แตรเงิน

10 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงทำแตรเงินคู่หนึ่งสำหรับเป่าเรียกชุมนุมและเป็นสัญญาณให้เคลื่อนย้ายค่าย เมื่อเป่าแตรทั้งสองด้วยเสียงยาว ประชากรทั้งหมดจะมาชุมนุมกันต่อหน้าเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ หากเป่าคันเดียว ให้เฉพาะผู้นำตระกูลต่างๆ ของอิสราเอลมาชุมนุมกันต่อหน้าเจ้า เมื่อเป่าสัญญาณเสียงสั้นเพื่อจะออกเดินทาง ตระกูลที่ตั้งค่ายพักแรมด้านทิศตะวันออกของพลับพลาจะออกเดินทางก่อน เมื่อเป่าสัญญาณเสียงสั้นครั้งที่สอง ตระกูลต่างๆ ด้านทิศใต้จะออกเดินทาง เสียงแตรนี้เป็นสัญญาณออกเดินทาง เมื่อจะเรียกชุมนุมประชากรจงเป่าแตรทั้งสองด้วยเสียงยาว

“บรรดาปุโรหิตบุตรของอาโรนเป็นผู้เป่าแตร นี่ต้องเป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับเจ้าสืบไปทุกชั่วอายุ เมื่อเจ้าสู้รบกับศัตรูที่มาข่มเหงเจ้าในดินแดนของเจ้า จงเป่าแตรทั้งสอง แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจะทรงระลึกถึงเจ้า และช่วยเจ้าให้พ้นจากเหล่าศัตรู 10 จงเป่าแตรทั้งสองในเทศกาลรื่นเริงของเจ้าด้วย ในเทศกาลต่างๆ ตามเวลาที่กำหนดและวันต้นเดือน เพื่อฉลองเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชา เป็นอนุสรณ์ให้นึกถึงเจ้าต่อหน้าพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”

อิสราเอลเคลื่อนย้ายค่ายจากภูเขาซีนาย

11 เมฆซึ่งอยู่เหนือพลับพลาแห่งพันธสัญญาลอยขึ้นในวันที่ยี่สิบเดือนที่สองของปีที่สอง 12 ชาวอิสราเอลจึงออกจากถิ่นกันดารซีนาย ติดตามเมฆจนเมฆนั้นมาหยุดอยู่ที่ถิ่นกันดารปาราน 13 พวกเขาออกเดินทางเป็นครั้งแรกตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาผ่านทางโมเสส

14 หมู่เหล่าของค่ายยูดาห์ออกเดินทางก่อนภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา โดยมีนาห์โชนบุตรอัมมีนาดับเป็นผู้นำ 15 ถัดจากนั้นคือเผ่าอิสสาคาร์ นำโดยเนธันเอลบุตรศุอาร์ 16 ถัดไปคือเผ่าเศบูลุน นำโดยเอลีอับบุตรเฮโลน 17 เมื่อรื้อพลับพลาลงแล้ว คนเกอร์โชนและคนเมรารีก็นำส่วนประกอบของพลับพลาขึ้นเกวียน แล้วติดตามเป็นกลุ่มต่อไป

18 จากนั้นคือหมู่เหล่าของค่ายรูเบน เคลื่อนขบวนออกไปภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา โดยมีเอลีซูร์บุตรเชเดเออร์เป็นผู้นำ 19 ถัดไปคือเผ่าสิเมโอนนำโดยเชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัย 20 แล้วถึงเผ่ากาดนำโดยเอลียาสาฟบุตรเดอูเอล 21 จากนั้นคือคนโคฮาทซึ่งแบกของบริสุทธิ์ประจำพลับพลาพลับพลาจะถูกตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้วก่อนที่พวกเขาจะไปถึง

22 ถัดไปคือหมู่เหล่าของค่ายเอฟราอิมเคลื่อนขบวนออกไปภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา โดยมีเอลีชามาบุตรอัมมีฮูดเป็นผู้นำ 23 แล้วถึงเผ่ามนัสเสห์นำโดยกามาลิเอลบุตรเปดาซูร์ 24 และเผ่าเบนยามินนำโดยอาบีดันบุตรกิเดโอนี

25 ท้ายขบวนคือกลุ่มระวังหลัง หมู่เหล่าของค่ายดานเคลื่อนขบวนออกไปภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา โดยมีอาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัยเป็นผู้นำ 26 เผ่าอาเชอร์นำโดยปากีเอลบุตรโอคราน 27 และเผ่านัฟทาลีนำโดยอาหิราบุตรเอนัน 28 ลำดับขบวนการเดินทางของชาวอิสราเอลเป็นไปตามนี้

29 ครั้งนั้นโมเสสพูดกับโฮบับบุตรเรอูเอลชาวมีเดียนพ่อตาของโมเสสว่า “เราทั้งหลายจะออกเดินทางไปยังดินแดนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้ว่า ‘เราจะให้เจ้า’ เชิญมาร่วมเดินทางกับเราเถิด เราจะปฏิบัติต่อท่านอย่างดี เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสัญญาจะประทานสิ่งดีแก่อิสราเอล”

30 เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าจะไม่ไป ข้าพเจ้าจะกลับภูมิลำเนาไปหาพวกพ้องของข้าพเจ้า”

31 แต่โมเสสกล่าวว่า “อย่าจากเราไปเลย ท่านชำนาญลู่ทางในการตั้งค่ายพักแรมกลางถิ่นกันดาร ท่านจะได้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้พวกเรา 32 ถ้าท่านไปกับเรา เราจะแบ่งปันสิ่งดีทุกอย่างที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เราให้กับท่าน”

33 ดังนั้นพวกเขาจึงออกเดินทางจากภูเขาแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าและเดินทางเป็นเวลาสามวัน ในระหว่างนั้นมีหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้านำหน้าเพื่อหาสถานที่ตั้งค่ายพักสำหรับพวกเขา 34 เมื่อพวกเขาออกเดินทางจากค่าย เมฆขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือพวกเขาในเวลากลางวัน

35 ทุกครั้งที่หีบพันธสัญญานำหน้าไป โมเสสกล่าวว่า

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงลุกขึ้น!
ให้ศัตรูทั้งหลายของพระองค์กระจัดกระจายไป
ให้บรรดาข้าศึกเตลิดหนีไปต่อหน้าพระองค์”

36 และเมื่อวางหีบพันธสัญญาลง เขากล่าวว่า

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงเสด็จกลับมา
สู่ประชากรอิสราเอลนับแสนนับล้านนี้เถิด”

แตรเงิน

10 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงตีแตรยาว 2 คันด้วยเงินและตีด้วยค้อน[a] เจ้าจงใช้แตรนั้นเรียกประชุมและเวลาออกเดินทาง เมื่อพวกเขาเป่าแตรทั้งสองคัน มวลชนทั้งปวงต้องมาประชุมพร้อมกันกับเจ้าที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย หากพวกเขาเป่าแตรคันเดียว บรรดาหัวหน้าหรือผู้นำของตระกูลชาวอิสราเอลต้องมาประชุมพร้อมกันกับเจ้า เมื่อเจ้าเป่าแตรให้สัญญาณเสียง บรรดาค่ายทางด้านตะวันออกจะออกเดินทาง และเมื่อเจ้าเป่าให้สัญญาณที่สอง บรรดาค่ายทางด้านใต้จะออกเดินทาง พวกเขาจะเป่าแตรให้สัญญาณเพื่อออกเดินทาง แต่เมื่อจะเรียกมวลชนมาประชุมร่วมกัน เจ้าจะต้องเป่าแตรงอน[b]ที่ไม่ใช่สัญญาณเดียวกัน บรรดาบุตรของอาโรนซึ่งเป็นปุโรหิต เป็นผู้เป่าแตรยาว จงถือเป็นกฎเกณฑ์ของทุกชาติพันธุ์ของพวกเจ้าไปตลอดกาล และหากเจ้าทำศึกสงครามกับศัตรูที่บีบบังคับเจ้าบนแผ่นดินของเจ้าเอง เจ้าก็จงเป่าแตรยาวให้สัญญาณ แล้วพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้าจะระลึกถึงพวกเจ้า และเจ้าจะปลอดภัยจากศัตรู 10 ในวันที่พวกเจ้ามีความยินดี ในเทศกาลที่กำหนดไว้ และในยามเทศกาลข้างขึ้น พวกเจ้าต้องเป่าแตรยาวในเวลามอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย และของถวายเพื่อสามัคคีธรรม และพวกเจ้าจะเป็นที่ระลึกถึง ณ เบื้องหน้าพระเจ้าของพวกเจ้า เราเป็นพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเจ้า”

เริ่มเดินทางออกจากซีนาย

11 ในวันที่ยี่สิบเดือนสองของปีที่สอง ก้อนเมฆลอยตัวขึ้นจากกระโจมที่พำนักแห่งพันธสัญญา 12 ชาวอิสราเอลจึงออกเดินทางออกจากถิ่นทุรกันดารซีนายจนกระทั่งก้อนเมฆหยุดอยู่ที่ถิ่นทุรกันดารปาราน 13 พวกเขาออกเดินทางครั้งแรกนี้ตามคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้าโดยผ่านโมเสส 14 บรรดากองทัพจากค่ายยูดาห์ออกเดินทางเป็นกองแรก ตามธงของพวกเขา นาโชนบุตรอัมมีนาดับเป็นผู้บังคับการ 15 เนธันเอลบุตรศุอาร์เป็นผู้นำกองทัพของเผ่าชาวอิสสาคาร์ 16 และเอลีอับบุตรเฮโลนเป็นผู้นำกองทัพของเผ่าชาวเศบูลุน

17 เมื่อรื้อกระโจมที่พำนักลง บรรดาบุตรเกอร์โชนและเมรารีผู้แบกหามกระโจมที่พำนักก็ออกเดินทาง 18 บรรดากองทัพจากค่ายรูเบนออกเดินทางตามไป ตามธงของพวกเขา เอลีซูร์บุตรเชเดเออร์เป็นผู้นำกองทัพ 19 เชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัยเป็นผู้นำกองทัพของเผ่าชาวสิเมโอน 20 เอลียาสาฟบุตรเดอูเอลเป็นผู้นำกองทัพของเผ่าชาวกาด

21 แล้วชาวโคฮาทออกเดินทางพร้อมกับแบกหามสิ่งบริสุทธิ์ โดยต้องมีคนตั้งกระโจมที่พำนักก่อนที่พวกเขาจะไปถึง 22 แล้วกองทัพจากค่ายของชาวเอฟราอิมออกเดินทางตามธงของพวกเขา เอลีชามาบุตรอัมมีฮูดเป็นผู้บังคับการ 23 กามาลิเอลบุตรเปดาห์ซูร์ เป็นผู้นำกองทัพของเผ่าชาวมนัสเสห์ 24 และอาบีดันบุตรกิเดโอนีเป็นผู้นำกองทัพของเผ่าชาวเบนยามิน

25 และกองทัพจากค่ายของชาวดานซึ่งเป็นค่ายท้ายสุดก็ออกเดินทางตามธงของพวกเขา อาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัยเป็นผู้บังคับการ 26 ปากีเอลบุตรโอครานเป็นผู้นำกองทัพของเผ่าชาวอาเชอร์ 27 อาหิราบุตรเอนันเป็นผู้บังคับการของชาวนัฟทาลี 28 ชาวอิสราเอลออกเดินทางตามธงของพวกเขา ดังที่กล่าวมา แล้วต่างก็มุ่งหน้าไป

โฮบับและหีบ

29 โมเสสพูดกับโฮบับบุตรเรอูเอลชาวมีเดียนพ่อตาของโมเสสว่า “พวกเรากำลังออกเดินทางไปยังที่ที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ‘เราจะให้ที่ดินแก่เจ้าทั้งหลาย’ จงมากับเรา แล้วเราจะดีต่อท่าน เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้สัญญาสิ่งดีๆ แก่อิสราเอล” 30 เขาพูดว่า “เราจะไม่ไป เราจะกลับไปยังดินแดนและหมู่ญาติพี่น้องของเรา” 31 แต่โมเสสพูดว่า “โปรดอย่าจากพวกเราไปเลย เพราะท่านทราบว่าพวกเราควรไปตั้งค่ายอย่างไรในถิ่นทุรกันดาร และท่านจะช่วยพวกเราได้มาก 32 และถ้าท่านไปกับเรา เราก็จะตอบแทนท่านเหมือนที่พระผู้เป็นเจ้ากระทำสิ่งดีๆ ให้แก่พวกเรา”

33 ดังนั้น พวกเขาจึงออกเดินทางจากภูเขาของพระผู้เป็นเจ้าไปเป็นเวลา 3 วัน หีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้านำหน้าพวกเขาไปในช่วง 3 วันเพื่อหาที่ให้พวกเขาพัก 34 เมฆของพระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือพวกเขาในเวลากลางวัน เมื่อเขาออกเดินทางไปจากค่าย

35 เมื่อใดพวกเขาหามหีบออกเดินทาง โมเสสจะพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า ลุกขึ้นเถิด ขอให้ศัตรูของพระองค์กระจัดกระจายไป ขอให้ข้าศึกของพระองค์เตลิดหนีไปต่อหน้าพระองค์” 36 เมื่อใดหีบหยุดพัก ท่านจะพูดว่า “ขอพระองค์กลับสู่ชาวอิสราเอลซึ่งมีจำนวนเป็นหมื่นเป็นแสน เกินกว่าจะนับได้ถ้วน”

Footnotes

  1. 10:2 ตีจากโลหะ มีเสียงแหลม
  2. 10:7 ตัดจากเขาแกะ

แตรเงิน

10 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้ทำแตรเงินสองอันสำหรับตัวเจ้า ให้เอาเงินมาทุบเป็นแตรสองอันนั้น แตรสองอันนี้เอาไว้เป่าเรียกคนมาชุมนุมกัน หรือเป่าบอกให้คนเคลื่อนย้ายเต็นท์ เมื่อเป่าแตรทั้งสองด้วยเสียงยาว ให้คนมาชุมนุมกันต่อหน้าเจ้าที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ แต่ถ้าเป่าแค่อันเดียว ก็ให้พวกผู้นำ ที่เป็นหัวหน้าของตระกูลต่างๆของอิสราเอลมาชุมนุมกันต่อหน้าเจ้า

เมื่อพวกเจ้าเป่าแตรเสียงสั้น ให้ค่ายทางตะวันออกเคลื่อนที่ เมื่อพวกเจ้าเป่าแตรเป็นเสียงสั้นครั้งที่สอง ให้ค่ายทางด้านใต้เคลื่อนที่ พวกเขาต้องเป่าแตรเสียงสั้นเพื่อบอกให้พวกเขาเคลื่อนย้าย แต่เมื่อเจ้าจะเรียกประชุมเจ้าต้องเป่าเสียงยาว ไม่ใช่เสียงสั้น ให้พวกลูกชายของอาโรนที่เป็นนักบวชทั้งหลายนั้นเป็นคนเป่าแตร นี่เป็นกฎสำหรับเจ้าที่จะใช้ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน

เมื่อเจ้าต้องออกไปทำสงครามกับศัตรูที่มาบุกรุกแผ่นดินของเจ้า เจ้าต้องเป่าแตรทั้งสองด้วยเสียงสั้น และยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจะได้ยินและจะช่วยให้เจ้าปลอดภัยจากศัตรูของเจ้า 10 ในเวลาที่พวกเจ้ามีงานรื่นเริง งานเทศกาลต่างๆและงานฉลองเริ่มเดือนใหม่ ให้พวกเจ้าเป่าแตร เมื่อพวกเจ้าถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสังสรรค์บูชาของพวกเจ้า เสียงแตรจะเป็นวิธีที่ทำให้พระเจ้านึกถึงเจ้า[a] เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”

ชาวอิสราเอลเคลื่อนย้ายค่าย

11 ในวันที่ยี่สิบของเดือนที่สองของปีที่สอง เมฆได้ลอยขึ้นจากเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ที่เก็บข้อตกลง 12 ชาวอิสราเอลจึงออกเดินทางจากที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนาย เมฆลอยมาหยุดอยู่ที่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งปาราน 13 นี่จึงเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคลื่อนย้าย ตามสัญญาณของพระยาห์เวห์ ที่สั่งผ่านมาทางโมเสส

14 ค่ายแรกที่ออกนำหน้าคือค่ายของยูดาห์ มีสามเผ่าจากค่ายนี้ คือเผ่าของยูดาห์ มีนาโชนลูกชายของอัมมีนาดับเป็นผู้นำกอง[b] 15 เผ่าของอิสสาคาร์ มีเนธันเอลลูกชายของศุอาร์เป็นผู้นำกอง 16 เผ่าเศบูลุนมีเอลีอับลูกชายเฮโลนเป็นผู้นำกอง ทั้งหมดเดินอยู่ภายใต้กองของตนเอง

17 แล้วพวกเขาก็ได้รื้อเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ลง ชาวเกอร์โชนและชาวเมรารีได้แบกเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์นั้นออกเดินทางเป็นกองต่อไป

18 ต่อจากนั้นเป็นค่ายของรูเบน มีสามเผ่าจากค่ายนี้ คือเผ่ารูเบน มีเอลีซูร์ลูกชายเชเดเออร์เป็นผู้นำกอง 19 เผ่าสิเมโอนมีเชลูมิเอลลูกชายศูริชัดดัยเป็นผู้นำกอง 20 เผ่ากาด มีเอลียาสาฟลูกชายเดอูเอลเป็นผู้นำกอง

21 ต่อจากนั้น ก็เป็นพวกชาวโคฮาท พวกนี้แบกของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในเต็นท์ตามไป เพื่อจะได้ไปถึงตอนที่เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ตั้งเสร็จแล้วในที่ใหม่

22 ต่อจากนั้นก็เป็นค่ายของเอฟราอิม ค่ายนี้มีสามเผ่า คือเผ่าเอฟราอิม มีเอลีชามาลูกชายของอัมมีฮูดเป็นผู้นำกอง 23 เผ่ามนัสเสห์ มีกามาลิเอลลูกชายของเปดาซูร์เป็นผู้นำกอง 24 เผ่าเบนยามิน มีอาบีดันลูกชายของกิเดโอนีเป็นผู้นำกอง ทั้งหมดเดินอยู่ภายใต้กองของตน

25 ค่ายที่คอยระวังท้ายให้ คือค่ายของดาน ค่ายนี้มีสามเผ่า คือเผ่าดาน มีอาหิเยเซอร์ลูกชายอัมมีชัดดัยเป็นผู้นำกอง 26 เผ่าอาเชอร์ มีปากีเอลลูกชายของโอครานเป็นผู้นำกอง 27 เผ่านัฟทาลี มีอาหิราลูกชายของเอนันเป็นผู้นำกอง ทั้งหมดก็เดินอยู่ภายใต้กองของตน

28 เวลาที่ชาวอิสราเอลเคลื่อนย้าย พวกเขาก็เคลื่อนขบวน เป็นกองๆตามลำดับอย่างนี้

29 โมเสสพูดกับโฮบับลูกชายเรอูเอลชาวมีเดียน (เรอูเอลเป็นพ่อตาของโมเสส)[c] ว่า “พวกเรากำลังเดินทางไปยังสถานที่ที่พระยาห์เวห์บอกว่าจะยกให้กับพวกเรา ไปกับพวกเราสิ เราจะดีกับท่าน เพราะพระยาห์เวห์สัญญาที่จะให้สิ่งดีๆกับชาวอิสราเอล”

30 แต่โฮบับตอบโมเสสว่า “ผมไม่ไปหรอก ผมจะกลับไปแผ่นดินของผม กลับไปหาครอบครัวของผม”

31 โมเสสจึงพูดว่า “อย่าได้ทิ้งพวกเราไปเลย เพราะท่านรู้ว่าพวกเราควรจะตั้งค่ายที่ไหนในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ช่วยนำทางพวกเราหน่อย 32 ถ้าท่านไปกับพวกเรา ไม่ว่าพระยาห์เวห์ให้สิ่งที่ดีๆอะไรกับเรา เราก็จะแบ่งสิ่งดีๆนั้นให้กับท่านด้วย”

33 พวกเขาจึงเคลื่อนออกจากภูเขาของพระยาห์เวห์ แล้วเดินทางไปเป็นเวลาสามวัน ตลอดสามวันนั้น นักบวชได้แบกหีบศักดิ์สิทธิ์ที่ใส่ข้อตกลงของพระยาห์เวห์ เดินนำหน้าพวกเขาอยู่ตลอดเวลา เพื่อหาที่ที่จะให้พวกเขาตั้งค่าย 34 เมฆของพระยาห์เวห์ลอยอยู่เหนือพวกเขาทุกวันตั้งแต่ออกจากค่ายมา

35 ทุกครั้งที่หีบศักดิ์สิทธิ์เคลื่อนออกจากค่าย โมเสสจะพูดว่า

“ลุกขึ้นเถิด พระยาห์เวห์
    ให้ศัตรูของพระองค์กระจัดกระจายไป
    ให้คนที่เกลียดชังพระองค์ วิ่งหนีพระองค์ไป”

36 และทุกครั้งที่เขาวางหีบศักดิ์สิทธิ์ลง โมเสสจะพูดว่า

“กลับมาเถิด[d] พระยาห์เวห์
    มาสู่ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนนี้”

Footnotes

  1. 10:10 พระเจ้านึกถึงเจ้า หรือ เพื่อให้ท่านจดจำพระเจ้าของท่านได้
  2. 10:14 กอง หรือ “กลุ่ม” เป็นศัพท์ทางทหารที่แสดงให้เห็นว่าอิสราเอลมีการจัดการในรูปแบบของกองทัพ
  3. 10:29 เรอูเอลเป็นพ่อตาของโมเสส ข้อความนี้อาจเข้าใจได้ว่าโฮบับเป็น “พ่อตาของโมเสส” แต่ในที่อื่นพ่อตาของโมเสสถูกเรียกว่าเรอูเอล (อพยพ 2:18) หรือเยโธร (อพยพ 18) ถ้าข้อความนี้พูดถึงโฮบับ (ผู้วินิจฉัย 1:16; 4:11) แล้ว น่าจะแปลว่า “การเป็นญาติโดยการแต่งงาน” ในกรณีนั้นโฮบับก็คือพี่เขยของโมเสส
  4. 10:36 กลับมาเถิด อาจจะแปลได้อีกว่า “พักผ่อนเถิด”