การประชุมสภาที่เยรูซาเล็ม

15 มีบางคนจากแคว้นยูเดียมาที่เมืองอันทิโอกและสอนพวกพี่น้องว่า “ถ้าท่านไม่เข้าสุหนัตตามธรรมเนียมที่โมเสสสอนไว้ ท่านก็จะไม่ได้รับความรอด” คำสอนนี้ทำให้เปาโลกับบารนาบัสโต้แย้งถกเถียงกับพวกเขาอย่างรุนแรง ดังนั้นเปาโลและบารนาบัสจึงได้รับการแต่งตั้งพร้อมกับผู้เชื่อบางคนให้ขึ้นไปพบเหล่าอัครทูตและผู้ปกครองที่เยรูซาเล็มเกี่ยวกับปัญหานี้ คริสตจักรได้ส่งพวกเขาไป และขณะเดินทางผ่านแคว้นฟีนิเซียกับสะมาเรียพวกเขาก็ได้เล่าเรื่องที่คนต่างชาติกลับใจใหม่ ข่าวนี้ทำให้พี่น้องทั้งปวงยินดียิ่งนัก เมื่อมาถึงกรุงเยรูซาเล็มพวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากคริสตจักร เหล่าอัครทูตและผู้ปกครองและได้รายงานทุกสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำผ่านพวกเขาให้คนเหล่านั้นฟัง

จากนั้นผู้เชื่อบางคนซึ่งอยู่ในกลุ่มพวกฟาริสียืนขึ้นกล่าวว่า “คนต่างชาติต้องเข้าสุหนัตและปฏิบัติตามบทบัญญัติของโมเสส”

เหล่าอัครทูตและผู้ปกครองประชุมกันเพื่อพิจารณาปัญหานี้ หลังจากอภิปรายกันมากแล้วเปโตรก็ลุกขึ้นกล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย ท่านทราบอยู่แล้วว่าก่อนหน้านี้พระเจ้าได้ทรงเลือกสรรข้าพเจ้าจากพวกท่านให้ประกาศเรื่องราวของข่าวประเสริฐแก่คนต่างชาติเพื่อพวกเขาจะได้ยินและเชื่อ พระเจ้าผู้ทรงทราบจิตใจได้ทรงสำแดงว่าทรงรับพวกเขาโดยประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่เขาเหมือนที่พระองค์ประทานแก่เรา พระองค์ไม่ได้ทรงแยกว่าพวกเขากับพวกเราแตกต่างกันเพราะพระองค์ทรงชำระจิตใจของพวกเขาโดยความเชื่อ 10 ก็แล้วบัดนี้เหตุใดท่านจึงพยายามลองดีกับพระเจ้าโดยวางแอกลงบนคอของสาวกเหล่านั้น? แอกซึ่งไม่ว่าเราหรือบรรพบุรุษของเราล้วนแบกไม่ไหว 11 อย่าเลย! เราเชื่อว่าที่เรารอดก็โดยพระคุณขององค์พระเยซูเจ้าของเราเช่นเดียวกับพวกเขา”

12 ทุกคนในที่ประชุมนิ่งฟังบารนาบัสกับเปาโลเล่าถึงหมายสำคัญและปาฏิหาริย์ต่างๆ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำท่ามกลางคนต่างชาติผ่านพวกเขา 13 เมื่อพวกเขาพูดจบแล้วยากอบกล่าวขึ้นว่า “พี่น้องทั้งหลาย โปรดฟังข้าพเจ้า 14 ซีโมน[a] ได้อธิบายให้เราฟังแล้วว่าตั้งแต่แรกพระเจ้าทรงแสดงความห่วงใยของพระองค์ โดยเลือกคนต่างชาติบางคนมาเป็นประชากรของพระองค์ 15 ทั้งนี้สอดคล้องกับคำของผู้เผยพระวจนะซึ่งเขียนไว้ว่า

16 “ ‘หลังจากนี้เราจะกลับมา
และจะสร้างเต็นท์ของดาวิดที่ล้มลงแล้วขึ้นมาใหม่
เราจะสร้างสิ่งปรักหักพังขึ้นมาใหม่
และเราจะทำให้สิ่งเหล่านั้นคืนสู่สภาพดี
17 เพื่อบรรดาผู้ที่เหลืออยู่และชนต่างชาติทั้งปวงที่ได้ชื่อตามนามของเรา
จะแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงกระทำสิ่งเหล่านี้’[b]
18 ซึ่งเป็นที่ทราบกันมาหลายยุคสมัย[c]

19 “ดังนั้นข้าพเจ้าเห็นว่าเราไม่ควรสร้างความลำบากให้กับคนต่างชาติที่หันมาหาพระเจ้า 20 แต่ให้เราเขียนไปบอกพวกเขาว่าให้ละเว้นจากอาหารที่เป็นมลทินโดยรูปเคารพ จากการผิดศีลธรรมทางเพศ จากการกินเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย และจากการกินเลือด 21 เพราะตั้งแต่โบราณกาลมีการเทศนาและอ่านธรรมบัญญัติของโมเสสในธรรมศาลาทุกวันสะบาโตในทุกๆ เมือง”

จดหมายจากที่ประชุมถึงผู้เชื่อชาวต่างชาติ

22 แล้วเหล่าอัครทูตและผู้ปกครองกับทุกคนในคริสตจักรได้ตัดสินใจให้เลือกบางคนในพวกเขาและส่งไปยังอันทิโอกกับเปาโลและบารนาบัส ที่ประชุมได้เลือกยูดาส (ที่เรียกกันว่าบารซับบาส) กับสิลาส ชายทั้งสองนี้เป็นผู้นำในหมู่พวกพี่น้อง 23 แล้วฝากพวกเขาถือจดหมายไปด้วย มีใจความว่า

จดหมายฉบับนี้จากเหล่าอัครทูตและผู้ปกครอง ผู้เป็นพี่น้องของท่าน

เรียน ท่านผู้เชื่อซึ่งเป็นชาวต่างชาติในเมืองอันทิโอก ในแคว้นซีเรีย และในแคว้นซิลีเซีย

ขอคำนับ

24 ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ยินว่ามีพวกเราบางคนไปหาท่านโดยไม่ได้รับมอบหมาย พวกเขาไปรบกวนท่านโดยกล่าวสิ่งที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ 25 ฉะนั้นเราทุกคนเห็นพ้องต้องกันที่จะเลือกบางคนและส่งมาหาพวกท่านพร้อมกับบารนาบัสและเปาโลเพื่อนที่รักของเรา 26 ผู้ซึ่งยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อพระนามขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา 27 ด้วยเหตุนี้เราจึงส่งยูดาสกับสิลาสมาเพื่อยืนยันด้วยวาจาในสิ่งที่เราเขียน 28 พระวิญญาณบริสุทธิ์และพวกข้าพเจ้าเห็นชอบที่จะไม่วางภาระใดๆ บนพวกท่านเว้นแต่ข้อกำหนดต่อไปนี้คือ 29 ท่านทั้งหลายจงงดเว้นจากอาหารที่เซ่นสังเวยรูปเคารพ งดจากการกินเลือด การกินเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย และงดจากการผิดศีลธรรมทางเพศ หากพวกท่านงดสิ่งเหล่านี้ได้จะเป็นการดี

ขอความสุขสวัสดีมีแก่ท่าน

30 คนเหล่านั้นจึงออกเดินทางมายังเมืองอันทิโอก พวกเขาเรียกประชุมคริสตจักรที่นั่นและมอบจดหมายให้ 31 เมื่อผู้คนที่นั่นอ่านจดหมายแล้วก็เกิดกำลังใจ 32 ยูดาสกับสิลาสเองซึ่งเป็นผู้เผยพระวจนะได้กล่าวหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อให้กำลังใจและเสริมสร้างพวกพี่น้องให้เข้มแข็ง 33 หลังจากใช้เวลาอยู่ที่นั่นระยะหนึ่งพวกพี่น้องก็ส่งพวกเขากลับไปหาบรรดาผู้ที่ส่งพวกเขามาพร้อมทั้งอวยพรให้มีสันติสุข[d] 35 ส่วนเปาโลกับบารนาบัสยังคงอยู่ที่เมืองอันทิโอก พวกเขาสั่งสอนและประกาศพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าร่วมกับอีกหลายคน

เปาโลแยกจากบารนาบัส

36 ต่อมาเปาโลกล่าวกับบารนาบัสว่า “ให้เรากลับไปเยี่ยมพี่น้องในทุกเมืองที่เราได้ประกาศพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ดูว่าพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง” 37 บารนาบัสต้องการจะพายอห์นที่มีอีกชื่อว่ามาระโกไปด้วย 38 แต่เปาโลเห็นว่าไม่ควรที่จะพาเขาไปด้วยเพราะครั้งก่อนยอห์นได้ละทิ้งพวกเขาที่แคว้นปัมฟีเลียและไม่ได้ร่วมงานต่อไป 39 เขาทั้งสองขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจนต้องแยกกัน บารนาบัสพามาระโกลงเรือไปเกาะไซปรัส 40 แต่เปาโลเลือกสิลาสและออกเดินทางไปโดยพี่น้องได้มอบพวกเขาไว้ในพระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้า 41 เขาไปทั่วแคว้นซีเรียและซิลีเซีย เสริมสร้างคริสตจักรต่างๆ ให้เข้มแข็ง

Footnotes

  1. 15:14 ภาษากรีกว่าสิเมโอนเป็นอีกรูปหนึ่งของคำว่าซีโมนคือเปโตร
  2. 15:17 อมส. 9:11,12
  3. 15:18 สำเนาต้นฉบับบางสำเนาว่า 18 ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทราบมาหลายยุคสมัยในพระราชกิจของพระองค์
  4. 15:33 สำเนาต้นฉบับบางสำเนาว่าสันติสุข 34 แต่สิลาสตัดสินใจที่จะอยู่ที่นั่นต่อไป

การประชุมที่เมืองเยรูซาเล็ม

15 มีชายบางคนที่ลงมาจากแคว้นยูเดียได้สั่งสอนพวกพี่น้องว่า “ถ้าพวกท่านไม่เข้าสุหนัตตามประเพณีนิยมที่โมเสสสอน ท่านก็จะไม่รอดพ้น” เปาโลและบาร์นาบัสจึงโต้แย้งและถกเถียงอย่างรุนแรงกับพวกเขา ดังนั้นเปาโล บาร์นาบัส และผู้ที่เชื่อบางคนจึงได้รับเลือกให้ขึ้นไปยังเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อปรึกษากับพวกอัครทูตและผู้ปกครองเกี่ยวกับเรื่องที่โต้เถียงกันอยู่ และคริสตจักรได้ส่งไปก็เพื่อการนั้น ขณะที่พวกเขาเดินทางผ่านแคว้นฟีนิเซียกับแคว้นสะมาเรีย ก็ได้เล่าถึงการที่บรรดาคนนอกหันมาเชื่อในพระเจ้า ข่าวนั้นจึงสร้างความปิติแก่พี่น้องทุกคนยิ่งนัก เมื่อท่านทั้งหลายมาถึงเมืองเยรูซาเล็มก็ได้รับการต้อนรับจากคริสตจักร พวกอัครทูต และจากผู้ปกครอง และได้รายงานถึงทุกสิ่งที่พระเจ้าได้ใช้ให้พวกท่านทำ มีผู้ที่เชื่อบางคนในพรรคฟาริสียืนขึ้นกล่าวว่า “บรรดาคนนอกต้องเข้าสุหนัตและต้องปฏิบัติตามหมวดกฎบัญญัติของโมเสส”

พวกอัครทูตและพวกผู้ปกครองจึงประชุมกันเพื่อพิจารณาเรื่องนั้น หลังจากที่ได้ปรึกษากันเป็นอย่างดีแล้ว เปโตรลุกขึ้นกล่าวว่า “พี่น้องเอ๋ย ท่านคงทราบดีแล้วว่า เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่พระเจ้าได้เลือกข้าพเจ้าจากบรรดาท่าน เพื่อประกาศข่าวประเสริฐให้บรรดาคนนอกฟังและเชื่อ พระเจ้าหยั่งถึงใจมนุษย์ จึงแสดงให้เห็นว่า พระองค์รับพวกเขาโดยมอบพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่เขา เช่นเดียวกับที่มอบแก่พวกเรา พระเจ้าแสดงให้เห็นว่าพวกเราไม่ต่างไปจากพวกเขาเลย พระองค์ชำระใจของเขาให้บริสุทธิ์ก็เพราะเขาเชื่อ 10 อย่างนั้นแล้ว ทำไมท่านจึงพยายามลองดีกับพระเจ้า โดยการวางแอกบนคอของพวกสาวก ทั้งๆ ที่พวกเราหรือบรรพบุรุษของเราไม่สามารถแบกเองได้ 11 แต่พวกเราเชื่อว่า เป็นเพราะพระคุณของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ทำให้เราทั้งหลายและพวกเขารอดพ้น”

12 ที่ประชุมทั้งหมดก็นิ่งเงียบ ขณะที่ฟังบาร์นาบัสและเปาโลเล่าถึงปรากฏการณ์อัศจรรย์และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ที่พระเจ้าได้ใช้ท่านทั้งสองกระทำในหมู่คนนอก 13 จากนั้น ยากอบจึงกล่าวว่า “พี่น้องเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้าเถิด 14 ซีโมนได้บรรยายให้พวกเราฟังว่า พระเจ้าแสดงความห่วงใยมาตั้งแต่แรก จึงได้เลือกบรรดาคนนอกให้มาเป็นคนของพระองค์ 15 คำพูดของผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าก็เห็นพ้องด้วย ตามที่มีบันทึกไว้ว่า

16 ‘หลังจากนี้ เราจะกลับมาสร้าง
    กระโจมของดาวิดที่ล้มลงขึ้นใหม่
สิ่งที่ปรักหักพัง เราจะสร้างขึ้นใหม่
    และเราจะบูรณะให้กลับคืนมา
17 ให้มนุษย์ส่วนที่เหลืออยู่แสวงหาพระผู้เป็นเจ้า
    และคนนอกทุกคนซึ่งได้รับเรียกว่าเป็นคนของเรา
พระผู้เป็นเจ้ากล่าวเช่นนั้น เพื่อให้เป็นที่ทราบกัน
18     ตั้งแต่นานมาแล้ว’[a]

19 ด้วยเหตุฉะนั้น ตามความเห็นของข้าพเจ้าแล้ว เราไม่ควรทำให้คนนอกซึ่งกลับใจเข้าหาพระเจ้าต้องลำบาก 20 แต่ว่าเราควรเขียนถึงพวกเขา ให้ละเว้นอาหารที่มีมลทินจากรูปเคารพต่างๆ จากการประพฤติผิดทางเพศ ละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย หรือรับประทานเลือด 21 เพราะเหตุว่าตั้งแต่สมัยโบราณมา ในทุกเมืองมีผู้ประกาศเรื่องที่โมเสสได้เขียนไว้ และมีการอ่านกันในศาลาที่ประชุมทุกๆ วันสะบาโต”

ที่ประชุมส่งจดหมายถึงพี่น้องที่เป็นคนนอก

22 ครั้นแล้วพวกอัครทูต ผู้ปกครอง และทุกคนในคริสตจักรก็ได้ตัดสินใจเลือกชายบางคนในพวกเขาเอง เพื่อส่งไปยังเมืองอันทิโอกด้วยกันกับเปาโลและบาร์นาบัส คนที่พวกเขาเลือกคือสิลาส และยูดาสที่มีอีกชื่อหนึ่งว่าบาร์ซับบาส ซึ่งทั้งสองก็เป็นผู้นำในหมู่พี่น้อง 23 โดยให้มีจดหมายถือไปด้วยว่า “เหล่าอัครทูตและเหล่าผู้ปกครองที่เป็นพี่น้องของท่าน ส่งความคิดถึงมายังพี่น้องทั้งหลายที่เป็นคนนอก ที่เมืองอันทิโอก แคว้นซีเรีย และแคว้นซีลีเซีย 24 เราทั้งหลายได้ยินว่ามีบางคนในหมู่เราที่ได้ออกไป โดยไม่ได้รับคำสั่งจากเรา และได้พูดรบกวนก่อความรำคาญใจให้ท่าน 25 ดังนั้นเราทุกคนจึงเห็นชอบที่จะเลือกชายบางคนเพื่อให้มาหาท่าน พร้อมกับเพื่อนที่รักของเราคือบาร์นาบัสและเปาโล 26 ที่ได้เสี่ยงชีวิตตนเองเพื่อพระนามของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา 27 เหตุฉะนั้น พวกเราจะให้ยูดาสและสิลาสมาเล่าให้ท่านฟังถึงสิ่งเดียวกันกับที่บันทึกไว้ 28 พระวิญญาณบริสุทธิ์และพวกเราเห็นชอบแล้วที่จะไม่ให้ท่านแบกภาระหนักเกินไปกว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้ 29 คือพวกท่านต้องละเว้นจากอาหารที่ได้บูชาแก่รูปเคารพต่างๆ จากเลือด จากเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย และละเว้นจากการประพฤติผิดทางเพศ ท่านหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ก็จะดี ขอให้อยู่เป็นสุขเถิด”

30 เมื่อท่านเหล่านั้นเดินทางจากไปแล้ว ก็ได้ลงไปยังเมืองอันทิโอก ซึ่งเป็นเมืองที่เขาทั้งหลายเรียกประชุมคริสตจักร และยื่นจดหมายนั้นให้ 31 ครั้นอ่านแล้ว พวกเขาต่างก็ชื่นชมยินดีในเรื่องที่เป็นการให้กำลังใจ 32 ยูดาสและสิลาสซึ่งก็เป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าเอง ได้กล่าวถึงหลายเรื่องแก่พวกพี่น้อง เพื่อให้กำลังใจและให้มีความกล้าหาญ 33 หลังจากที่ได้พักอยู่ที่นั่นเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว พวกพี่น้องก็ส่งท่านเหล่านั้นกลับไปยังพวกที่ใช้ให้มา โดยกล่าวให้พรแก่พวกเขา [34 แต่สิลาสตัดสินใจที่จะอยู่ที่นั่นต่อ][b] 35 เปาโลและบาร์นาบัสยังคงอยู่ในเมืองอันทิโอก สั่งสอนและประกาศคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าร่วมกับท่านอื่นๆ อีกหลายท่านด้วย

เปาโลและบาร์นาบัสแยกทางกัน

36 ต่อมาเปาโลพูดกับบาร์นาบัสว่า “เรากลับไปเยี่ยมพวกพี่น้องตามเมืองต่างๆ ที่เราได้ประกาศคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้ากันเถิด ไปดูว่าพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง” 37 บาร์นาบัสคิดจะพายอห์นหรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่ามาระโกไปด้วย 38 แต่เปาโลเห็นว่าไม่สมควร เพราะว่าเขาได้ละทิ้งเปาโลและบาร์นาบัสไว้ที่แคว้นปัมฟีเลีย และไม่ได้ทำงานกับท่านทั้งสองให้เสร็จ 39 เปาโลและบาร์นาบัสขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจนถึงกับต้องแยกทางกัน บาร์นาบัสพามาระโกแล่นเรือกันไปยังเกาะไซปรัส 40 เปาโลได้เลือกสิลาสให้ไปด้วย โดยที่พวกพี่น้องได้ฝากท่านทั้งสองไว้ในพระคุณของพระผู้เป็นเจ้า 41 แล้วท่านเดินทางไปทั่วทั้งแคว้นซีเรียและซีลีเซียเพื่อให้กำลังใจคริสตจักร

Footnotes

  1. 15:18 อาโมส 9:11,12
  2. 15:34 […] มีหนังสือฉบับแรกๆ บางฉบับที่บันทึกไว้ครั้งโบราณ มีข้อความบันทึกตามนี้

การประชุมในเมืองเยรูซาเล็ม

15 มีบางคนเดินทางมาจากแคว้นยูเดีย และได้มาสั่งสอนพวกพี่น้องว่า “ถ้าพวกคุณไม่ได้เข้าพิธีขลิบตามกฎของโมเสส พวกคุณก็จะไม่รอด” เปาโลและบารนาบัสไม่เห็นด้วยกับพวกเขา จึงเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ พี่น้องจึงแต่งตั้งเปาโล บารนาบัสกับบางคนในพวกเขาให้ไปหารือกับพวกศิษย์เอกของพระเยซูและพวกผู้นำอาวุโส ที่เมืองเยรูซาเล็มเกี่ยวกับปัญหานี้

หมู่ประชุมของพระเจ้าได้ส่งพวกนี้ออกเดินทางไป เมื่อผ่านแคว้นฟีนีเซียและแคว้นสะมาเรีย พวกเขาก็ได้เล่าเรื่องที่คนที่ไม่ใช่ยิวหันไปหาพระเจ้า ทำให้พี่น้องทุกคนดีใจมาก เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงเมืองเยรูซาเล็ม ก็ได้รับการต้อนรับจากหมู่ประชุมของพระเจ้า จากพวกศิษย์เอกของพระเยซู และจากพวกผู้นำอาวุโส พวกเขาเล่าทุกสิ่งที่พระเจ้าได้ทำร่วมกับพวกเขา ศิษย์ของพระเยซูบางคน ที่เป็นพวกฟารีสียืนขึ้นพูดว่า “พวกคนที่ไม่ใช่ยิวจะต้องเข้าพิธีขลิบ และต้องทำตามกฎของโมเสสด้วย” พวกศิษย์เอกของพระเยซูและพวกผู้นำอาวุโส จึงได้ประชุมหารือกันเกี่ยวกับปัญหานี้ หลังจากโต้เถียงกันอยู่นาน เปโตรก็ยืนขึ้นพูดว่า “พี่น้องครับ คุณก็รู้อยู่ว่าก่อนหน้านี้พระเจ้าได้เลือกผมจากท่ามกลางพวกคุณให้ไปประกาศพระคำแห่งข่าวดีให้กับพวกคนที่ไม่ใช่ยิวฟัง เพื่อพวกเขาจะได้เชื่อ พระเจ้าผู้รู้จิตใจของมนุษย์ดี ได้แสดงให้เห็นว่า พระองค์ยอมรับคนที่ไม่ใช่ยิว พระองค์ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์กับพวกเขาเหมือนที่ให้กับพวกเรา สำหรับพระเจ้าแล้ว เรากับพวกนั้น ไม่ได้แตกต่างกันเลย พระองค์ชำระจิตใจของพวกเขาด้วยความเชื่อเหมือนกัน 10 ถ้าอย่างนั้น พวกคุณลองดีกับพระเจ้าทำไม คือเอาแอก[a] ที่พวกเราหรือบรรพบุรุษของเราเอง ก็ยังแบกไม่ไหวไปสวมคอของพวกศิษย์ที่ไม่ใช่ยิว 11 แต่เราเชื่อว่า เรารอดโดยความเมตตากรุณาของพระเยซูผู้เป็นองค์เจ้าชีวิต และเราก็เชื่อว่าพวกคนที่ไม่ใช่ยิวก็รอดโดยวิธีนี้เหมือนกัน” 12 คนทั้งหมดจึงเริ่มเงียบ และตั้งใจฟังบารนาบัสและเปาโลเล่าเกี่ยวกับปาฏิหาริย์และสิ่งอัศจรรย์ทุกอย่างที่พระเจ้าได้ทำผ่านพวกเขาในหมู่คนที่ไม่ใช่ยิว 13 เมื่อพวกเขาพูดจบ ยากอบก็พูดขึ้นว่า “พี่น้องทั้งหลาย ฟังผมหน่อย 14 ซีโมน[b] ได้เล่าให้พวกเราฟังว่า พระเจ้าได้แสดงความห่วงใยต่อคนที่ไม่ใช่ยิวอย่างไรในครั้งแรก ก็ด้วยการเลือกเอาคนไม่ใช่ยิวบางคนมาเป็นชนชาติของพระองค์ 15 ซึ่งตรงกับที่พวกผู้พูดแทนพระเจ้าได้เขียนไว้

16 ‘หลังจากนี้เราจะกลับมา
    และเราจะสร้างบ้านของดาวิดที่พังทลายลงขึ้นมาใหม่
เราจะซ่อมแซมส่วนที่ปรักหักพัง
    เราจะตั้งมันขึ้นมาใหม่
17 ดังนั้นมนุษย์ที่เหลือทุกคน
    รวมถึงคนที่ไม่ใช่ยิวทุกคนที่เราได้เรียกให้มาเป็นของเรา
ก็จะแสวงหาเรา องค์เจ้าชีวิต
    นี่เป็นคำพูดขององค์เจ้าชีวิตผู้ทำสิ่งเหล่านี้(A)

18 ซึ่งเป็นที่รู้กันมาตั้งนานแล้ว’[c]

19 ดังนั้นผมขอตัดสินว่า เราควรเลิกสร้างปัญหาให้กับคนที่ไม่ใช่ยิวเหล่านั้น ที่กำลังหันมาหาพระเจ้า 20 แต่เราควรจะเขียนจดหมายไปบอกพวกเขาว่า

อย่ากินอาหารที่สกปรกในสายตาพระเจ้า เพราะเคยเอาไปเซ่นไหว้รูปเคารพ

อย่าทำผิดบาปทางเพศ[d]

อย่ากินเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอ

และอย่ากินเลือด

21 เพราะกฎพวกนี้ของโมเสส ก็ได้สั่งสอนกันอยู่แล้วในทุกๆเมือง ตั้งแต่สมัยโบราณและยังคงอ่านกันอยู่ในที่ประชุมชาวยิวทุกๆวันหยุดทางศาสนา”

จดหมายถึงผู้เชื่อที่ไม่ใช่ยิว

22 แล้วพวกศิษย์เอกของพระเยซู พวกผู้นำอาวุโส และหมู่ประชุมของพระเจ้าทั้งหมด ตัดสินใจเลือกผู้ชายบางคนในกลุ่มพวกเขาให้เดินทางไปที่เมืองอันทิโอกกับเปาโลและบารนาบัส พวกเขาเลือกยูดาสที่คนเรียกว่าบารซับบาสและสิลาส ผู้นำสองคนในหมู่พี่น้อง 23 พวกเขาฝากจดหมายไปกับสองคนนี้ด้วย ในจดหมายเขียนว่า

จากพวกศิษย์เอกของพระเยซู และพวกผู้นำอาวุโส ผู้เป็นพี่น้องของคุณ

สวัสดีพี่น้องที่ไม่ใช่ยิวในเมืองอันทิโอก ซีเรียและซิลีเซีย

24 เนื่องจากเราได้ยินว่า มีบางคนจากที่นี่ได้มาหาพวกคุณ และพูดบางอย่างที่สร้างปัญหาให้กับคุณ ทำให้คุณวุ่นวายใจ แต่เราไม่ได้ส่งพวกเขามา 25 พวกเราทั้งหมดจึงได้ตกลงใจที่จะเลือกผู้ชายบางคน เพื่อส่งมาหาคุณ พร้อมกับบารนาบัสและเปาโลคนที่เรารัก 26 ที่เสี่ยงชีวิตเพื่อพระเยซูผู้เป็นพระคริสต์และองค์เจ้าชีวิตของเรา 27 ดังนั้นเราจึงส่งยูดาสและสิลาสมา พวกเขาจะมาเล่าเองยืนยันถึงสิ่งต่างๆที่เราได้เขียนมา 28 ทั้งพระวิญญาณบริสุทธิ์และพวกเราเห็นดีด้วยกันว่าจะไม่วางภาระอะไรให้กับพวกคุณเลย นอกจากสิ่งที่จำเป็นพวกนี้ คือ

29 คุณควรหลีกเลี่ยงจากการกินเครื่องเซ่นไหว้รูปเคารพ

อย่ากินเลือด อย่ากินเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย

อย่าทำบาปทางเพศ

ถ้าพวกคุณอยู่ห่างเสียจากสิ่งพวกนี้ พวกคุณก็ทำดีแล้ว ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข

30 แล้วหมู่ประชุมของพระเจ้าก็ส่งบารนาบัส เปาโล ยูดาส และสิลาส ไปเมืองอันทิโอก พวกเขาได้เรียกหมู่ประชุมของพระเจ้ามาประชุมกัน และให้จดหมายนั้นกับพวกเขา 31 เมื่อได้อ่านจดหมายแล้ว ทุกคนต่างรู้สึกพอใจและมีกำลังใจ 32 ยูดาสและสิลาส ที่เป็นผู้พูดแทนพระเจ้าด้วย ก็พูดกับพวกพี่น้องเป็นเวลานาน ให้กำลังใจและช่วยให้พวกเขามีความเชื่อมากขึ้น 33 หลังจากที่ยูดาสและสิลาสอยู่ที่นั่นสักพักหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่จะกลับไปหาพี่น้องที่ส่งพวกเขามา พี่น้องที่เมืองอันทิโอกก็ได้อวยพรให้เขาเดินทางกลับไปด้วยความปลอดภัย 34 [e]

35 แต่เปาโลและบารนาบัสยังอยู่ในเมืองอันทิโอก ได้สั่งสอนและประกาศพระคำขององค์เจ้าชีวิตเป็นข่าวดีร่วมกับคนอื่นๆอีกหลายคน

เปาโลและบารนาบัสแยกกันทำงาน

36 เวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง เปาโลพูดกับบารนาบัสว่า “ให้เรากลับไปเยี่ยมพี่น้องในเมืองต่างๆที่เราเคยไปประกาศพระคำขององค์เจ้าชีวิตไว้กันเถอะ ไปดูสิว่าพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง” 37 บารนาบัสอยากจะพายอห์นที่คนเรียกว่ามาระโกไปด้วย 38 แต่เปาโลคิดว่าทางที่ดีไม่ควรพายอห์นไป เพราะยอห์นเคยทิ้งพวกเขาไปตอนที่อยู่เมืองปัมฟีเลีย และไม่ยอมช่วยงานต่อ 39 ทำให้เปาโลกับบารนาบัส ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นต้องแยกทางกัน บารนาบัสจึงพามาระโก นั่งเรือไปเกาะไซปรัส 40 ส่วนเปาโลเลือกสิลาส แล้วก็ไปจากเมืองนี้หลังจากที่พี่น้องฝากเปาโลไว้ให้องค์เจ้าชีวิตดูแลแล้ว 41 เปาโลเดินทางไปทั่วแคว้นซีเรียและแคว้นซิลีเซีย เพื่อช่วยหมู่ประชุมต่างๆของพระเจ้าให้เข้มแข็งขึ้นในความเชื่อ

Footnotes

  1. 15:10 แอก หมายถึงกฎของยิว ชาวยิวบางคนพยายามจะทำให้ผู้เชื่อที่ไม่ใช่ยิวต้องปฏิบัติตามกฎนี้
  2. 15:14 ซีโมน เป็นอีกชื่อหนึ่งของเปโตร
  3. 15:18 ดูใน อิสยาห์ 45:21
  4. 15:20 อย่าทำผิดบาปทางเพศ ประโยคนี้อาจจะแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ให้งดเว้นการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎโมเสส” คนที่ไม่ใช่ยิวบางครั้งอนุญาตให้ญาติพี่น้องที่สนิทแต่งงานกันประเภทที่ผิดกฎโมเสส ดูเพิ่มเติมได้จากหนังสือ เลวีนิติ 18:6-18
  5. 15:34 ข้อนี้ สำเนากรีกบางฉบับ ก็เพิ่มข้อ 34 ลงไป ว่า “แต่สิลาสตัดสินใจอยู่ที่นั่น”

The Council at Jerusalem

15 Certain people(A) came down from Judea to Antioch and were teaching the believers:(B) “Unless you are circumcised,(C) according to the custom taught by Moses,(D) you cannot be saved.” This brought Paul and Barnabas into sharp dispute and debate with them. So Paul and Barnabas were appointed, along with some other believers, to go up to Jerusalem(E) to see the apostles and elders(F) about this question. The church sent them on their way, and as they traveled through Phoenicia(G) and Samaria, they told how the Gentiles had been converted.(H) This news made all the believers very glad. When they came to Jerusalem, they were welcomed by the church and the apostles and elders, to whom they reported everything God had done through them.(I)

Then some of the believers who belonged to the party(J) of the Pharisees(K) stood up and said, “The Gentiles must be circumcised and required to keep the law of Moses.”(L)

The apostles and elders met to consider this question. After much discussion, Peter got up and addressed them: “Brothers, you know that some time ago God made a choice among you that the Gentiles might hear from my lips the message of the gospel and believe.(M) God, who knows the heart,(N) showed that he accepted them by giving the Holy Spirit to them,(O) just as he did to us. He did not discriminate between us and them,(P) for he purified their hearts by faith.(Q) 10 Now then, why do you try to test God(R) by putting on the necks of Gentiles a yoke(S) that neither we nor our ancestors have been able to bear? 11 No! We believe it is through the grace(T) of our Lord Jesus that we are saved, just as they are.”

12 The whole assembly became silent as they listened to Barnabas and Paul telling about the signs and wonders(U) God had done among the Gentiles through them.(V) 13 When they finished, James(W) spoke up. “Brothers,” he said, “listen to me. 14 Simon[a] has described to us how God first intervened to choose a people for his name from the Gentiles.(X) 15 The words of the prophets are in agreement with this, as it is written:

16 “‘After this I will return
    and rebuild David’s fallen tent.
Its ruins I will rebuild,
    and I will restore it,
17 that the rest of mankind may seek the Lord,
    even all the Gentiles who bear my name,
says the Lord, who does these things’[b](Y)
18     things known from long ago.[c](Z)

19 “It is my judgment, therefore, that we should not make it difficult for the Gentiles who are turning to God. 20 Instead we should write to them, telling them to abstain from food polluted by idols,(AA) from sexual immorality,(AB) from the meat of strangled animals and from blood.(AC) 21 For the law of Moses has been preached in every city from the earliest times and is read in the synagogues on every Sabbath.”(AD)

The Council’s Letter to Gentile Believers

22 Then the apostles and elders,(AE) with the whole church, decided to choose some of their own men and send them to Antioch(AF) with Paul and Barnabas. They chose Judas (called Barsabbas) and Silas,(AG) men who were leaders among the believers. 23 With them they sent the following letter:

The apostles and elders, your brothers,

To the Gentile believers in Antioch,(AH) Syria(AI) and Cilicia:(AJ)

Greetings.(AK)

24 We have heard that some went out from us without our authorization and disturbed you, troubling your minds by what they said.(AL) 25 So we all agreed to choose some men and send them to you with our dear friends Barnabas and Paul— 26 men who have risked their lives(AM) for the name of our Lord Jesus Christ. 27 Therefore we are sending Judas and Silas(AN) to confirm by word of mouth what we are writing. 28 It seemed good to the Holy Spirit(AO) and to us not to burden you with anything beyond the following requirements: 29 You are to abstain from food sacrificed to idols, from blood, from the meat of strangled animals and from sexual immorality.(AP) You will do well to avoid these things.

Farewell.

30 So the men were sent off and went down to Antioch, where they gathered the church together and delivered the letter. 31 The people read it and were glad for its encouraging message. 32 Judas and Silas,(AQ) who themselves were prophets,(AR) said much to encourage and strengthen the believers. 33 After spending some time there, they were sent off by the believers with the blessing of peace(AS) to return to those who had sent them. [34] [d] 35 But Paul and Barnabas remained in Antioch, where they and many others taught and preached(AT) the word of the Lord.(AU)

Disagreement Between Paul and Barnabas

36 Some time later Paul said to Barnabas, “Let us go back and visit the believers in all the towns(AV) where we preached the word of the Lord(AW) and see how they are doing.” 37 Barnabas wanted to take John, also called Mark,(AX) with them, 38 but Paul did not think it wise to take him, because he had deserted them(AY) in Pamphylia and had not continued with them in the work. 39 They had such a sharp disagreement that they parted company. Barnabas took Mark and sailed for Cyprus, 40 but Paul chose Silas(AZ) and left, commended by the believers to the grace of the Lord.(BA) 41 He went through Syria(BB) and Cilicia,(BC) strengthening the churches.(BD)

Footnotes

  1. Acts 15:14 Greek Simeon, a variant of Simon; that is, Peter
  2. Acts 15:17 Amos 9:11,12 (see Septuagint)
  3. Acts 15:18 Some manuscripts things’— / 18 the Lord’s work is known to him from long ago
  4. Acts 15:34 Some manuscripts include here But Silas decided to remain there.