัติของโมเสส ความวิบัติเช่นนั้นเกิดขึ้นกับพวกเรา แต่พวกเราก็ไม่ได้ทำสิ่งซึ่งเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ด้วยการหยุดทำบาป และเอาใจใส่ในความจริงของพระองค์ 14 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าได้เตรียมและนำความวิบัติมาสู่พวกเรา ด้วยว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเรามีความชอบธรรมในทุกสิ่งที่พระองค์กระทำ และพวกเราไม่ได้เชื่อฟังพระองค์ 15 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเรา พระองค์นำชนชาติของพระองค์ออกจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ และทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่เลื่องลือ พวกเราได้ทำบาป และประพฤติอย่างชั่วร้ายมาจนถึงทุกวันนี้

16 โอ พระผู้เป็นเจ้า เนื่องจากการกระทำอันชอบธรรมทั้งสิ้นของพระองค์ ขอความโกรธและการลงโทษของพระองค์หันไปจากเยรูซาเล็ม ภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์ เพราะบาปของพวกเราและความชั่วของบรรพบุรุษของเรา เยรูซาเล็มและชนชาติของพระองค์เป็นที่หัวเราะเยาะท่ามกลางทุกคนที่อยู่รอบตัวเรา 17 โอ พระเจ้าของพวกเรา บัดนี้ขอพระองค์โปรดฟังคำอธิษฐานและคำวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า เพื่อพระองค์เอง โปรดหันหน้าด้วยแสงอันรุ่งโรจน์ของพระองค์สู่ที่พำนักซึ่งถูกทำลาย 18 โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดเงี่ยหูฟังและได้ยิน ลืมตาและดูความวิบัติของพวกเรา และดูเมืองที่ได้รับเรียกว่าเป็นของพระองค์เถิด เนื่องจากพวกเราไม่ได้วิงวอนต่อหน้าพระองค์เพราะพวกเรามีความชอบธรรม แต่เป็นเพราะความเมตตาอันใหญ่หลวงของพระองค์ 19 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดฟัง โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดยกโทษ โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดได้ยินและตอบเถิด โปรดอย่ารอช้า เพื่อพระองค์เอง โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะเมืองและชนชาติของพระองค์ได้รับเรียกว่าเป็นของพระองค์”

กาเบรียลนำคำตอบมา

20 ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังพูดและอธิษฐาน สารภาพบาปของข้าพเจ้าและของอิสราเอลชนชาติของข้าพเจ้า และวิงวอน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า เพื่อภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระเจ้าของข้าพเจ้า 21 ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังอธิษฐานอยู่ กาเบรียลผู้ซึ่งข้าพเจ้าเห็นในภาพนิมิตแต่แรกแล้ว บินโผมาหาข้าพเจ้าในเวลามอบเครื่องสักการะตอนเย็น[d] 22 ทูตสวรรค์มาบอกข้าพเจ้าว่า “โอ ดาเนียล เรามาหาก็เพื่อจะมอบสติปัญญาและความเข้าใจ 23 ทันทีที่ท่านเริ่มอธิษฐานขอ ท่านก็ได้รับคำตอบซึ่งเราจะให้ทราบว่า ท่านเป็นที่โปรดปรานอย่างยิ่ง ฉะนั้นจงตั้งใจฟังคำตอบให้ดี เพื่อจะเข้าใจภาพนิมิต

70 สัปดาห์

24 เวลาที่ถูกกำหนดไว้ให้ประชาชนและเมืองอันบริสุทธิ์ของท่าน เพื่อยุติการล่วงละเมิดและหยุดทำบาป เพื่อชดใช้ความชั่ว เพื่อให้เกิดความชอบธรรมอันเป็นนิรันดร์ เพื่อผนึกภาพนิมิตและคำพยากรณ์ด้วยตราประทับ และเพื่อเจิมบริเวณที่บริสุทธิ์ที่สุดนั้น เป็นระยะเวลา 70 สัปดาห์[e] 25 ฉะนั้น จงทราบและเข้าใจว่า นับจากระยะเวลาที่ออกคำสั่งเพื่อฟื้นฟูและสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จนกระทั่งถึงการมาของผู้ได้รับการเจิม คือองค์ราชา จะเป็นเวลานาน 7 สัปดาห์และ 62 สัปดาห์ เยรูซาเล็มจะถูกสร้างขึ้นใหม่อีก มีทั้งถนนและคูเมือง แต่จะเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยาก 26 หลังจาก 62 สัปดาห์ ผู้ได้รับการเจิมจะถูกกำจัดไป และจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ประชาชนของผู้นำที่จะมาก็จะทำลายเมืองและสถานที่บริสุทธิ์ จุดจบจะมาพร้อมกับน้ำท่วม จะเกิดสงครามจนถึงจุดจบ ความหายนะถูกกำหนดไว้แล้ว 27 เขาจะมีข้อสัญญาตกลงกับคนจำนวนมากเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และครึ่งหลังของสัปดาห์เขาจะทำให้การเผาสัตว์เป็นเครื่องสักการะและการมอบของถวายยุติลง และเขาจะเชิดชูสิ่งที่น่าชังอันเป็นเหตุให้เกิดความวิบัติ[f] และเป็นยอดสูงสุดของพระวิหาร จนกระทั่งผู้ที่ถูกกำหนดคนนั้นจะถึงจุดจบของเขา”

Footnotes

  1. 9:1 ในที่นี้หมายถึงชาวบาบิโลน
  2. 9:2 เยเรมีย์ 25:11,12; 29:10
  3. 9:11 เฉลยธรรมบัญญัติ 27:14-26; 28:15-68
  4. 9:21 อพยพ 29:38-41; กันดารวิถี 28:4
  5. 9:24 ภาษาฮีบรูเป็นจำนวน 70 x 7 ซึ่งอาจจะหมายถึง 490 ปี ฉบับเยเรมีย์ 25:11; 29:10; เลวีนิติ 26:28
  6. 9:27 มัทธิว 24:15

คำอธิษฐานของดาเนียล

ในปีที่หนึ่งแห่งรัชกาลกษัตริย์ดาริอัสโอรสของเซอร์ซีส[a] (ทรงมีเชื้อสายมีเดีย) ซึ่งได้ครองอาณาจักรบาบิโลน[b] ในปีแรกแห่งรัชกาล ข้าพเจ้าดาเนียลเข้าใจจากพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งตรัสกับผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ว่ากรุงเยรูซาเล็มจะเริศร้างอยู่เจ็ดสิบปี ข้าพเจ้าจึงขะมักเขม้นอธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยการถืออดอาหาร สวมเสื้อผ้ากระสอบ และคลุกขี้เถ้า

ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าและทูลสารภาพบาปว่า

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่และน่าครั่นคร้าม ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาแห่งความรักต่อบรรดาผู้ที่รักพระองค์และเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิดทำบาป ทำชั่วและกบฏต่อพระองค์ หันหนีจากบทบัญญัติและพระบัญชาของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังเหล่าผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ ซึ่งกล่าวในพระนามของพระองค์แก่บรรดากษัตริย์ เจ้านาย บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนประชากรของแผ่นดิน

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงชอบธรรม แต่ทุกวันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องอับอายขายหน้า ไม่ว่าชาวยูดาห์ ชาวกรุงเยรูซาเล็ม และปวงชนอิสราเอลทั้งใกล้และไกลในประเทศต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกระจัดกระจายไป เพราะเราไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนบรรดากษัตริย์ เจ้านาย และบรรพบุรุษต้องอัปยศอดสูเพราะได้ทำบาปต่อพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาและทรงให้อภัย แม้ว่าข้าพระองค์ทั้งหลายกบฏต่อพระองค์ 10 ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย และไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติที่พระองค์ประทานผ่านทางผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ 11 อิสราเอลทั้งปวงได้ล่วงละเมิดบทบัญญัติของพระองค์ และหลงเตลิดไป ไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์

“ฉะนั้นคำสาปแช่งและโทษทัณฑ์ทั้งปวงซึ่งบันทึกไว้ในบทบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าจึงตกแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์ 12 พระองค์ทรงทำตามที่ตรัสไว้แล้วว่าจะนำภัยพิบัติยิ่งใหญ่มายังข้าพระองค์ทั้งหลายและผู้ครอบครอง ทั่วใต้ฟ้าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเสมอเหมือนที่เกิดกับเยรูซาเล็ม 13 ภัยพิบัติทั้งปวงนี้เกิดกับข้าพระองค์ทั้งหลาย ตามที่บันทึกไว้แล้วในบทบัญญัติของโมเสส ถึงกระนั้นข้าพระองค์ทั้งหลายก็ไม่ได้แสวงหาความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายโดยหันกลับจากบาป และไม่ได้ใส่ใจในความจริงของพระองค์เลย 14 องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงรีรอที่จะนำภัยพิบัตินี้มายังข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงชอบธรรมในทุกสิ่งที่ทรงกระทำ ถึงเพียงนี้แล้วข้าพระองค์ทั้งหลายยังไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์

15 “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงนำประชากรของพระองค์ออกจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงอานุภาพและผู้สถาปนานามของพระองค์ซึ่งยืนยงตราบเท่าทุกวันนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิดทำบาปไปแล้ว 16 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อให้สอดคล้องกับการกระทำอันชอบธรรมทั้งปวงของพระองค์ ขอโปรดทรงหันเหพระพิโรธจากเยรูซาเล็มเมืองของพระองค์ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลายและความชั่วช้าของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นเหตุให้เยรูซาเล็มและประชากรของพระองค์กลายเป็นที่เหยียดหยามของคนทั้งปวงที่อยู่โดยรอบ

17 “ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้ขอทรงสดับคำอธิษฐานวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเห็นแก่พระองค์เอง โปรดเหลียวแลสถานนมัสการอันเริศร้างของพระองค์ด้วยความโปรดปรานเถิด 18 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเอียงพระกรรณสดับฟัง โปรดทอดพระเนตรความเริศร้างของกรุงซึ่งใช้พระนามของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายทูลวิงวอนต่อพระองค์ ไม่ใช่เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายชอบธรรม แต่เพราะพระเมตตายิ่งใหญ่ของพระองค์ 19 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงสดับ! ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงอภัย! ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงสดับและทรงช่วย! ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขออย่าทรงล่าช้าเพื่อเห็นแก่พระองค์เอง เพราะนครของพระองค์และประชากรของพระองค์ใช้พระนามของพระองค์”

เจ็ดสิบของ

20 ขณะข้าพเจ้าอธิษฐานสารภาพบาปของตัวเองและของชนอิสราเอลพี่น้องร่วมชาติและทูลอ้อนวอนพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าเพื่อภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ 21 ขณะที่ข้าพเจ้ายังอธิษฐานอยู่นั้น กาเบรียลผู้ซึ่งข้าพเจ้าเห็นในนิมิตครั้งก่อนเหาะมาหาข้าพเจ้าอย่างรวดเร็วในเวลาถวายเครื่องบูชายามเย็น 22 เขากล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “ดาเนียลเอ๋ย เรามาเพื่อให้ท่านประจักษ์แจ้งและเข้าใจ 23 ทันทีที่ท่านเริ่มอธิษฐาน พระเจ้าก็ประทานคำตอบซึ่งเราได้นำมาบอกท่านเพราะท่านเป็นผู้ที่ทรงรักยิ่ง ฉะนั้นจงใคร่ครวญเนื้อความและเข้าใจนิมิตนั้น

24 “เจ็ดสิบของ ‘เจ็ด’[c] ทรงกำหนดไว้แล้วสำหรับพี่น้องร่วมชาติและนครศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ให้เลิกการล่วงละเมิด เลิกทำบาป ลบล้างความชั่ว และนำความชอบธรรมอันมั่นคงนิรันดร์มาให้ เพื่อประทับตรานิมิตและคำพยากรณ์และเพื่อเจิมสถานที่บริสุทธิ์ที่สุด[d]

25 “จงรับรู้และเข้าใจข้อนี้เถิด คือตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกา[e]ให้กอบกู้และสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จวบจนผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งให้เป็นผู้ครอบครองนั้นจะมาถึง จะมีเจ็ดของ ‘เจ็ด’ และหกสิบสองของ ‘เจ็ด’ จะมีการสร้างถนนหนทางและคูเมือง แต่ทำในช่วงทุกข์ยากลำบาก 26 หลังจากหกสิบสองของ ‘เจ็ด’ ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งไว้จะถูกประหารและจะไม่เหลืออะไร[f] ประชาชนของผู้ครอบครองจะมาทำลายกรุงนั้นและสถานนมัสการ วาระสุดท้ายจะมาเหมือนน้ำท่วม สงครามจะขับเคี่ยวกันไปจนถึงจุดจบ และมีวิบัติตามที่กำหนดไว้ 27 ผู้นั้นจะยืนยันคำมั่นสัญญากับคนเป็นอันมากเป็นเวลาหนึ่งของ ‘เจ็ด’ แต่กลางของ ‘เจ็ด’ นั้นเอง เขาจะสั่งยุติการถวายเครื่องบูชาและของถวายต่างๆ แล้วผู้ที่ก่อให้เกิดวิบัติจะตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอันเป็นต้นเหตุของวิบัติไว้ที่ด้านหนึ่งของพระวิหารซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเริศร้าง จวบจนวาระสุดท้ายมาถึงเขา[g]ตามที่กำหนดไว้”

Footnotes

  1. 9:1 ภาษาฮีบรูว่าอาหะสุเอรัส
  2. 9:1 หรือเคลเดีย
  3. 9:24 หรือ‘สัปดาห์’ เช่นเดียวกับข้อ 25,26 และ 27
  4. 9:24 หรือผู้บริสุทธิ์ที่สุด
  5. 9:25 หรือพระดำรัส
  6. 9:26 หรือประหารและจะไม่มีใครหรือประหารแต่ไม่ใช่สำหรับพระองค์
  7. 9:27 หรือมัน