โยสิยาห์ทรงปฏิรูป(A)

34 เมื่อโยสิยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์ พระองค์ทรงมีพระชนมายุแปดพรรษา และทรงครองราชย์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม 31 ปี โยสิยาห์ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงดำเนินตามแบบอย่างของดาวิดผู้เป็นบรรพบุรุษโดยไม่หันเหไปทางขวาหรือทางซ้าย

ในปีที่แปดแห่งรัชกาลของพระองค์ เมื่อยังทรงพระเยาว์ ก็ทรงเริ่มแสวงหาพระเจ้าของดาวิดผู้เป็นบรรพบุรุษ และในปีที่สิบสองแห่งรัชกาลทรงเริ่มชำระยูดาห์และเยรูซาเล็ม กำจัดสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย เสาเจ้าแม่อาเชราห์ รูปเคารพแกะสลัก และรูปเคารพหล่อทั้งปวง พระองค์ทรงสั่งให้ทุบแท่นบูชาพระบาอัลทิ้งและทำลายแท่นเผาเครื่องหอมเหนือแท่นบูชา ทุบเสาเจ้าแม่อาเชราห์และรูปเคารพทั้งหลาย แล้วนำไปโปรยบนหลุมศพของบรรดาผู้ที่ถวายเครื่องบูชาแก่พระเหล่านั้น พระองค์ทรงเผากระดูกของบรรดาปุโรหิตของพระเหล่านั้นบนแท่นบูชาของพวกเขาเอง เป็นการชำระยูดาห์และเยรูซาเล็ม นอกจากนี้ในเมืองต่างๆ ของมนัสเสห์ เอฟราอิม และสิเมโอนไปจนถึงนัฟทาลี และในซากปรักหักพังโดยรอบ พระองค์ทรงรื้อทำลายแท่นบูชา เสาเจ้าแม่อาเชราห์ บดขยี้รูปเคารพเป็นผุยผง ทุบแท่นเผาเครื่องหอมทั่วแดนอิสราเอล แล้วเสด็จกลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม

ในการชำระดินแดนและพระวิหารในปีที่สิบแปดแห่งรัชกาลกษัตริย์โยสิยาห์ โยสิยาห์ทรงแต่งตั้งชาฟานบุตรอาซาลิยาห์และมาอาเสอาห์ผู้ปกครองเมืองกับอาลักษณ์โยอาห์บุตรโยอาฮาส ให้ซ่อมแซมพระวิหารของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์

คนเหล่านี้ไปพบมหาปุโรหิตฮิลคียาห์และมอบเงินที่คนนำมาถวายในพระวิหารของพระเจ้าให้เขา ชนเลวีที่เป็นยามประตูได้รับเงินเหล่านี้จากชาวมนัสเสห์ ชาวเอฟราอิม และประชาชนที่ยังเหลืออยู่ในอิสราเอลทั้งหมด ตลอดจนชาวยูดาห์ ชาวเบนยามิน และผู้คนที่อาศัยในกรุงเยรูซาเล็ม 10 แล้วพวกเขานำเงินนี้ไปมอบให้ผู้ควบคุมการซ่อมแซมพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อจ่ายให้คนงานที่มาซ่อมแซมบูรณะพระวิหาร 11 และให้ช่างไม้และช่างก่อไปซื้อหินที่สกัดและแต่งแล้ว กับซุง กระดาน ไม้คาน สำหรับอาคารต่างๆ ที่บรรดากษัตริย์ยูดาห์ปล่อยทิ้งไว้ในสภาพปรักหักพัง

12 คนงานทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ ผู้สั่งการได้แก่ ยาหาทกับโอบาดีห์ ชนเลวีจากตระกูลเมรารี เศคาริยาห์กับเมชุลลามจากตระกูลโคฮาท ส่วนคนเลวีซึ่งเชี่ยวชาญในการบรรเลงดนตรี 13 มีหน้าที่ดูแลสั่งการคนงานให้ทำงานแต่ละอย่าง คนเลวีบางคนทำหน้าที่เลขานุการ อาลักษณ์ และยามประตู

พบหนังสือธรรมบัญญัติ(B)

14 วันหนึ่งขณะที่พวกเขานำเงินซึ่งประชากรถวายเข้าพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าออกมา ปุโรหิตฮิลคียาห์พบม้วนหนังสือพระบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งประทานผ่านทางโมเสส 15 ฮิลคียาห์กล่าวกับราชเลขาชาฟานว่า “ข้าพเจ้าได้พบหนังสือพระบัญญัติในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า” แล้วมอบหนังสือม้วนนั้นแก่ชาฟาน

16 ชาฟานจึงนำไปถวายแด่กษัตริย์ และทูลรายงานว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่ทำทุกอย่างตามที่ได้รับมอบหมาย 17 พวกเขานำเงินออกมาจากพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า มอบให้แก่หัวหน้าผู้ดูแลและคนงาน” 18 แล้วราชเลขาชาฟานทูลกษัตริย์ว่า “ปุโรหิตฮิลคียาห์ได้มอบหนังสือนี้แก่ข้าพระบาท” ชาฟานจึงอ่านหนังสือนั้นต่อหน้ากษัตริย์

19 เมื่อกษัตริย์ได้ทรงฟังเนื้อความในหนังสือบทบัญญัตินั้นก็ทรงฉีกฉลองพระองค์ 20 และทรงบัญชาฮิลคียาห์ อาหิคัมบุตรชาฟาน อับโดนบุตรมีคาห์[a] ราชเลขาชาฟาน และมหาดเล็กอาสายาห์ว่า 21 “จงไปทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าให้เราและให้ชนหยิบมือที่เหลือในอิสราเอลและยูดาห์เกี่ยวกับสิ่งที่บันทึกไว้ในหนังสือที่ได้พบนี้ พระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตกแก่เรานั้นใหญ่หลวงนัก เพราะบรรพบุรุษของเราไม่ได้ยึดพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ได้ปฏิบัติตามสิ่งทั้งปวงที่บันทึกไว้ในหนังสือนี้เลย”

22 ฮิลคียาห์กับคนที่กษัตริย์ส่งมาด้วยจึงไปพบผู้เผยพระวจนะหญิงฮุลดาห์ซึ่งอาศัยอยู่ที่เยรูซาเล็มแขวงสอง นางเป็นภรรยาของชัลลูมบุตรทกหาท[b]บุตรของหัสราห์[c] ชัลลูมเป็นผู้ดูแลเครื่องทรงในพระวิหาร

23 นางกล่าวกับพวกเขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า จงแจ้งผู้ที่ใช้เจ้ามาหาเราว่า 24 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า เราจะนำหายนะมายังที่แห่งนี้และมายังประชากรตามคำสาปแช่งทั้งปวงที่เขียนไว้ในหนังสือซึ่งอ่านกันต่อหน้ากษัตริย์ยูดาห์ 25 เพราะพวกเขาได้ทอดทิ้งเราไปเผาเครื่องหอมถวายเทพเจ้าอื่นๆ และยั่วโทสะของเราด้วยทุกอย่างที่มือของพวกเขาได้ทำขึ้น[d] เราจะระบายความโกรธลงเหนือที่แห่งนี้และจะระงับไม่ได้’ 26 จงบอกกษัตริย์ยูดาห์ซึ่งใช้พวกเจ้ามาทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้านั้นว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสเกี่ยวกับข้อความที่เจ้าได้ยินดังนี้ว่า 27 เนื่องจากจิตใจของเจ้าน้อมรับ และเจ้าได้ถ่อมตัวลงต่อหน้าพระเจ้าเมื่อได้ยินสิ่งที่เรากล่าวไว้เกี่ยวกับสถานที่นี้และประชากร และเพราะเจ้าถ่อมตัว ฉีกเสื้อผ้า และร่ำไห้ต่อหน้าเรา เราได้ยินแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ 28 เราจะรวบรวมเจ้าไปอยู่กับบรรพบุรุษและเจ้าจะถูกฝังอย่างสงบสุข ไม่ต้องเห็นหายนะทั้งปวงซึ่งเราจะนำมายังสถานที่นี้และประชาชนเหล่านี้’ ”

พวกเขาจึงนำคำตอบของนางกลับไปทูลกษัตริย์

29 กษัตริย์โยสิยาห์จึงทรงเรียกผู้อาวุโสของยูดาห์และเยรูซาเล็มทุกคนมารวมกัน 30 พระองค์เสด็จไปยังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าพร้อมชาวยูดาห์ ชาวเยรูซาเล็ม ปุโรหิต และคนเลวีคือประชากรทั้งปวง ตั้งแต่ผู้น้อยที่สุดจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด กษัตริย์ทรงอ่านทุกถ้อยคำในหนังสือพันธสัญญาซึ่งพบในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าต่อหน้าพวกเขา 31 พระองค์ประทับยืนอยู่ข้างเสา ทรงรื้อฟื้นพันธสัญญาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ว่าจะติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า และปฏิบัติตามพระบัญชา กฎระเบียบ และกฎหมายของพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจ และที่จะเชื่อฟังถ้อยคำแห่งพันธสัญญาที่เขียนไว้ในหนังสือนี้

32 แล้วโยสิยาห์ทรงให้ทุกคนในเยรูซาเล็มและเบนยามินปฏิญาณตนต่อพันธสัญญานั้น ชาวเยรูซาเล็มก็ทำเช่นนี้ตามพันธสัญญาของพระเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา

33 โยสิยาห์ทรงกำจัดรูปคารพอันน่าชิงชังทั้งปวงไปจากดินแดนทั้งหมดที่เป็นของชนอิสราเอล และทรงเรียกร้องให้คนทั้งปวงในอิสราเอลปรนนิบัติพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา พวกเขาติดตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขาตลอดรัชกาลของโยสิยาห์

Footnotes

  1. 34:20 มีอีกชื่อหนึ่งว่าอัคโบร์บุตรมีคายาห์
  2. 34:22 มีอีกชื่อหนึ่งว่าทิกวาห์
  3. 34:22 มีอีกชื่อหนึ่งว่าฮารฮัส
  4. 34:25 หรือด้วยทุกสิ่งที่พวกเขาได้ทำขึ้น

กษัตริย์โยสิยาห์ปกครองยูดาห์

(2 พกษ. 22:1-2)

34 โยสิยาห์มีอายุแปดปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสามสิบเอ็ดปี เขาทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ และเดินตามทางของดาวิดบรรพบุรุษของเขา โยสิยาห์ไม่ออกนอกลู่นอกทางเลยแม้แต่นิดเดียว ในปีที่แปดที่โยสิยาห์ปกครองนั้น ในขณะที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มมาก เขาเริ่มค้นหาพระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของเขา ในปีที่สิบสองที่เขาปกครองนั้น เขาเริ่มกวาดล้างพวกสถานนมัสการ พวกเสาสำหรับพระอาเชราห์ พวกรูปเคารพแกะสลัก และรูปหล่อทั้งหลายในยูดาห์และในเยรูซาเล็ม เขาสั่งให้ทำลายพวกแท่นบูชาของพวกพระบาอัล ตัดพวกแท่นบูชาเครื่องหอมที่อยู่ในที่เหล่านั้นออกเป็นชิ้นๆ และทุบพวกเสาสำหรับพระอาเชราห์ พวกรูปเคารพและพวกรูปปั้นจนแตกละเอียด เขาเอาพวกเศษที่แตกละเอียดเหล่านี้ไปโปรยบนหลุมฝังศพของพวกที่เคยถวายสัตวบูชาให้กับสิ่งเหล่านี้ เขาเผากระดูกของพวกนักบวชบนแท่นบูชาของพวกเขาเอง และอย่างนี้เอง เขาก็ชำระล้างยูดาห์และเยรูซาเล็มให้บริสุทธิ์ ตามเมืองต่างๆของมนัสเสห์ เอฟราอิมและสิเมโอน ไปจนถึงนัฟทาลีและในซากเมืองทั้งหลายรอบๆเมืองเหล่านี้[a] เขาได้รื้อทำลายพวกแท่นบูชาและพวกเสาสำหรับพระอาเชราห์ลง และได้บดขยี้พวกรูปเคารพจนเป็นผุยผง เขายังตัดพวกแท่นบูชาเครื่องหอมทั่วทั้งอิสราเอลออกเป็นชิ้นๆ แล้วเขาจึงกลับเมืองเยรูซาเล็ม

ในปีที่สิบแปดที่โยสิยาห์ปกครอง โยสิยาห์ส่งชาฟานลูกชายของอาซาลิยาห์และมาอาเสอาห์เจ้าเมือง พร้อมกับโยอาห์ผู้จดบันทึกลูกชายของโยอาฮาส ให้ไปซ่อมแซมวิหารของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา เพื่อเป็นการชำระล้างแผ่นดินยูดาห์และวิหารให้บริสุทธิ์

คนพวกนี้ได้ไปหาฮิลคียาห์นักบวชชั้นสูง และมอบเงินที่คนเอามาถวายให้กับพระเจ้าที่วิหารให้กับฮิลคียาห์ มันเป็นเงินที่ชาวเลวีที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูเป็นผู้เก็บรวบรวมมาจากประชาชนชาวมนัสเสห์ เอฟราอิมและจากอิสราเอลที่เหลือทั้งหมดนั้น รวมทั้งจากประชาชนทั้งหมดของยูดาห์ เบนยามิน และจากชาวเมืองเยรูซาเล็ม 10 แล้วพวกเลวีก็จ่ายเงินนี้ให้กับคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ควบคุมงานในวิหารของพระยาห์เวห์ แล้วผู้ควบคุมงานเหล่านี้ก็เอาเงินนี้ไปจ่ายให้กับพวกคนงานที่มาซ่อมแซมและบูรณะวิหาร อีกต่อหนึ่ง 11 พวกเขายังให้เงินกับพวกช่างไม้และช่างก่อสร้าง เพื่อนำไปซื้อหินที่ได้รับการตัดแต่งแล้ว และไปซื้อไม้เพื่อนำมาสร้างไม้รองพื้น และคานสำหรับตึกต่างๆที่พวกกษัตริย์ของยูดาห์ได้ปล่อยไว้จนทรุดโทรม 12 พวกคนงานต่างทำงานกันอย่างซื่อสัตย์ พวกเขาทำงานภายใต้การสั่งงานของยาหาทและโอบาดียาห์พวกชาวเลวีที่เป็นลูกหลานของเมรารี ยังมีเศคาริยาห์และเมชุลลัมที่เป็นลูกหลานของโคฮาทด้วย พวกชาวเลวีทุกคนมีความชำนาญในการเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ 13 พวกเขาคอยดูแลพวกคนงานและสั่งงานพวกคนงานทั้งหมดในงานทุกๆชิ้น ชาวเลวีบางคนทำงานเป็นเลขานุการบ้าง เป็นผู้จดบันทึกบ้าง และเป็นคนเฝ้าประตูบ้าง

การค้นพบหนังสือกฎของพระยาห์เวห์

(2 พกษ. 22:3-23:3)

14 ในขณะที่พวกเลวีกำลังนำเงินที่เก็บไว้ในวิหารของพระยาห์เวห์ออกมานั้น นักบวชฮิลคียาห์ได้พบหนังสือกฏของพระยาห์เวห์ที่เคยให้ไว้กับโมเสส 15 ฮิลคียาห์พูดกับชาฟานที่เป็นเลขานุการว่า “เราได้พบหนังสือกฎบัญญัติอยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์” แล้วเขาได้มอบหนังสือเล่มนั้นให้กับชาฟาน 16 แล้วชาฟานก็เอาหนังสือเล่มนั้นไปให้กับกษัตริย์และรายงานกับกษัตริย์ว่า “พวกเจ้าหน้าที่ของท่านได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ท่านได้มอบหมายให้กับพวกเขาทำ 17 พวกเขาเอาเงินที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ไปจ่ายให้กับพวกหัวหน้าคนงานและพวกคนงานเรียบร้อยแล้ว” 18 แล้วชาฟานที่เป็นเลขานุการก็แจ้งกับกษัตริย์ว่า “นักบวชฮิลคียาห์ให้หนังสือเล่มหนึ่งกับข้าพเจ้า” และชาฟานก็อ่านมันต่อหน้ากษัตริย์ 19 เมื่อกษัตริย์ได้ฟังข้อความในหนังสือกฎเล่มนั้น เขาก็ฉีกเสื้อคลุมของเขาออก[b] 20 เขาสั่งฮิลคียาห์ อาหิคัมลูกชายของชาฟาน อับโดนลูกชายของมีคาห์ ชาฟานที่เป็นเลขานุการและอาสายาห์คนรับใช้ของเขาว่า 21 “ไปสอบถามพระยาห์เวห์ให้กับเราและให้กับประชาชนที่เหลืออยู่เป็นส่วนน้อยในอิสราเอลและในยูดาห์ เกี่ยวกับสิ่งที่เขียนอยู่ในหนังสือที่ถูกค้นพบเล่มนี้ ความโกรธอันยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ได้หลั่งไหลมาที่พวกเรา ก็เพราะบรรพบุรุษของพวกเราไม่ยอมรักษาคำพูดของพระยาห์เวห์ พวกเขาไม่ยอมทำตามสิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้”

22 ฮิลคียาห์กับพวกคนที่กษัตริย์ส่งไปนั้น[c]ได้ไปพูดกับผู้หญิงที่พูดแทนพระเจ้า ชื่อฮุลดาห์ นางเป็นเมียของชัลลูมลูกชายของทกหาทที่เป็นลูกชายของหัสราห์ ชัมลูมมีหน้าที่ดูแลเสื้อผ้าของกษัตริย์ ฮุลดาห์อาศัยอยู่ในเขตใหม่ของเมืองเยรูซาเล็ม 23 นางพูดกับพวกเขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดอย่างนี้ว่า ‘ให้บอกกับคนที่ส่งพวกเจ้ามาหาเราว่า 24 “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด เรากำลังจะนำความหายนะมาสู่สถานที่แห่งนี้ และสู่ประชาชนที่นี่ มันคือคำสาปแช่งทั้งหมดที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ที่ได้อ่านแล้วต่อหน้าของกษัตริย์ของยูดาห์ 25 เพราะพวกเขาละทิ้งเรา และเผาเครื่องหอมบูชาให้แก่พระอื่นๆและมายั่วยุให้เราโกรธด้วยสิ่งต่างๆที่พวกเขาสร้างขึ้นมากับมือ ความโกรธของเราจะหลั่งไหลออกมาสู่สถานที่แห่งนี้และจะไม่ดับลงด้วย”’”

26 “ให้บอกกับกษัตริย์ของยูดาห์ที่ส่งพวกท่านมาสอบถามพระยาห์เวห์ว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของชนชาติอิสราเอลพูดเกี่ยวกับข้อความทั้งหลายที่เจ้าได้ยินเมื่อตะกี้นี้ 27 “โยสิยาห์ เป็นเพราะใจของเจ้าสนองตอบและพวกเจ้าได้ถ่อมตัวเองลงต่อหน้าพระเจ้า เมื่อได้ยินในสิ่งที่พระองค์พูดคัดค้านสถานที่แห่งนี้และประชาชนที่นี่ และเป็นเพราะว่าเจ้าได้ถ่อมตัวเองลงมาต่อหน้าเราและได้ฉีกเสื้อคลุมของเจ้าและยังร้องไห้ต่อหน้าเรา พระยาห์เวห์ประกาศว่า เราได้ยินเจ้าแล้ว 28 ตอนนี้ เราจะรวมเจ้าไว้กับบรรพบุรุษของเจ้า เจ้าจะถูกฝังอย่างสงบ ดวงตาของเจ้าจะไม่ได้เห็นความหายนะทั้งหลาย ที่เรากำลังจะนำมาสู่สถานที่แห่งนี้และสู่ประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นี่”’” ดังนั้นพวกเขาจึงนำคำตอบของนางกลับไปบอกกับกษัตริย์

29 แล้วกษัตริย์โยสิยาห์ได้เรียกพวกผู้ใหญ่ของยูดาห์และของเยรูซาเล็มทั้งหมดมารวมตัวกัน 30 เขาได้ขึ้นไปที่วิหารของพระยาห์เวห์กับคนเหล่านั้นของยูดาห์ และทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม รวมทั้งพวกนักบวชและพวกชาวเลวี คือประชาชนทั้งหมดตั้งแต่ชนชั้นระดับสำคัญๆไปจนถึงระดับล่าง โยสิยาห์อ่านทุกคำในหนังสือข้อตกลงที่พบในวิหารของพระยาห์เวห์นั้นให้กับทุกคนฟัง

31 กษัตริย์ยืนอยู่ในที่ของเขา และได้ทำข้อตกลงใหม่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ว่าจะติดตามพระยาห์เวห์และจะรักษาคำสั่งทุกข้อของพระองค์ กฎและข้อบังคับต่างๆอย่างสุดจิตสุดใจ และจะทำตามคำพูดของข้อตกลงที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ 32 แล้วเขาก็ให้ทุกคนในเยรูซาเล็มและเบนยามินสาบานตนกับข้อตกลงนี้ ประชาชนของเยรูซาเล็มได้ทำอย่างนี้ ตามสิ่งที่เขียนไว้ในข้อตกลงของพระเจ้าที่เป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเขา 33 โยสิยาห์ยกเอาพวกรูปเคารพที่น่าขยะแขยงออกไปจากเขตแดนทั้งหมดที่เป็นของชนชาติอิสราเอล และเขาก็ให้ทุกคนที่อยู่ในอิสราเอลรับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา ตราบเท่าที่กษัตริย์โยสิยาห์ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาไม่ได้หันเหไปจากการติดตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา

Footnotes

  1. 34:6 ในซาก … เหล่านี้ ในภาษาฮีบรูความหมายยังไม่ชัดเจน
  2. 34:19 ฉีกเสื้อคลุมของเขาออก ในยุคของโยสิยาห์ การฉีกเสื้อผ้าเป็นการแสดงว่ารู้สึกผิดหวังเสียใจเป็นอย่างมาก โยสิยาห์รู้สึกผิดหวังเพราะว่าประชาชนของเขาไม่ยอมเชื่อฟังกฎของพระยาห์เวห์
  3. 34:22 พวกคนที่กษัตริย์ส่งไปนั้น ข้อความส่วนนี้ไม่มีในภาษาฮีบรู