รูปเคารพกับแท่นบูชา

22 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงแจ้งประชากรอิสราเอลว่า ‘พวกเจ้าเองก็เห็นแล้วว่าเราได้พูดกับเจ้าจากฟ้าสวรรค์ 23 เจ้าอย่าสร้างรูปเคารพใดๆ ขึ้นมาเทียบเคียงเรา อย่าสร้างรูปเคารพที่ทำด้วยเงินหรือทองไว้สำหรับตนเอง

24 “ ‘จงสร้างแท่นบูชาสำหรับเราด้วยดิน เพื่อถวายแกะ แพะ และวัวเป็นเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชาแก่เราบนแท่นนั้น ที่ใดซึ่งเรากำหนดให้เป็นที่เทิดทูนนามของเรา เราจะมาหาและอวยพรเจ้าทั้งหลายที่นั่น 25 ถ้าเจ้าทำแท่นบูชาสำหรับเราด้วยหิน อย่าใช้หินที่ตัดแต่งแล้ว อย่าตัดหรือแต่งก้อนหินด้วยเครื่องมือ เพราะจะทำให้แท่นเป็นมลทิน 26 อย่าขึ้นไปยังแท่นของเราทางบันได เกรงว่าบางคนอาจจะเงยหน้าขึ้นมองเห็นความเปลือยของเจ้า’

21 “ต่อไปนี้เป็นบทบัญญัติที่เจ้าจะต้องตราไว้ต่อหน้าพวกเขา คือ

ทาสฮีบรู(A)

“หากเจ้าซื้อทาสฮีบรูมาคนหนึ่ง เขาจะรับใช้เจ้าเป็นเวลาหกปี แต่ในปีที่เจ็ดเขาจะเป็นไทโดยไม่ต้องเสียค่าไถ่ใดๆ ถ้าเขามาคนเดียวก็เป็นไทไปคนเดียว แต่หากเขามีภรรยามาด้วย ภรรยาของเขาจะเป็นไทพร้อมกับเขา หากว่านายหาภรรยาให้ แล้วเขามีบุตรชายหรือบุตรสาว ทั้งภรรยาและบุตรจะยังคงเป็นของนาย ส่วนตัวเขาจะเป็นอิสระแต่ผู้เดียว

“แต่ถ้าทาสคนนั้นประกาศว่า ‘ข้าพเจ้ารักนายและลูกเมียของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่อยากเป็นไท’ นายต้องพาเขามาหาตุลาการ[a] และนำเขาไปที่ประตูหรือวงกบประตู แล้วใช้เหล็กหมาดเจาะหูเขา จากนั้นเขาจะเป็นทาสไปตลอดชีวิต

“ผู้ใดขายบุตรสาวของตนไปเป็นทาส นางจะไม่ได้รับการปลดปล่อยเหมือนทาสชาย หากนางไม่เป็นที่ถูกใจนายที่เลือกซื้อนางไปสำหรับตัวเขาเอง[b] เขาจะต้องยินยอมให้ไถ่ตัวนาง เขาไม่มีสิทธิ์ขายนางให้คนต่างด้าวเพราะเขาได้ผิดสัญญาต่อนาง หากเขาเลือกซื้อนางไว้สำหรับบุตรชายของตน เขาต้องให้สิทธิ์ของบุตรสาวแก่นาง 10 หากเขาได้ภรรยามาอีกคน เขาต้องไม่ลดอาหาร เครื่องนุ่งห่มหรือสิทธิ์ในฐานะภรรยาแก่นาง 11 หากเขาไม่ให้ทั้งสามสิ่งนี้ นางก็จะเป็นไทโดยไม่ต้องเสียค่าไถ่ใดๆ

การทำร้ายร่างกาย

12 “ผู้ใดทำร้ายร่างกายคนอื่นถึงแก่ความตายจะต้องมีโทษถึงตายแน่นอน 13 หากเขาทำไปโดยไม่เจตนาแต่พระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดขึ้น เราจะกำหนดสถานที่แห่งหนึ่งให้เขาหนีไปลี้ภัย 14 แต่หากผู้ใดวางแผนฆ่าคนโดยเจตนา จงนำตัวผู้นั้นออกไปจากแท่นบูชาของเราและประหารเขา

15 “ผู้ใดทำร้าย[c]บิดามารดาของตนจะต้องมีโทษถึงตาย

16 “ผู้ใดลักพาตัวผู้อื่นไปขายเป็นทาสหรือยังกักตัวไว้กับตนขณะที่ถูกจับได้จะต้องมีโทษถึงตาย

17 “ผู้ใดแช่งด่าบิดามารดาจะต้องมีโทษถึงตาย

18 “หากเกิดการทะเลาะวิวาท ฝ่ายหนึ่งใช้หินทำร้ายหรือชก[d]อีกฝ่ายให้บาดเจ็บ ต้องนอนซมแต่ไม่ตาย 19 ภายหลังผู้นั้นสามารถลุกเดินได้อีกโดยมีไม้เท้ายันกาย คนที่ทำร้ายย่อมพ้นผิด แต่เขาต้องชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียเวลาจนกว่าผู้นั้นจะหายเป็นปกติ

20 “ผู้ใดเฆี่ยนตีทาสชายหรือหญิงด้วยไม้จนถึงแก่ความตาย ผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษ 21 แต่หากทาสลุกขึ้นได้ภายในหนึ่งหรือสองวัน นายก็ไม่ต้องถูกลงโทษ เพราะทาสเป็นสมบัติของนาย

22 “หากชายสองคนต่อสู้กัน เผอิญหญิงมีครรภ์ถูกลูกหลงเข้าถึงกับคลอดก่อนกำหนด[e] แต่ไม่บาดเจ็บสาหัส คนที่ทำร้ายนางจะต้องถูกปรับตามแต่สามีของนางจะเรียกร้องและตามที่ตุลาการตัดสิน 23 แต่หากนางบาดเจ็บสาหัส ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต 24 ตาแทนตา ฟันแทนฟัน มือแทนมือ เท้าแทนเท้า 25 รอยไหม้แทนรอยไหม้ บาดแผลแทนบาดแผล รอยฟกช้ำแทนรอยฟกช้ำ

26 “หากนายทำร้ายทาสชายหรือหญิงถึงกับตาบอด เขาต้องปล่อยทาสนั้นให้เป็นอิสระเพื่อชดใช้แทนดวงตาของทาสนั้น 27 และหากนายทำให้ฟันของทาสชายหรือหญิงหัก เขาต้องปล่อยทาสนั้นเป็นอิสระเพื่อชดใช้แทนฟัน

28 “หากวัวตัวใดขวิดคนไม่ว่าชายหรือหญิงถึงแก่ความตาย จงเอาหินขว้างวัวให้ตาย และอย่ากินเนื้อมัน แต่เจ้าของวัวไม่ต้องรับผิดชอบ 29 แต่หากเป็นที่รู้กันว่าวัวนั้นมีนิสัยชอบขวิดคนและมีคนเตือนเจ้าของแล้ว แต่เจ้าของยังไม่ขังวัวของตนให้ดี ถ้ามันไปขวิดคนตายไม่ว่าชายหรือหญิง จงเอาหินขว้างวัวให้ตายและประหารเจ้าของวัวด้วย 30 อย่างไรก็ตามหากเขาถูกเรียกค่าปรับ เขาจะไถ่ชีวิตตัวเองโดยยอมจ่ายค่าปรับตามที่ถูกเรียกร้องก็ได้ 31 กฎข้อนี้ใช้ในกรณีที่วัวขวิดบุตรชายหรือบุตรสาวด้วย 32 แต่ถ้าขวิดทาส ไม่ว่าหญิงหรือชาย ก็ให้เจ้าของวัวจ่ายเงินหนัก 30 เชเขล[f] ให้กับเจ้าของทาส และจงเอาหินขว้างวัวให้ตาย

33 “ถ้าผู้ใดเปิดบ่อหรือขุดบ่อและไม่ปิดฝาบ่อ แล้วมีวัวหรือลาตกลงไป 34 เจ้าของบ่อจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของสัตว์ และสัตว์ที่ตายจะตกเป็นของเจ้าของบ่อ

35 “หากวัวของใครไปขวิดวัวของคนอื่นตาย เจ้าของวัวทั้งสองจะขายวัวที่ยังมีชีวิต แล้วนำเงินที่ได้นั้นกับวัวที่ตายมาแบ่งเท่าๆ กัน 36 แต่หากเป็นที่รู้กันว่าวัวนั้นมีนิสัยชอบขวิดแต่เจ้าของไม่ขังให้ดี ก็ให้เจ้าของวัวชดใช้โดยยกวัวตัวนั้นให้อีกฝ่าย แล้วรับวัวตัวที่ตายไปเป็นของตน

การคุ้มครองทรัพย์สิน

22 “หากผู้ใดขโมยวัวหรือแกะมา แล้วฆ่าหรือขายไป เขาจะต้องชดใช้วัวห้าตัวสำหรับวัวหนึ่งตัว และแกะสี่ตัวสำหรับแกะหนึ่งตัว

“หากขโมยถูกจับได้และถูกฆ่าตายขณะลอบเข้าไปในบ้าน คนที่ฆ่าเขาไม่มีความผิด แต่หากเกิดขึ้น[g]ในเวลากลางวัน คนที่ฆ่าเขามีความผิด

“ขโมยต้องชดใช้ค่าเสียหายเต็มจำนวน แต่หากเขาไม่มีอะไรจะชดใช้ เขาจะต้องถูกขายเป็นทาสเพื่อชดใช้สิ่งที่เขาขโมยไป

“หากพบสัตว์ที่ขโมยไปมีชีวิตอยู่ในครอบครองของเขาไม่ว่าวัว ลา หรือแกะ เขาจะต้องจ่ายคืนเป็นสองเท่า

“ถ้าผู้ใดปล่อยฝูงสัตว์ของตนไปกินหญ้าในท้องทุ่งหรือในสวนองุ่น และมันหลงเข้าไปกินหญ้าในที่ของคนอื่น เขาจะต้องชดใช้ด้วยพืชผลส่วนที่ดีที่สุดจากท้องทุ่งหรือจากสวนองุ่นของตน

“หากที่นาเกิดไฟไหม้ลามไปยังพุ่มหนามจนถึงที่ของคนอื่น จนฟ่อนข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วหรือต้นข้าวที่ยังไม่เกี่ยวเสียหายหมด ผู้ที่เป็นต้นเพลิงจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย

“หากผู้ใดนำเงินหรือสิ่งของฝากไว้ให้เพื่อนบ้านของเขาดูแล แล้วเงินหรือของนั้นถูกขโมยไปจากบ้านของเพื่อนบ้าน เมื่อจับตัวขโมยมาได้ ขโมยนั้นจะต้องชดใช้เป็นสองเท่า แต่หากจับขโมยไม่ได้ ให้นำตัวผู้รับฝากของมีค่านั้นมาพบตุลาการ[h] เพื่อรับการพิจารณาว่าใช่ตัวเขาเองหรือไม่ที่ขโมยสมบัติของเพื่อนบ้าน ทุกครั้งที่มีการครอบครองทรัพย์สินโดยไม่ถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นวัว ลา แกะ เสื้อผ้า หรือสิ่งอื่นๆ ที่สูญหายซึ่งบางคนอ้างว่า ‘นี่คือของของฉัน’ ให้ทั้งสองนำกรณีพิพาทไปพบตุลาการเพื่อรับคำชี้ขาด ผู้ที่ตุลาการตัดสิน[i]ว่าผิดจะต้องจ่ายเป็นสองเท่าให้แก่เพื่อนบ้าน

10 “หากผู้ใดฝากวัว ลา แกะ หรือสัตว์อื่นๆ ไว้ให้เพื่อนบ้านดูแล แล้วมันตายไปหรือบาดเจ็บหรือหายไปและไม่มีใครเห็น 11 ในกรณีนี้จะตัดสินโดยให้เพื่อนบ้านผู้นั้นกล่าวสาบานต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าเขาไม่ได้ขโมยทรัพย์สินของอีกคนหนึ่งไป เจ้าของต้องยอมรับวาจาสัตย์ ห้ามเรียกร้องค่าเสียหาย 12 แต่หากสัตว์นั้นถูกขโมยไปจากเพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านคนนั้นจะต้องชดใช้ให้แก่เจ้าของ 13 หากมันถูกสัตว์ป่าทำร้าย ให้เขานำซากของมันมาเป็นหลักฐาน แล้วเขาจะไม่ถูกเรียกร้องค่าเสียหาย

14 “ผู้ใดยืมสัตว์ของเพื่อนบ้าน แล้วมันบาดเจ็บหรือตายขณะที่เจ้าของไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ผู้ยืมจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย 15 แต่หากเจ้าของอยู่กับสัตว์นั้นด้วย ผู้ยืมไม่ต้องชดใช้ และหากเขาเช่ามันมา เขาก็ไม่ต้องชดใช้ เพราะค่าเช่ารวมค่าเสียหายไว้แล้ว

ความรับผิดชอบต่อสังคม

16 “หากชายใดล่อลวงหญิงสาวพรหมจารีซึ่งยังไม่ได้หมั้นหมาย และเขามีเพศสัมพันธ์กับนาง เขาจะต้องจ่ายค่าสินสอดและรับนางเป็นภรรยา 17 หากบิดาของนางปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ไม่ยอมให้นางสมรสกับเขา เขาก็ต้องจ่ายเงินสินสอดสำหรับหญิงพรหมจารี

18 “อย่าไว้ชีวิตแม่มด

19 “ผู้ใดสมสู่กับสัตว์เดรัจฉานจะต้องมีโทษถึงตาย

20 “ผู้ใดถวายเครื่องบูชาแก่พระอื่นๆ นอกเหนือจากองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้นั้นจะต้องถูกทำลายล้าง[j]

21 “อย่ากดขี่ข่มเหงรังแกคนต่างด้าว เพราะเจ้าเองก็เคยเป็นคนต่างด้าวในอียิปต์

22 “อย่าเอารัดเอาเปรียบหญิงม่ายหรือลูกกำพร้าพ่อ 23 หากเจ้าขืนทำและเขาร้องทูลเรา เราจะฟังคำร้องทุกข์ของเขาอย่างแน่นอน 24 เราจะโกรธและจะประหารเจ้าด้วยดาบ ภรรยาของเจ้าจะเป็นม่าย และลูกของเจ้าจะกำพร้าพ่อ

25 “หากเจ้าให้เงินพี่น้องร่วมชาติฮีบรูผู้ยากไร้ยืม อย่าทำตัวเป็นเจ้าหนี้เงินกู้ อย่าคิดดอกเบี้ยเขา[k] 26 หากเจ้ายึดเสื้อคลุมของเพื่อนบ้านเป็นของค้ำประกัน จงคืนให้เขาก่อนตะวันตกดิน 27 เพราะอาจเป็นไปได้ว่าเสื้อคลุมเป็นสิ่งเดียวที่เขามีคลุมกาย เขาจะใช้อะไรห่มนอน? เมื่อเขาร้องทูลเรา เราจะรับฟังเพราะเรามีใจเมตตา

28 “อย่าหมิ่นประมาทพระเจ้า[l] หรือแช่งด่าผู้มีอำนาจปกครองในหมู่พวกเจ้า

29 “อย่าลังเลที่จะนำพืชผลและน้ำองุ่นของเจ้ามาถวาย[m]

“จงยกบุตรชายหัวปีของเจ้าให้กับเรา 30 ลูกหัวปีของวัวและแกะก็เช่นเดียวกัน จงนำมาให้เราในวันที่แปด หลังจากที่ปล่อยให้อยู่กับแม่ของมันตลอดเจ็ดวันแล้ว

31 “พวกเจ้าต้องเป็นประชากรบริสุทธิ์ของเรา ฉะนั้นอย่ากินเนื้อสัตว์ที่ถูกสัตว์ป่ากัดกิน จงทิ้งซากให้สุนัขกิน

บทบัญญัติของความยุติธรรมและความเมตตา

23 “อย่าเล่าลือเรื่องที่ไม่เป็นความจริง อย่าร่วมมือกับคนชั่วร้ายโดยการเป็นพยานเท็จ

“อย่าทำชั่วคล้อยตามคนหมู่มาก เมื่อเจ้าเป็นพยานในคดีความอย่าบิดเบือนความยุติธรรมโดยเข้าข้างคนหมู่มาก และอย่าลำเอียงเข้าข้างคนจนในคดีของเขา

“หากเจ้าบังเอิญพบวัวหรือลาของศัตรูหลงมา จงนำมันไปคืนเจ้าของ หากเจ้าเห็นลาของคนที่เกลียดชังเจ้าล้มลงเพราะบรรทุกของหนัก อย่าเมินเฉย จงเข้าไปช่วยเหลือ

“จงให้ความยุติธรรมแก่คนยากจนในคดีของเขา อย่ามีส่วนตั้งข้อกล่าวหาเท็จ และอย่าปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์หรือคนซื่อตรงต้องถูกประหาร เพราะเราจะไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล

“อย่ารับสินบน เพราะสินบนทำให้ตามืดบอดจากความจริง และบิดเบือนคำพูดของคนชอบธรรม

“อย่าข่มเหงคนต่างด้าว ตัวเจ้าเองรับรู้รสชาติการเป็นคนต่างด้าวมาแล้วเพราะเจ้าเคยเป็นคนต่างด้าวในอียิปต์

บทบัญญัติเกี่ยวกับสะบาโต

10 “จงหว่านและเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ของเจ้าตลอดหกปี 11 แต่ในปีที่เจ็ดจงพักที่ดิน ไม่ต้องปลูกไม่ต้องหว่าน และให้คนยากจนมาเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ที่งอกขึ้นมา ส่วนที่เหลือปล่อยไว้ให้เป็นอาหารของสัตว์ป่า กฎข้อนี้ใช้กับสวนองุ่นและสวนมะกอกของเจ้าด้วย

12 “จงทำงานเพียงหกวัน แต่อย่าทำงานในวันที่เจ็ด เพื่อให้วัวและลาของเจ้าได้พัก ทั้งทาสที่เกิดในครัวเรือนของเจ้าและคนต่างด้าวจะได้สดชื่นขึ้น

13 “จงตั้งใจทำตามทุกสิ่งที่เราได้บอกแก่เจ้าแล้ว และอย่าเอ่ยอ้างชื่อพระอื่นใด อย่าให้ได้ยินชื่อพระเหล่านั้นจากปากของเจ้าเลย

เทศกาลประจำปีสามเทศกาล

14 “เจ้าจงฉลองเทศกาลสำหรับเราปีละสามครั้ง

15 “จงฉลองเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อ จงกินขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดเจ็ดวันตามที่เราได้สั่งพวกเจ้าไว้แล้ว จงทำอย่างนี้ตามเวลาที่กำหนดไว้ในเดือนอาบีบ เพราะในเดือนนั้นเจ้าได้ออกจากอียิปต์

“อย่าให้ผู้ใดเข้าเฝ้าเรามือเปล่า

16 “จงฉลองเทศกาลเก็บเกี่ยวเมื่อเจ้านำผลิตผลแรกที่เจ้าเก็บเกี่ยวมาให้เรา

“จงฉลองเทศกาลรวบรวมผลิตผลในตอนสิ้นปี เมื่อเจ้ารวบรวมผลิตผลจากไร่นาของเจ้ามาเก็บไว้

17 “ผู้ชายทุกคนจะต้องเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตปีละสามครั้ง

18 “อย่าถวายเลือดของเครื่องบูชาแก่เราพร้อมกับสิ่งใดๆ ที่ใส่เชื้อ

“อย่าเก็บไขมันของเครื่องบูชาที่ถวายแก่เราในเทศกาลไว้จนรุ่งเช้า

19 “จงนำส่วนที่ดีที่สุดของผลิตผลแรกจากแผ่นดินของเจ้ามายังพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

“อย่าต้มลูกแพะในน้ำนมแม่ของมัน

ทูตของพระเจ้าจัดเตรียมหนทาง

20 “ดูเถิด เราส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่งของเรามานำหน้าเจ้า เพื่อคุ้มครองรักษาเจ้าไปตลอดทางจนถึงสถานที่ที่เราจัดเตรียมไว้ 21 จงใส่ใจฟังถ้อยคำที่เขากล่าว อย่ากบฏเพราะเขาจะไม่ให้อภัยเจ้า เพราะเขาทำในนามของเรา 22 หากเจ้าตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูดและทำตามสิ่งที่เราพูดทุกอย่าง เราจะเป็นปฏิปักษ์กับศัตรูทั้งหลายของเจ้าและจะต่อต้านผู้ที่ต่อต้านเจ้า 23 ทูตของเราจะนำหน้าและพาเจ้าเข้าสู่ดินแดนของชาวอาโมไรต์ ชาวฮิตไทต์ ชาวเปริสซี ชาวคานาอัน ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส เราจะกวาดล้างพวกเขาออกไป 24 อย่ากราบไหว้หรือนมัสการพระทั้งหลายของชนชาติเหล่านั้นหรือทำตามเขา จงทำลายรูปเคารพของพวกเขาและทุบหินศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาให้แหลก 25 จงนมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า แล้วเราจะอวยพรเจ้าให้มีน้ำมีอาหารบริบูรณ์ เราจะขจัดโรคภัยไข้เจ็บไปจากพวกเจ้า 26 ทั่วดินแดนของเจ้าจะไม่มีการแท้งหรือเป็นหมัน และเราจะให้เจ้ามีชีวิตยืนยาวตามอายุขัย

27 “เราจะส่งความหวาดหวั่นไปล่วงหน้าเจ้า ทำให้ชนทุกชาติที่เจ้าเผชิญหน้าสับสนอลหม่าน เราจะทำให้ศัตรูทั้งปวงของเจ้าหันหลังวิ่งหนีไป 28 เราจะส่งฝูงต่อล่วงหน้าเจ้าไปเพื่อขับไล่ชาวฮีไวต์ ชาวคานาอัน และชาวฮิตไทต์ไปให้พ้นทางของเจ้า 29 แต่เราจะไม่ไล่พวกเขาไปทั้งหมดในปีเดียว เพราะแผ่นดินจะรกร้างและสัตว์ป่าจะเพิ่มจำนวนเกินกว่าพวกเจ้าจะรับมือไหว 30 เราจะไล่พวกเขาออกไปต่อหน้าเจ้าทีละเล็กทีละน้อย จนพวกเจ้ามีลูกหลานมากพอที่จะครอบครองแผ่นดิน

31 “เราจะกำหนดพรมแดนของเจ้าจากทะเลแดง[n]จดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน[o] และจากทะเลทรายจดแม่น้ำยูเฟรติส เราจะมอบชนชาติต่างๆ ในดินแดนนั้นไว้ในมือพวกเจ้า และเจ้าจะขับไล่พวกเขาออกไปให้พ้นหน้าเจ้า 32 เจ้าอย่าทำพันธสัญญาใดๆ กับพวกเขาหรือกับพระของเขา 33 อย่าให้พวกเขาอาศัยในดินแดนของเจ้า มิฉะนั้นแล้วเขาจะเป็นเหตุให้เจ้าทำบาปต่อเรา เพราะการนมัสการพระของเขาจะเป็นบ่วงแร้วดักเจ้าทั้งหลายอย่างแน่นอน”

Footnotes

  1. 21:6 หรือมาต่อหน้าพระเจ้า
  2. 21:8 หรือนางไม่เป็นที่พอใจของนาย เขาจึงไม่ได้เลือกนาง
  3. 21:15 หรือฆ่า
  4. 21:18 หรือใช้เครื่องมือทำร้าย
  5. 21:22 หรือแท้ง
  6. 21:32 1 เชเขล คือเงินหนักประมาณ 11.5 กรัม มีค่าเท่ากับค่าแรงสองเดือน
  7. 22:3 หรือหากเขาทำร้ายขโมย
  8. 22:8 หรือมาต่อหน้าพระเจ้าเช่นเดียวกับข้อ 9
  9. 22:9 หรือผู้ที่พระเจ้าตัดสิน
  10. 22:20 คำนี้ในภาษาฮีบรูหมายถึง สิ่งของหรือบุคคลที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วไม่อาจเรียกคืนได้ มักจะต้องทำลายให้หมดสิ้นไป
  11. 22:25 หรืออย่าคิดดอกเบี้ยเขาสูงเกินไป
  12. 22:28 หรือตุลาการ
  13. 22:29 ในภาษาฮีบรูประโยคนี้มีความหมายไม่ชัดเจน
  14. 23:31 คือ ทะเลต้นกก
  15. 23:31 ภาษาฮีบรูว่าทะเลแห่งฟีลิสเตีย